ไกลโฟเสทเป็นสารกำจัดวัชพืช ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกและมียอดการนำเข้าสูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันเกษตรกรได้เล็งเห็นถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากการใช้สารกำจัดวัชพืช ซึงสารเคมีที่ใช้มีความเป็นพิษต่อ พืช คน วัตวืและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสารเคมีบางชนิดยังเกิดการสะสมอยู่ในดินเป็นเวลานาน ทำให้จุลินทรีย์ในดินลดจำนวนลง ความอุดมสมบูรณ์ของดินและพืชปลูกลดลง จึงได้ทำการศึกษาข้อมูลประกอบกับงานวิจัยต่างๆ โดยงานวิจัยชิ้นนี้ตั้งสมมติฐานได้ว่า เชื้อแอคติโนมัยซีทในดินที่ทำการเกษตรสามารถยับยั้งเชื้อราก่อโรคในราก Rhizoctonia solani และSclerotium rolfsii ทั้งสองสายพันธุ์ คาดว่าการคัดแยกชื้อแอคติโนมัยซีทดังกล่าวเป็นอีกแนวทางหนึ่งเพื่อหาเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการควบคุมโรคพืช เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับเกษตรกรในการประหยัดต้นทุนการผลิต ปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยทำการคัดแยกเชื้อแอคติโนมัยซีทจากดินที่ทำการเกษตรได้ทั้งหมด 98 ไอโซเลท นำมาทดสอบโดยใช้วิธี Dual culture บนอาหาร PDA บ่มที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 7 วัน จากการบันทึกผลและรวบรวมข้ลมูลและวิเคราะห์หาค่าเปอร์เซ็นต์การยับยั้งเชื้อสาเหตุโรคพบว่า พบเชื้อแอคติโนมัยซีทที่สามารถยับยั้งเชื้อรา Rhizoctonia solani ได้ทั้งหมด 6 ไอโซเลท ค่าเปอร์เซ็นต์ยับยั้งเชื้อราสาเหตุโรครากเน่า Rhizoctonia solani ได้38.81,52.24,56.72,52.24,55.22 และ 44.03 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ จากผลการทดลองหาประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อราสาเหตุโรครากเน่านำมาทดสอบโดยวิธี Dual culture volatile test และ วิธี Paper disc diffusion method โดยมีชัดควบคุมคือ Cycloheximide พบว่าเมื่อเวลาผ่านไป 3 วันเชื้อแอคตฺโนมัยซีทไม่สามารถยับยั้งการเจริญของเส้นใยของเชื้อราก่อโรคได้เมื่อเปรียบเทียบกับชุดควบคุมและเมื่อนำไปทดสอบกับราวด์อัพ พบว่าราวด์อัพไม่มีผลกระทบหรือมีน้อยมากต่อการเจริญเติบโตของเชื้อแอคติโนมัยซีทที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อราก่อโรค