The generation of committed repeat

The generation of committed repeat purchasers has been a primary objective of marketers for decades because retaining customers requires less marketing resources than recruiting new ones(Knox & Walker, 2001; Reichheld & Sasser, 1990; Reichheld, 1996; Birgelen, 1997). And Loyalty has been used as a measure of the success of marketing strategy and a partial measure of brand equity(Knox & Walker, 2001, p. 111). Aaker(1991) treats loyalty as a dimension of brand equity. Keller(1993), Na, Marshall & Keller(1999) consider it as a consequence of strong brand associations. The concept of store loyalty has evolved from brand loyalty with respect to tangible goods(Cunningham, 1956). Cunningham(1961) was the first to extend brand loyalty into store loyalty using the same measures he had used earlier for brands.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รุ่นผู้ผูกมัดซ้ำแล้ววัตถุประสงค์หลักของนักการตลาดสำหรับทศวรรษที่ผ่านมาเนื่องจากต้องการรักษาลูกค้าทรัพยากรการตลาดน้อยกว่าสรรหาใหม่ (น็อกและวอล์คเกอร์ 2001 Reichheld & Sasser, 1990 Reichheld, 1996 Birgelen, 1997) และสมาชิกมีการใช้เป็นการวัดความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดและการวัดบางส่วนของแบรนด์หุ้น (น็อกและวอล์คเกอร์ 2001, p. 111) Aaker(1991) ปฏิบัติต่อสมาชิก โดยขนาดของส่วนแบรนด์ Keller(1993) นา มาร์แชลล์ และ Keller(1999) พิจารณาเป็นลำดับความสัมพันธ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีพัฒนาแนวคิดของร้านค้าสมาชิกจากสมาชิกแบรนด์เกี่ยวกับสินค้าจับต้องได้ (คันนิงแฮม 1956) Cunningham(1961) คนแรกขยายแบรนด์สมาชิกเป็นสมาชิกร้านค้าโดยใช้มาตรการเดียวที่เขามีใช้ก่อนหน้านี้สำหรับแบรนด์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รุ่นของผู้ซื้อซ้ำมุ่งมั่นที่ได้รับวัตถุประสงค์หลักของนักการตลาดมานานหลายทศวรรษเพราะการรักษาลูกค้าต้องใช้ทรัพยากรด้านการตลาดน้อยกว่าการสรรหาใหม่ (น็อกซ์และวอล์คเกอร์, 2001; Reichheld และ Sasser, 1990; Reichheld 1996; Birgelen, 1997) และความภักดีได้ถูกใช้เป็นตัวชี้วัดของความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดและมาตรการบางส่วนของตราสินค้า (น็อกซ์และวอล์คเกอร์, 2001, น. 111) Aaker (1991) ถือว่าเป็นมิติความจงรักภักดีของผู้ถือหุ้นแบรนด์ เคลเลอร์ (1993), นามาร์แชลล์และเคลเลอร์ (1999) คิดว่ามันเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง แนวคิดของความจงรักภักดีของร้านมีวิวัฒนาการมาจากความภักดีแบรนด์ที่เกี่ยวกับสินค้าที่จับต้อง (คันนิงแฮม, 1956) คันนิงแฮม (1961) เป็นครั้งแรกที่จะขยายความภักดีแบรนด์เข้าไปในร้านความจงรักภักดีโดยใช้มาตรการเดียวกับที่เขาเคยใช้ก่อนหน้านี้ให้กับแบรนด์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสร้างความมุ่งมั่นของผู้ซื้อซ้ำมีวัตถุประสงค์ของการตลาดสำหรับทศวรรษที่ผ่านมาเนื่องจากการรักษาลูกค้าต้องน้อยกว่าทรัพยากรด้านการตลาดมากกว่าการสรรหาคนใหม่ ( Knox &วอล์คเกอร์ , 2001 ; reichheld & Sasser , 2533 ; reichheld , 1996 ; birgelen , 1997 ) และความจงรักภักดีได้ถูกใช้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดและการวัดบางส่วนคุณค่าตราสินค้า ( Knox &วอล์คเกอร์2544 , หน้า 111 ) เคอร์ ( 1991 ) ถือว่าความจงรักภักดีเป็นมิติของทุนในแบรนด์ เคลเลอร์ ( 1993 ) , นา , มาร์แชล &เคลเลอร์ ( 1999 ) พิจารณาผลที่ตามมาของสมาคมแบรนด์ที่แข็งแกร่ง แนวคิดของความจงรักภักดีที่ร้านมีวิวัฒนาการมาจากความภักดีแบรนด์และสินค้าที่จับต้องได้ ( คันนิงแฮม , 1956 )คันนิงแฮม ( 1961 ) เป็นครั้งแรก เพื่อขยายแบรนด์ภักดีภักดีใช้มาตรการเดียวกันในร้านเขาใช้ก่อนหน้านี้ สำหรับยี่ห้อ