BU is in the Knowledge BusinessIt m

BU is in the Knowledge Business
It may be stating the obvious, but BU is in the
knowledge business. From the deep understanding
and historical knowledge of its senior managers, to
the expertise of its faculty, to the process knowledge
of its employees: the University functions through,
and because of, its knowledge. Knowledge in all
its forms is the key to running the University. Not
surprising then that over the last 15 years or so, many
business organizations have began to realize that
one of their key strategic assets is the knowledge
they possess [1]. Not just a notional asset either, as
many of those same organizations have actually
quantified the value of their corporate knowledge
and declared it as a business asset in their accounting
process [2]. At the same time, it doesn’t take a
rocket scientist to work out that if you have a
business asset as valuable as your knowledge, then
you had better start to manage it like any of your
other business assets, such as hardware, property or
personnel.
From this need to manage knowledge has grown
the business discipline now known as knowledge
management (KM). In fact, knowledge management
is anything but new, as companies have always
managed their knowledge in one way or another, its
just that previously they didn’t call it KM. KM in
one form or another has always existed wherever
business existed. In medieval times in Europe,
skilled craftsman apprenticed younger people in
order to pass on their knowledge to them. That
practice is still in evidence in KM today, now we
call it mentoring. Similarly, individuals and societies
have always managed their knowledge, whether
gathering important knowledge in documents,
visually or aurally, we capture what we know so
we can pass it on to others that follow us.
However, the main focus of KM, and its value
proposition to businesses, is that it seeks to not
merely capture what we know, but to ensure that
what we know gets used for the benefit of individuals
and companies. In other words, KM is all about
improvement, whether it be at an individual, group,
or enterprise level.
At the same time, KM has proved problematic
for many organizations who have tried to implement
it [3]. Why so? Because KM can seem to go
everywhere: it’s broad and it’s deep, and if you
don’t scope it properly, and set a realistic level of
expectation around it, you may find it becomes
difficult to manage.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

BU เป็นธุรกิจความรู้
มันอาจจะระบุชัดเจน แต่เป็น BU
ธุรกิจความรู้ จากความเข้าใจลึก
และความรู้ทางประวัติศาสตร์ของผู้บริหารระดับสูง การ
ความเชี่ยวชาญของคณะ ความรู้กระบวนการ
ของพนักงาน: มหาวิทยาลัยหน้าที่ผ่าน,
และเนื่อง จาก ความรู้ ความรู้ทั้งหมด
รูปแบบเป็นกุญแจสำคัญทำงานมหาวิทยาลัย ไม่
น่าแปลกใจแล้วที่กว่า 15 ปีหรือขอบคุณ มาก
องค์กรธุรกิจได้เริ่มตระหนักดีว่า
ทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญคือความรู้
ก็มี [1] ไม่เพียงสินทรัพย์ประจำชาติใด เป็น
หลายองค์กรเดียวที่มีจริง
quantified ค่าของความรู้ขององค์กร
และประกาศเป็นสินทรัพย์ทางธุรกิจในการลงบัญชีของ
กระบวนการ [2] ในเวลาเดียวกัน ไม่ใช้เป็น
จรวดนักวิทยาศาสตร์ที่ว่าเป็น
สินทรัพย์ธุรกิจมีคุณค่าที่ความรู้ของคุณ แล้ว
ดีกว่าคุณได้เริ่มต้นจัดการเช่นของคุณ
ทรัพย์สินของบริษัทอื่น ๆ เช่นฮาร์ดแวร์ คุณสมบัติ หรือ
บุคลากร
จากนี้ต้องจัดการ ความรู้ได้เติบโตขึ้น
วินัยธุรกิจตอนนี้ เรียกว่าความรู้
จัดการ (KM) ในความเป็นจริง การจัดการความรู้
อะไรแต่ใหม่ เป็นบริษัทได้เสมอ
จัดการความรู้ในทางเดียวหรืออื่น ของ
เพียงแค่ว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้เรียกว่า KM กม.ใน
รูปแบบเดียวหรืออื่นได้เสมออยู่ไหนก็ได้
ธุรกิจอยู่ ในยุคกลางในยุโรป,
ช่างฝีมือดีชำนาญ apprenticed คนอายุ
สั่งจะส่งไปให้ความรู้ ว่า
ฝึกยังเป็นหลักฐานใน KM ปัจจุบัน ขณะนี้เรา
เรียกว่าปรึกษา ในทำนองเดียวกัน บุคคลและสังคม
มีเสมอจัดการความรู้ ว่า
รวบรวมความรู้ที่สำคัญในเอกสาร,
aurally หรือเห็นเราจับอะไรเรารู้นั้น
เราสามารถส่งผ่านไปยังผู้อื่นที่ทำตามเราได้
อย่างไรก็ตาม โฟกัสหลักของ KM และค่า
เสนอธุรกิจ คือ ว่า มันพยายามที่จะไม่
เพียงจับภาพอะไรเรารู้ แต่เพื่อให้แน่ใจว่า
สิ่งที่เรารู้ว่าจะใช้เพื่อประโยชน์ของบุคคล
และบริษัท ในคำอื่น ๆ KM เป็น
พัฒนา ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มแต่ละ ,
หรือระดับองค์กร
พร้อมกัน KM ได้พิสูจน์ปัญหา
สำหรับหลายองค์กรที่พยายามใช้
มัน [3] ทำไมเพื่อ เนื่องจาก KM สามารถดูเหมือนจะ ไป
ทุก: จะกว้าง และก็ลึก และคุณ
ดอนไม่ขอบเขตได้อย่างถูกต้อง และตั้งระดับความสมจริงของ
ความรอบ คุณอาจพบเป็น
ยากที่จะจัดการได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

BU ที่อยู่ในธุรกิจความรู้
มันอาจจะระบุชัด แต่ BU อยู่ใน
ธุรกิจความรู้ จากความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
และความรู้ทางประวัติศาสตร์ของผู้บริหารระดับสูงในการที่จะ
เชี่ยวชาญของคณาจารย์ให้ความรู้กระบวนการ
ของพนักงาน: ฟังก์ชั่นมหาวิทยาลัยผ่าน
และเพราะความรู้ของตน ความรู้ในทุก
รูปแบบเป็นกุญแจสำคัญในการทำงานของมหาวิทยาลัย ไม่
น่าแปลกใจแล้วว่าในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาหลาย
องค์กรธุรกิจได้เริ่มตระหนักว่า
หนึ่งในสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของพวกเขาคือความรู้ที่
พวกเขามี [1] ไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์สัญญาทั้งสองเป็น
จำนวนมากขององค์กรเหล่านั้นได้จริง
วัดมูลค่าของความรู้ขององค์กรของพวกเขา
และประกาศว่ามันเป็นสินทรัพย์ทางธุรกิจในบัญชีของพวกเขา
กระบวนการ [2] ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ใช้
นักวิทยาศาสตร์จรวดที่จะทำงานออกว่าถ้าคุณมี
สินทรัพย์ทางธุรกิจที่มีคุณค่าเป็นความรู้ของคุณแล้ว
คุณมีดีกว่าเริ่มต้นที่จะจัดการกับมันได้เช่นใด ๆ ของคุณ
สินทรัพย์ทางธุรกิจอื่น ๆ เช่นฮาร์ดแวร์ทรัพย์สิน หรือ
บุคลากร
จากความจำเป็นในการจัดการความรู้นี้ได้เติบโตขึ้น
วินัยทางธุรกิจที่รู้จักกันตอนนี้เป็นความรู้
การจัดการ (KM) ในความเป็นจริงการจัดการความรู้
คืออะไร แต่ใหม่เป็น บริษัท ที่ได้เคย
มีการจัดการความรู้ของพวกเขาในหรืออีกวิธีหนึ่งที่
เพียงที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้เรียกว่า KM KM ใน
รูปแบบเดียวหรืออื่นมีอยู่ตลอดเวลาในทุก
ธุรกิจที่มีอยู่ ในยุคกลางในยุโรป
ช่างฝีมือหักอกคนหนุ่มสาวใน
การที่จะถ่ายทอดความรู้ของพวกเขากับพวกเขา ว่า
การปฏิบัติยังคงอยู่ในหลักฐานในการ KM วันนี้ตอนนี้เรา
เรียกมันว่าการให้คำปรึกษา ในทำนองเดียวกันบุคคลและสังคมที่
มีการบริหารจัดการความรู้ของพวกเขาเสมอไม่ว่าจะ
รวบรวมความรู้ที่สำคัญในเอกสาร
สายตาหรือ aurally เราจับภาพสิ่งที่เรารู้เพื่อให้
เราสามารถผ่านมันไปยังคนอื่น ๆ ที่ตามเรา
แต่จุดสนใจหลักของ KM และความคุ้มค่าของ
โจทย์ให้กับธุรกิจคือว่ามันพยายามที่จะไม่
เพียง แต่จับภาพสิ่งที่เรารู้ แต่เพื่อให้แน่ใจว่า
สิ่งที่เรารู้ได้รับใช้เพื่อประโยชน์ของบุคคล
และ บริษัท ในคำอื่น ๆ KM เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ
การปรับปรุงไม่ว่าจะเป็นที่แต่ละกลุ่ม,
หรือระดับองค์กร
ในขณะเดียวกันกมได้พิสูจน์แล้วว่ามีปัญหา
สำหรับหลายองค์กรที่มีความพยายามที่จะใช้
มัน [3] ทำไมเหรอ? เพราะ KM สามารถดูเหมือนจะไป
ทุกที่: เป็นวงกว้างและก็ลึกและถ้าคุณ
ไม่ได้ขอบเขตได้อย่างถูกต้องและตั้งระดับที่เป็นจริงของ
ความคาดหวังรอบ ๆ มันคุณอาจพบว่ามันจะกลายเป็น
เรื่องยากที่จะจัดการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่ในความรู้ทางธุรกิจ
อาจจะระบุชัดเจน แต่ปุ๊กอยู่
ธุรกิจความรู้ จากความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
และความรู้ทางประวัติศาสตร์ของผู้จัดการอาวุโสของ

ความเชี่ยวชาญของคณาจารย์ เพื่อกระบวนการความรู้
ของพนักงาน : มหาวิทยาลัยฟังก์ชันผ่าน
และเนื่องจาก ความรู้ของ ความรู้ในรูปแบบของ
เป็นกุญแจสำคัญที่ใช้ในมหาวิทยาลัย ไม่
น่าแปลกใจที่ในช่วง 15 ปีหรือดังนั้น องค์กรธุรกิจจำนวนมากเริ่มตระหนักว่า

มีหนึ่งของสินทรัพย์ของพวกเขาที่สำคัญเชิงกลยุทธ์คือ พวกเขามีความรู้
[ 1 ] ไม่ใช่แค่สัญญาทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่ง หลายองค์กรเดียวกัน

จริง ๆวัดคุณค่าของความรู้ขององค์กร
และประกาศเป็นธุรกิจสินทรัพย์ในบัญชี
กระบวนการ [ 2 ] ใน เวลาเดียวกันไม่ใช้นักวิทยาศาสตร์จรวดที่จะทำงานออกว่า

ถ้าคุณมีธุรกิจสินทรัพย์เท่าความรู้ของคุณแล้ว
คุณควรจะเริ่มต้นในการจัดการมันเช่นใด ๆของทรัพย์สินของคุณ
อื่น ๆธุรกิจ เช่น อุปกรณ์ ทรัพย์สินหรือ

จากบุคลากร ต้องจัดการความรู้ได้เติบโต
ธุรกิจ วินัยที่รู้จักกันในขณะนี้เป็นการจัดการความรู้
( km ) ในความเป็นจริง การจัดการความรู้ คือ อะไร แต่ ใหม่เป็นบริษัทที่มีเสมอ
จัดการความรู้ของพวกเขาในหรืออีกวิธีหนึ่ง ,
แค่ว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เรียกมันว่ากม. กิโลเมตรในรูปแบบเดียวหรืออื่นได้เสมอ

อยู่ที่ธุรกิจมีอยู่ ในยุคกลางในยุโรป
ช่างฝีมือ apprenticed น้องคน
เพื่อที่จะผ่านความรู้ของพวกเขาเพื่อพวกเขา ฝึก
ยังเป็นหลักฐาน km วันนี้ตอนนี้เรา
เรียกว่าแอฟริกัน ในทํานองเดียวกันบุคคลและสังคม
ต้องจัดการความรู้ การรวบรวมความรู้ที่สำคัญไม่ว่า

เห็นในเอกสาร หรือ aurally เราจับสิ่งที่เรารู้
เราสามารถส่งผ่านไปยังคนอื่น ๆที่ตามเรา .
แต่โฟกัสหลักของ KM และค่า
ข้อเสนอเพื่อธุรกิจ คือมันพยายามจะไม่
เพียงแต่จับสิ่งที่เรารู้ แต่เพื่อให้แน่ใจว่า
สิ่งที่เรารู้ได้ใช้เพื่อประโยชน์ของบุคคลและบริษัท
. ในคำอื่น ๆ , km มีทั้งหมดเกี่ยวกับการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นบุคคล กลุ่ม หรือระดับองค์กร
.
ในเวลาเดียวกัน , km ได้พิสูจน์ปัญหา
สำหรับหลายองค์กรที่พยายามใช้
[ 3 ] ทำไม ? เพราะ กม. สามารถดูเหมือนจะไป
ทุกที่ : มันกว้างและมันลึก และถ้าคุณ
ไม่ขอบเขตมันอย่างถูกต้องและการตั้งระดับความคาดหวังที่สมจริง
รอบ คุณอาจพบว่ามันกลายเป็น
ยากที่จะจัดการ