ABSTRACT The purpose of this study

ABSTRACT
The purpose of this study was to identify the leadership competencies and characteristics that are preferred by student affairs administrators, and to compare these preferences across generations to determine if there were any differences. The term preferred was used to indicate that the study asked respondents to assign a value or a level of importance to each competency, thus indicating preference. This study built on the work of McDaniel (2002) and Smith (2007). By utilizing the previously developed Higher Education Leadership Competencies (HELC) survey as the instrument, the data collected from this study has the potential to add new and valuable knowledge and insight into our current understandings of perceived leadership in the workplace, specifically the working environment of student affairs at institutions of higher education (Smith 2007).
This cognitive approach to leadership perceptions highlights differences in preferences of leadership in terms of specific leadership competencies. The data reduction technique of factor analysis resulted in 10 components with correlation coefficients above .50: Organizational
Behavior, Communication, External Relations, Diversity, Professionalism, Institutional Culture, Inclusiveness, Humor, Partnerships, and Technology. The top 5 ranked competency items from the HELC included: Communicates effectively, Acts consistent with core values and integrity, Learns from experience, Supports leadership of others, and Encourages professional development. The 4 most common „greatest challenges facing higher education leaders in the next 5 years‟ cited by respondents related to the budget, mental health issues, technology and diversity.
The ANOVA results indicated that 7 of the 10 components were found to have significant differences in means between groups: Communication, External Relations, Diversity, Professionalism, Institutional Culture, Humor and Partnerships. An ANCOVA analysis confirmed this finding while testing the variable „years of experience‟ as a covariate. The research question and main hypothesis were confirmed and supported – there are significant differences in preferred leadership competencies between different generations of student affairs administrators.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ได้ระบุความสามารถความเป็นผู้นำและลักษณะที่ต้องการผู้ดูแลกิจการนักเรียน และเปรียบเทียบลักษณะเหล่านี้ข้ามรุ่นการกำหนดถ้ามีความแตกต่างใด ๆ คำที่ต้องใช้เพื่อบ่งชี้ว่า การศึกษาถามตอบการกำหนดค่าหรือระดับความสำคัญของแต่ละสมรรถนะ จึง แสดงความ ศึกษานี้เน้นการทำงานของแม็กแดเนียล (2002) และสมิธ (2007) โดยใช้แบบสำรวจความสามารถความเป็นผู้นำศึกษา (HELC) พัฒนาก่อนหน้านี้เป็นเครื่องมือ ข้อมูลที่รวบรวมจากการศึกษามีศักยภาพในการเพิ่มความรู้ใหม่ และมีคุณค่าและเข้าใจในการเปลี่ยนความเข้าใจของเราปัจจุบันของผู้รับรู้ในทำงาน โดยเฉพาะระบบงานกิจการนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (Smith 2007) วิธีการนี้รับรู้การรับรู้ภาวะผู้นำเน้นความแตกต่างในลักษณะของความเป็นผู้นำในด้านความเชี่ยวชาญเฉพาะเป็นผู้นำ เทคนิคลดข้อมูลวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลให้ส่วนประกอบ 10 มีค่าสัมประสิทธิ์ความสัมพันธ์ข้างต้น 50: องค์กร ลักษณะการทำงาน สื่อสาร ความสัมพันธ์ภายนอก ความหลากหลาย มืออาชีพ สถาบันวัฒนธรรม Inclusiveness อารมณ์ขัน หุ้น และเทคโนโลยี 5 ด้านการจัดอันดับความสามารถสินค้าจาก HELC รวม: สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ทำหน้าที่สอดคล้องกับคุณค่าและความสมบูรณ์ Learns จากประสบการณ์ ผู้สนับสนุนของผู้อื่น และการสนับสนุนให้พัฒนาอาชีพ 4 มากที่สุด "ท้าทายมากที่สุดซึ่งผู้นำการศึกษาใน years‟ ต่อไป 5 ที่อ้าง โดยผู้ตอบที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ ปัญหาสุขภาพจิต เทคโนโลยี และความหลากหลาย ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนระบุว่า 7 ใน 10 ส่วนประกอบพบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในหมายถึงระหว่างกลุ่ม: สื่อสาร ความ สัมพันธ์ภายนอก ความหลากหลาย มืออาชีพ สถาบันวัฒนธรรม อารมณ์ขัน และความร่วมมือ การวิเคราะห์ ANCOVA การยืนยันนี้ค้นหาขณะที่การทดสอบตัวแปร "ปี experience‟ เป็น covariate เป็น คำถามวิจัยและสมมติฐานหลักถูกยืนยัน และสนับสนุน – มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในความสามารถเป็นผู้นำต้องระหว่างรุ่นต่าง ๆ ของผู้ดูแลกิจการนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้คือการระบุความสามารถเป็นผู้นำและลักษณะที่เป็นที่ต้องการของผู้บริหารกิจการนักเรียนและเพื่อเปรียบเทียบค่าเหล่านี้ข้ามรุ่นเพื่อตรวจสอบว่ามีความแตกต่างใด ๆ คำที่ต้องการถูกนำมาใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่าการศึกษาที่ถามผู้ตอบแบบสอบถามในการกำหนดค่าหรือระดับของการให้ความสำคัญกับความสามารถของแต่ละคนจึงแสดงให้เห็นการตั้งค่า การศึกษาครั้งนี้สร้างขึ้นในการทำงานของ McDaniel นี้ (2002) และสมิ ธ (2007) โดยใช้การพัฒนาก่อนหน้านี้ความสามารถเป็นผู้นำการอุดมศึกษา (ส HELC) สำรวจเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการศึกษานี้มีศักยภาพที่จะเพิ่มความรู้ใหม่และมีคุณค่าและความเข้าใจในความเข้าใจของเราในปัจจุบันของการเป็นผู้นำการรับรู้ในสถานที่ทำงานโดยเฉพาะสภาพแวดล้อมการทำงานของ กิจการนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (สมิ ธ 2007).
วิธีนี้ความรู้ความเข้าใจในการรับรู้ของความเป็นผู้นำที่เน้นความแตกต่างในการตั้งค่าของความเป็นผู้นำในแง่ของความสามารถเป็นผู้นำที่เฉพาะเจาะจง เทคนิคการลดข้อมูลของการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลให้ใน 10 ส่วนประกอบที่มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ดังกล่าวข้างต้น 0.50:
องค์การพฤติกรรมการสื่อสารความสัมพันธ์ภายนอก, ความหลากหลายเป็นมืออาชีพวัฒนธรรมสถาบันละม้ายคล้ายคลึงอารมณ์ขันพันธมิตรและเทคโนโลยี 5 อันดับแรกรายการจัดอันดับจากความสามารถ HELC รวม: สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพกิจการสอดคล้องกับค่านิยมหลักและความสมบูรณ์เรียนรู้จากประสบการณ์รองรับความเป็นผู้นำของผู้อื่นและส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ 4 ที่พบมากที่สุด "ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหันหน้าไปทางผู้นำการศึกษาที่สูงขึ้นใน 5 ปีข้างหน้า" โดยอ้างว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณที่ปัญหาสุขภาพจิต, เทคโนโลยีและความหลากหลาย.
ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า 7 ใน 10 ชิ้นส่วนที่พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ หมายถึงระหว่างกลุ่มสื่อสาร, ความสัมพันธ์ภายนอก, ความหลากหลายเป็นมืออาชีพวัฒนธรรมสถาบันอารมณ์ขันและความร่วมมือ การวิเคราะห์ ANCOVA ได้รับการยืนยันการค้นพบนี้ขณะที่การทดสอบตัวแปร "ปีของประสบการณ์" เป็นตัวแปรร่วม คำถามการวิจัยและสมมติฐานหลักได้รับการยืนยันและการสนับสนุน - มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในความสามารถที่ต้องการความเป็นผู้นำที่แตกต่างกันระหว่างรุ่นของผู้บริหารกิจการนักศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถนะภาวะผู้นำและคุณลักษณะที่เป็นที่ต้องการโดยงานกิจการนักศึกษา และเปรียบเทียบการตั้งค่าเหล่านี้ในรุ่นเพื่อตรวจสอบหากมีความแตกต่างใด ๆ . ระยะเวลาที่ต้องการถูกใช้เพื่อบ่งชี้ว่า การถามตอบกับกําหนดค่าหรือระดับความสำคัญของแต่ละความสามารถจึงแสดงความชอบ การศึกษานี้ได้สร้างขึ้นในการทำงานของ แม็คแดเนียล ( 2002 ) และ Smith ( 2007 ) โดยใช้การพัฒนาสมรรถนะภาวะผู้นำสูงกว่าการศึกษาก่อนหน้านี้ ( helc ) แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการศึกษานี้มีศักยภาพที่จะเพิ่มใหม่ และคุณค่า ความรู้ และความเข้าใจในการรับรู้ในปัจจุบันของเราความเข้าใจของภาวะผู้นำในสถานที่ทำงานโดยเฉพาะสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานกิจการนักเรียนนักศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษา ( Smith 2007 ) การรับรู้ภาวะผู้นำ
นี้วิธีการเน้นความแตกต่างในลักษณะของความเป็นผู้นำในแง่ของความสามารถในการเป็นผู้นำที่เฉพาะเจาะจง การลดข้อมูลเทคนิคการวิเคราะห์ปัจจัย ( 10 ส่วนประกอบกับสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สูงกว่า 50 : พฤติกรรมองค์การ
,การสื่อสารภายนอก , ความสัมพันธ์ , ความหลากหลาย , มืออาชีพ , สถาบันวัฒนธรรม inclusiveness , ตลก , ห้างหุ้นส่วน และ เทคโนโลยี อันดับที่ 5 จาก helc อันดับรายการสมรรถนะ ได้แก่ สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ การกระทำที่สอดคล้องกับค่านิยมหลักและความสมบูรณ์ เรียนรู้จากประสบการณ์ สนับสนุนภาวะผู้นำของผู้อื่น และสนับสนุนการพัฒนาอาชีพ4 ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ซึ่งสูงกว่าที่พบมากที่สุด„ผู้นำทางการศึกษาใน 5 ปีถัดไป‟อ้าง โดยผู้ตอบแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ , ปัญหาสุขภาพจิต , เทคโนโลยีและความหลากหลาย
ผล ANOVA พบว่า 7 ใน 10 ส่วน พบว่ามีความแตกต่างในค่าเฉลี่ยระหว่างกลุ่ม : การสื่อสาร ความสัมพันธ์ภายนอก , ความหลากหลาย , ความเป็นมืออาชีพ , วัฒนธรรม , สถาบันสัมพันธ์อารมณ์ขันและ . ส่วนการวิเคราะห์การยืนยันการค้นพบนี้ในขณะที่การทดสอบตัวแปร„ประสบการณ์‟เป็นขณะ การวิจัยและสมมติฐานหลักได้รับการยืนยันและสนับสนุน–มีความแตกต่างในที่ต้องการสมรรถนะภาวะผู้นำระหว่างรุ่นที่แตกต่างกันของผู้บริหารกิจการนักเรียน