Dynamically defining concepts withi

Dynamically defining concepts within an ontology have recently begun to be explored with the ideas of interpreting
concepts 7. Jaskolka et al. 7 suggest a framework for ontology design which includes an archetype and interpretations
component (among other components). Within the archetype component, concepts are defined at an abstract and
domain-independent level. The attributes that belong to the concepts are declared with a data type. For example, the
concept StudentGradeType may be defined as a String in the archetype component. However, within a domain, a data
type may be understood in several different ways. The interpretations component defines the concept dependent on
how the archetype is to be understood. Returning to our example, StudentGradeType as a String may be understood
in several ways: a letter-grade (e.g., A), as a percentage (e.g., 85%), or as a grade-point average (e.g., 3.0/4.0).
The interpretations component clearly instantiates the concept by giving the archetype an interpretation. From these
interpretations component, it leads us to understand that ontologies have a dynamic nature which changes depending
on how the concepts are interpreted

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนวคิดที่กำหนดแบบไดนามิกภายในภววิทยาเพิ่งได้เริ่มที่จะสำรวจแนวคิดของการตีความแนวคิด 7 Jaskolka et al. 7 แนะนำงานสำหรับออกแบบภววิทยาซึ่งรวมถึงการโดดเดี่ยวและการตีความคอมโพเนนต์ (ท่ามกลางองค์ประกอบอื่น ๆ) ภายในส่วนประกอบเดี่ยว มีกำหนดแนวคิดที่เป็นนามธรรม และระดับโดเมนอิสระ แอตทริบิวต์ที่อยู่ในแนวคิดที่จะประกาศ ด้วยชนิดข้อมูล ตัวอย่างเช่น การแนวคิด StudentGradeType อาจถูกกำหนดเป็นสตริในคอมโพเนนต์เดี่ยว อย่างไรก็ตาม ภายในโดเมน ข้อมูลชนิดที่อาจเข้าใจได้หลายวิธี ส่วนการตีความกำหนดขึ้นอยู่กับแนวคิดวิธีแม่จะเข้าใจ กลับไปตัวอย่างของเรา StudentGradeType เป็นสายอักขระอาจจะเข้าใจในหลายวิธี: เกรดเป็นตัวอักษร- (เช่น A), เปอร์เซ็นต์ (เช่น 85%), หรือ เป็นเกรดเฉลี่ย (เช่น 3.0/4.0)คอมโพเนนต์ตีความ instantiates แนวคิด โดยให้การตีความแม่อย่างชัดเจน จากเหล่านี้การตีความส่วนประกอบ มันทำให้เราเข้าใจว่า ontologies จะมีลักษณะแบบไดนามิกซึ่งเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับบนวิธีการตีความแนวคิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แบบไดนามิกการกำหนดแนวความคิดภายในอภิปรัชญาได้เริ่มเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับการสำรวจที่มีความคิดของการตีความ
แนวคิด 7. Jaskolka et al, 7 ขอแนะนำกรอบการทำงานสำหรับการออกแบบอภิปรัชญาซึ่งรวมถึงแม่แบบและการตีความ
ส่วนประกอบ (ในส่วนประกอบอื่น ๆ ) ภายในส่วนประกอบแม่แบบที่มีการกำหนดแนวความคิดที่เป็นนามธรรมและ
โดเมนระดับที่เป็นอิสระ แอตทริบิวต์ที่เป็นแนวคิดที่มีการประกาศที่มีประเภทข้อมูล ยกตัวอย่างเช่น
StudentGradeType แนวคิดอาจจะกำหนดเป็นสตริงในส่วนประกอบแม่แบบที่ อย่างไรก็ตามภายในโดเมนข้อมูล
ประเภทอาจจะเข้าใจในรูปแบบที่แตกต่างกันหลาย องค์ประกอบการตีความกำหนดแนวคิดขึ้นอยู่กับ
วิธีการที่แม่แบบที่จะเข้าใจ กลับไปที่ตัวอย่างของเรา StudentGradeType เป็นสตริงอาจจะเข้าใจ
ในหลายวิธี: จดหมายเกรด (เช่น A) เป็นเปอร์เซ็นต์ (เช่น 85%) หรือเป็นเกรดเฉลี่ยจุด (เช่น 3.0 / 4.0) .
องค์ประกอบการตีความอย่างชัดเจน instantiates แนวคิดโดยให้แม่แบบการตีความ จากนี้
องค์ประกอบการตีความก็ทำให้เราเข้าใจว่าออนโทโลมีลักษณะแบบไดนามิกซึ่งการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่
กับวิธีการที่แนวคิดที่จะถูกตีความ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แบบไดนามิกที่กำหนดแนวคิดในอภิปรัชญาเพิ่งเริ่มที่จะสำรวจกับความคิดของการตีความแนวคิด 7 jaskolka et al . 7 ขอแนะนำให้กรอบสำหรับอภิปรัชญาการออกแบบแม่แบบและการตีความซึ่งมีส่วนประกอบ ( ระหว่างคอมโพเนนต์อื่น ๆ ) ภายในต้นแบบ ส่วนแนวคิดที่เป็นนามธรรมและกำหนดโดเมนระดับอิสระ คุณลักษณะที่เป็นแนวคิดเป็นประกาศที่มีชนิดข้อมูล ตัวอย่างเช่นแนวคิด studentgradetype อาจถูกกำหนดเป็นข้อความในแม่แบบองค์ประกอบ อย่างไรก็ตาม ภายในโดเมน , ข้อมูลประเภทที่อาจจะเข้าใจในวิธีต่าง ๆ การตีความนิยามแนวคิดขึ้นอยู่กับส่วนประกอบวิธีการต้นแบบ เพื่อให้เข้าใจ กลับไปที่ตัวอย่างของเรา studentgradetype เป็นสตริงอาจจะเข้าใจหลายวิธี : จดหมายเกรด ( เช่น ) และร้อยละ ( เช่น 85% ) หรือเป็นเกรดเฉลี่ย ( เช่น , 3.0 / 4.0 )การตีความองค์ประกอบชัดเจน instantiates แนวคิด โดยให้แม่แบบการตีความ จากเหล่านี้การตีความองค์ประกอบ มันทำให้เราเข้าใจได้ว่า นโทโลจีมีธรรมชาติแบบไดนามิกซึ่งการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับว่ามีแนวคิดที่ตีความ