Warn move will tarnish image of cou

Warn move will tarnish image of country; call for long-term plans

AIRLINES ARE alarmed by the Transport Ministry's move to consider limiting incoming flights by ending the country's long-standing "open sky" policy, warning the move could badly damage Thailand's image.

The airlines also urged the government to draft a long-term plan to solve airspace problems rather than restricting the number of international flights as the open-sky policy had been in force for more than 10 years.

Santisuk Klongchaiya, director of commercial at Thai AirAsia, said numerous airlines operated in and out of Thailand under an open sky agreement - the same as many other countries.

However, he said the open-sky policy may not allow every airline to operate as required due to limitations in airport capacities.

"Despite having an open-sky policy, if an airport has no more space for new airline to get air slots, that means traffic is full and already limited," said Santisuk.

He added that the increase in flights at Suvarnabhumi Airport and Don Mueang Airport was not linked to the current aviation-safety issues facing the sector and the adoption of the open-sky policy.

Transport Minister ACM Prajin Juntong said on Friday that the ministry required the sound management of flight frequencies at airports and air traffic control.

He said Thailand's major airports were too congested and that was compromising safety.

The open-sky policy began in 2001 and was aimed at increasing the number of flights into the country and by extension the number of tourists, and specify the capacity of each airport.

A proposal to move away from that policy is expected to be submitted to the Cabinet for approval by September.

Currently, more than 800 flights operate at Suvarnabhumi Airport per day, higher than its 600-flight capacity.

Phuket International Airport, the country's second-busiest airport, was designed to handle 20 flights per hour but is servicing 23.

Thailand has also used the open-sky policy to promote the country as an aviation hub for the region. Since 2001, the number of domestic and international flights into the country has risen rapidly.

Suvarnabhumi, Bangkok's main international airport and the country's largest, has exceeded its capacity of 45 million passengers per year.

Piya Yodmani, chief executive officer of Nok Scoot, said airlines were confused by the plan to limit the number of international flights into the country.

Instead of scrapping the open-sky policy, he said "the government should prepare long-term measures to solve this problem".

Piya warned that ending the policy would result in Thailand's image being severely tarnished.

Charamporn Jotikasthira, president of Thai Airways International, refused to comment.

In March, the International Civil Aviation Organisation warned the Civil Aviation Department about its safety standards, which led Japan, South Korea, China and Singapore to restrict some routes for Thai carriers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เตือนย้ายจะพจน์ภาพของประเทศ เรียกแผนระยะยาวสายการบินตื่นตระหนก โดยย้ายกระทรวงคมนาคมไปพิจารณาจำกัดเที่ยวบินขาเข้า โดยสิ้นสุดในประเทศยาวนาน "ฟ้าเปิด" นโยบาย การเตือนย้ายอาจไม่ดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยสายการบินยังเรียกร้องให้รัฐบาลร่างแผนระยะยาวเพื่อแก้ปัญหา airspace แทนการจำกัดจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็นนโยบายเปิดฟ้าได้ในกองทัพมากกว่า 10 ปี สันติสุข Klongchaiya ผู้อำนวยการพาณิชย์ที่ Thai AirAsia กล่าวว่า สายการบินจำนวนมากดำเนินการเข้าและออกจากประเทศไทยภายใต้ข้อตกลงเปิดฟ้า - เหมือนประเทศอื่น ๆ มากอย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า นโยบายเปิดฟ้าอาจไม่อนุญาตให้ทุกสายการบินการใช้งานตามความจำเป็นเนื่องจากข้อจำกัดในความจุของสนามบิน"แม้จะมีนโยบายการเปิดฟ้า ถ้าสนามบินไม่มีช่องว่างเพิ่มเติมสำหรับสายการบินใหม่ไปที่ช่องอากาศ ซึ่งหมายความว่า การจราจรเป็นเต็มรูปแบบ และแล้ว จำกัด กล่าวว่า สันติสุขเขาเสริมว่า การเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองไม่ถูกเชื่อมโยงกับปัญหาความปลอดภัยการบินปัจจุบันหันหน้าเข้าหาภาคและยอมรับนโยบายเปิดฟ้า โรงแรมจุน Prajin พลอากาศรัฐมนตรีขนส่งกล่าวว่า ในวันศุกร์ที่ กระทรวงต้องการจัดการเสียงความถี่เที่ยวบินที่สนามบินและควบคุมจราจรทางอากาศ เขากล่าวว่า สนามบินหลักของประเทศไทยถูกแออัดเกินไป และที่ได้สูญเสียความปลอดภัยนโยบายเปิดฟ้าเริ่มต้นขึ้นในปีค.ศ. 2001 และมุ่งเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน ในประเทศ และขยายจำนวนนักท่องเที่ยว และระบุกำลังการผลิตของแต่ละสนามบิน ข้อเสนอที่จะย้ายไปที่นโยบายคาดว่าจะส่งไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติ โดยเดือนกันยายนปัจจุบัน เที่ยวบินมากกว่า 800 งานที่สนามบินสุวรรณภูมิต่อวัน สูงกว่าความจุของเที่ยวบิน 600 สนามบินภูเก็ต สนามบินอันดับสองของประเทศ ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการ 20 เที่ยวบินต่อชั่วโมง แต่จะให้บริการ 23ประเทศไทยได้ใช้นโยบายเปิดฟ้าเพื่อส่งเสริมประเทศเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค ตั้งแต่ปี 2001 จำนวนเที่ยวบินในประเทศ และต่างประเทศในประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สุวรรณภูมิ สนามบินนานาชาติหลักของกรุงเทพฯ และประเทศที่ใหญ่ที่สุด เกินความจุของผู้โดยสาร 45 ล้านต่อปีปิยะยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nok สายการบินสกู๊ต กล่าวว่า สายการบินถูกสับสน โดยแผนการในการจำกัดจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศในประเทศแทนที่จะกำจัดนโยบายเปิดฟ้า เขากล่าวว่า "รัฐบาลควรเตรียมมาตรการระยะยาวเพื่อแก้ปัญหานี้ได้"ปิยะเตือนว่า สิ้นสุดนโยบายจะทำในรูปของไทยถูกอย่างมัวหมองCharamporn Jotikasthira ประธานการบินไทย ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นมีนาคม องค์การนานาชาติพลเรือนบินเตือนแผนกการบินพลเรือนเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัย ที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และสิงคโปร์เพื่อจำกัดบางเส้นทางสำหรับสายการบินไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เตือนย้ายจะทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของประเทศ; เรียกร้องให้มีแผนระยะยาวสายการบินกำลังตื่นตระหนกโดยกระทรวงคมนาคมย้ายที่จะต้องพิจารณาการ จำกัด เที่ยวบินเข้ามาโดยการสิ้นสุดของประเทศยาวนาน "ฟ้าเปิด" นโยบายเตือนย้ายไม่ดีอาจเกิดความเสียหายภาพลักษณ์ของประเทศไทย. สายการบินนอกจากนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลที่จะร่าง แผนระยะยาวในการแก้ปัญหาน่านฟ้ามากกว่าการ จำกัด จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็นนโยบายเปิดท้องฟ้าที่ได้รับในการบังคับใช้มานานกว่า 10 ปี. สันติสุข Klongchaiya ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าที่ไทยแอร์เอเชียกล่าวว่าสายการบินจำนวนมากที่ดำเนินการทั้งในและนอก ประเทศไทยภายใต้ข้อตกลงที่ท้องฟ้าเปิด -. เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆอย่างไรก็ตามเขากล่าวว่านโยบายเปิดท้องฟ้าอาจไม่อนุญาตให้สายการบินที่จะดำเนินการตามที่กำหนดไว้เนื่องจากข้อ จำกัด ในความสามารถที่สนามบิน. "แม้จะมีนโยบายเปิดท้องฟ้าถ้า สนามบินไม่มีพื้นที่มากขึ้นสำหรับสายการบินใหม่ที่จะได้รับช่องอากาศที่หมายถึงการจราจรเต็มและ จำกัด อยู่แล้วกล่าวว่า "สันติสุข. เขาเสริมว่าการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองไม่ได้เชื่อมโยงกับปัญหาความปลอดภัยการบินในปัจจุบัน หันหน้าไปทางภาคและการยอมรับของนโยบายเปิดฟ้า. ขนส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ACM Prajin Juntong กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่ากระทรวงที่จำเป็นในการจัดการเสียงของความถี่เที่ยวบินที่สนามบินและการควบคุมการจราจรทางอากาศ. เขากล่าวว่าสนามบินหลักของไทยก็แออัดเกินไปและที่ได้รับการสูญเสีย ความปลอดภัย. นโยบายเปิดท้องฟ้าเริ่มต้นขึ้นในปี 2001 และได้รับการมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเข้ามาในประเทศและโดยการขยายจำนวนนักท่องเที่ยวและระบุความจุของสนามบินแต่ละ. ข้อเสนอที่จะย้ายออกไปจากนโยบายที่คาดว่าจะเป็น เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติในเดือนกันยายน. ปัจจุบันมากกว่า 800 เที่ยวบินทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิต่อวันสูงกว่ากำลังการผลิต 600 เที่ยวบิน. สนามบินนานาชาติภูเก็ตสนามบินของประเทศที่สองที่คึกคักที่สุดได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับ 20 เที่ยวบินต่อชั่วโมง แต่ มีการให้บริการ 23. ประเทศไทยยังใช้นโยบายเปิดท้องฟ้าเพื่อส่งเสริมประเทศเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค ตั้งแต่ปี 2001 จำนวนเที่ยวบินภายในประเทศและต่างประเทศเข้ามาในประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว. สุวรรณภูมิกรุงเทพฯสนามบินนานาชาติหลักของประเทศที่ใหญ่ที่สุดได้เกินความจุ 45 ล้านคนต่อปี. ปิยะยอดมณีประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินนก Scoot กล่าวว่า สายการบินที่ได้รับการสับสนโดยวางแผนที่จะ จำกัด จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศเข้ามาในประเทศ. แทนการทิ้งนโยบายเปิดท้องฟ้าเขากล่าวว่า "รัฐบาลควรเตรียมมาตรการระยะยาวเพื่อแก้ปัญหานี้". ปิยะเตือนว่าสิ้นสุดนโยบายจะ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่ถูกทำให้มัวหมองอย่างรุนแรง. จรัมพรโชติกเสถียรประธานการบินไทยปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น. ในเดือนมีนาคมบินพลเรือนระหว่างประเทศองค์การเตือนกรมการบินพลเรือนเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของ บริษัท ซึ่งนำญี่ปุ่น, เกาหลี, จีนและสิงคโปร์ จำกัด บางเส้นทางสำหรับผู้ให้บริการไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เตือนย้ายจะทำลายภาพลักษณ์ของ ประเทศ โทร สำหรับแผนระยะยาว

สายการบินตื่นตระหนกโดยกระทรวงคมนาคมจะพิจารณาการย้ายเข้ามาโดยจบเที่ยวบินอันยาวนานของประเทศ " เปิดฟ้า เปิด " นโยบายการย้ายที่อาจไม่ดีความเสียหายของภาพประเทศไทย

สายการบินยังเรียกร้องให้รัฐบาลในการร่างแผนระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาน่านฟ้ามากกว่า จำกัด จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็นนโยบายท้องฟ้าเปิดมีแรงมากกว่า 10 ปี

สันติสุข klongchaiya ผู้อำนวยการเชิงพาณิชย์ที่ไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า สายการบินหลายดำเนินการในและออกของประเทศไทยภายใต้ข้อตกลงเปิดฟ้า - เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม , เขากล่าวว่า นโยบายการเปิดฟ้าอาจไม่อนุญาตให้ทุกสายการบินใช้งานตามที่ต้องการเนื่องจากข้อ จำกัด ในความจุที่สนามบิน

" แม้จะมีนโยบายท้องฟ้าเปิด ถ้าสนามบินไม่มีที่ว่างสำหรับสายการบินใหม่ที่จะได้รับช่องอากาศ ซึ่งหมายความว่าการจราจรเต็มและ จำกัด ได้กล่าวว่า " สันติสุข .

เขา กล่าวว่า การเพิ่มเที่ยวบินในสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองไม่ได้เชื่อมโยงกับปัญหาซึ่งปัจจุบันความปลอดภัยการบินภาคและการยอมรับของนโยบายการเปิดฟ้า

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพลอากาศเอก prajin สกุลไทย กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า กระทรวงต้องเสียงการจัดการการบินความถี่ที่สนามบินและศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ .

เขา กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นสนามบินหลัก มันแออัดและที่ประนีประนอมความปลอดภัย

เปิดนโยบายท้องฟ้าเริ่มขึ้นในปี 2544 และมีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในประเทศ และขยายจำนวนนักท่องเที่ยว และระบุความจุของแต่ละสนามบิน

ของข้อเสนอที่จะย้ายออกไปจากนโยบายที่คาดว่าจะถูกส่งไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยวันที่

ในปัจจุบันมากกว่า 800 เที่ยวบิน งานที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต่อวัน สูงกว่าความจุ 600 เที่ยวบิน

สนามบินนานาชาติภูเก็ต , ประเทศอันดับที่สองสนามบินถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับ 20 เที่ยวบินต่อชั่วโมง แต่เป็นบริการ 23 .

ประเทศไทยยังใช้เปิดฟ้า เปิดนโยบายให้ประเทศเป็นฮับการบินในภูมิภาค ตั้งแต่ปี 2001หมายเลขของเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศในประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

สุวรรณภูมิสนามบินนานาชาติกรุงเทพหลักและใหญ่ที่สุดของประเทศ มีเกินความจุของ 45 ล้านคนต่อปี yodmani

ปิยะ , ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ นกก้ม กล่าวว่า สายการบินมีความสับสน โดยวางแผนที่จะจำกัดจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศในประเทศ

แทนที่จะตั้งนโยบายท้องฟ้าเปิด เขากล่าวว่า " รัฐบาลควรเตรียมมาตรการระยะยาวเพื่อแก้ปัญหานี้ "

ปิยะเตือนว่าสิ้นสุดนโยบายจะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยถูกอย่างรุนแรงมัวหมอง .

Charamporn โชติกเสถียร , ประธานของ บริษัท การบินไทย ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

ในเดือนมีนาคมองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศเตือนแผนกการบินพลเรือนเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งทำให้ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และสิงคโปร์ เพื่อ จำกัด บางเส้นทางไทย
)