on a number of indicators on a scal

on a number of indicators on a scale of 1-5, with 5 being strongly agree and 1 being
strongly disagree. There was a strong agreement among the respondents that
retailers will benefit from RFID (mean score of 4.13), and retailers will gain more than
manufacturers (mean score of 3.95) and retailers will see cost savings from RFID
(mean score of 3.62). Respondents were pretty much neutral when it comes to
manufacturers benefiting and saving from RFID (mean score of 3.25) and manufacturers
will see cost savings from RFID (mean score of 2.75) (Figure 15). This is similar to the
findings from the 2004 study and it shows a continuing trend that RFID adopters feel
that overall retailers will benefit more from RFID than manufacturers. It is our belief that
the pressure for RFID adoption in the future will continue to come from retailers. The
manufacturers will respond only if there is a demand from retailers to implement RFID
technology as the manufacturers do not see ROI in RFID adoption (Table V).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จำนวนของตัวชี้วัดในระดับ 1-5, 5 การขอยอมรับและถูก 1ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง มีข้อตกลงที่แข็งแกร่งระหว่างผู้ตอบที่ร้านค้าปลีกจะได้รับประโยชน์จาก RFID (หมายถึง คะแนนของ 4.13), และผู้ค้าปลีกจะได้รับมากกว่า(หมายถึง คะแนนของ 3.95) ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกจะดูประหยัดค่าใช้จ่ายจาก RFID(หมายถึง คะแนนของ 3.62) ผู้ตอบถูกเป็นกลางสวยมากเมื่อมันมาถึงผู้ผลิตรับประโยชน์ และบันทึกจาก RFID (หมายถึง คะแนนของ 3.25) และผู้ผลิตจะดูประหยัดค่าใช้จ่ายจาก RFID (หมายถึง คะแนนของ 2.75) (รูปที่ 15) นี่คือคล้ายกับการผลการวิจัยจากการศึกษา 2004 และแสดงแนวโน้มต่อความรู้สึกของผู้รับบุตรบุญธรรม RFIDว่า ร้านค้าปลีกโดยรวมจะได้ประโยชน์จาก RFID กว่าผู้ผลิตรายนี้ มันเป็นความเชื่อของเราที่ความดันรอ RFID ในอนาคตจะยังคงมาจากร้านค้าปลีก การผู้ผลิตจะตอบสนองเฉพาะถ้า มีความต้องการจากร้านค้าปลีกการใช้ RFIDเทคโนโลยีเป็นผู้ผลิตที่ไม่สามารถเห็น ROI ในนำ RFID (ตาราง V)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กับจำนวนของตัวชี้วัดโย 1-5 มี 5 เป็นเห็นด้วยอย่างยิ่งและเป็น 1
เห็นด้วยอย่างยิ่ง มีข้อตกลงที่แข็งแกร่งในหมู่ผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็น
ร้านค้าปลีกจะได้รับประโยชน์จาก RFID (คะแนนเฉลี่ย 4.13) และร้านค้าปลีกจะได้รับมากกว่า
ผู้ผลิต (คะแนนเฉลี่ย 3.95) และร้านค้าปลีกจะเห็นการประหยัดต้นทุนจาก RFID
(คะแนนเฉลี่ย 3.62) ผู้ตอบแบบสอบถามได้สวยเป็นกลางมากเมื่อมันมาถึงการ
ผลิตที่ได้รับประโยชน์จากการประหยัดและ RFID (คะแนนเฉลี่ย 3.25) และผู้ผลิต
จะเห็นการประหยัดต้นทุนจาก RFID (คะแนนเฉลี่ย 2.75) (รูปที่ 15) นี้มีความคล้ายคลึงกับ
ผลการวิจัยจากการศึกษาปี 2004 และมันแสดงให้เห็นแนวโน้มอย่างต่อเนื่องว่า RFID adopters รู้สึก
ว่าร้านค้าปลีกโดยรวมจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจาก RFID กว่าผู้ผลิต มันเป็นความเชื่อของเราที่
ความดันสำหรับการนำไปใช้ RFID ในอนาคตจะยังคงมาจากร้านค้าปลีก
ผู้ผลิตจะตอบสนองเฉพาะในกรณีที่มีความต้องการจากร้านค้าปลีกที่จะใช้ RFID
เทคโนโลยีเป็นผู้ผลิตไม่เห็นผลตอบแทนการลงทุนในการนำ RFID (ตาราง V)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกี่ยวกับจำนวนของตัวชี้วัดในระดับ 1-5 , 5 การเห็นด้วยและ 1 เป็นเห็นด้วย มีข้อตกลงในหมู่ผู้ตอบแบบสอบถามที่แข็งแกร่งผู้ค้าปลีกจะได้รับประโยชน์จาก RFID ( คะแนนเฉลี่ย 4.13 ) และร้านค้าปลีกจะได้รับมากกว่าผู้ผลิต ( คะแนนเฉลี่ย 3.95 ) และร้านค้าปลีกจะเห็นการประหยัดต้นทุนจาก RFID( ค่าเฉลี่ย 3.62 ) ผู้ตอบแบบสอบถามได้สวยมาก เป็นกลาง เมื่อมันมาถึงผู้ผลิตได้ประโยชน์และประหยัดจาก RFID ( เฉลี่ย 3.25 ) และผู้ผลิตจะเห็นการประหยัดต้นทุนจาก RFID ( คะแนนเฉลี่ย 2.75 ) ( รูปที่ 15 ) นี้จะคล้ายกับผลจากการสำรวจศึกษาและมันแสดงให้เห็นแนวโน้มที่ต่อเนื่องที่ adopters RFID รู้สึกที่ผู้ค้าปลีกโดยรวมจะได้รับประโยชน์มากขึ้นจาก RFID กว่าผู้ผลิต มันเป็นความเชื่อของเราว่าความดันสำหรับระบบการยอมรับในอนาคตจะยังคงมาจากร้านค้าปลีก ที่ผู้ผลิตจะตอบสนองหากมีความต้องการที่จะใช้ RFID จากร้านค้าปลีกเทคโนโลยีเป็นผู้ผลิตไม่เจอร้อยเอ็ดใน RFID การยอมรับ ( ตารางที่ 5 )