Holyrood PalaceThe palace as it sta

Holyrood Palace
The palace as it stands today was built between 1671-1678 in a quadrangle layout, approximately 230 feet (70 m) from north to south and 230 feet (70 m) from east to west, with the exception of the 16th-century north-west tower built by James V. Sir William Bruce designed the 3-storey plus attic Baroque palace for Charles II upon the restoration of the monarchy. The principal entrance is located on the west front in a recessed 2-storey range that links the 16th-century north-west tower with a matching south-west tower with three ball-finialled, conical bell-cast roofs. The entry gateway is framed by massive coupled Roman Doric columns, with the carved Royal Arms of Scotland and an octagonal cupola with clock-face above.


The forecourt, fountain, and Georgian and Jacobean frontages
The north and south fronts have symmetrical 3-storey facades that rise behind to far left and right of 2-storey range with regular arrangement of bays. General repairs were completed by the architect Robert Reid between 1824-1834 that included the partial rebuilding of the south-west corner tower and refacing of the entire south front in ashlar to match that of the east.[3] The east front has 17 pilastered bays with superimposed columns at each floor. The ruins of the abbey church connect to the palace on the north-east corner. For the internal quadrangle, Bruce designed a colonaded piazza of nine arches on the north, south and east facades superimposed with columns from the three classical orders to indicate the importance of the three main floors. The plain Doric order is used for the services at ground floor, the Ionic order is used for the state apartments on the first floor while the elaborate Corinthian order is used for the royal apartments on the second floor.[4]

Architectural historian Dan Cruickshank selected the palace as one of his eight choices for the 2002 BBC book The Story of Britain's Best Buildings.[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พระราชวังพระราชวังเป็นวันนี้สร้าง 1671-1678 เค้าโครงที่คัวดรานเกิล ประมาณ 230 ฟุต (70 เมตร) จากเหนือไปใต้ และ 230 ฟุต (70 เมตรจากตะวันออกไปทางตะวันตก ยกเว้นหอตะวันตกเฉียงเหนือศตวรรษที่ 16 สร้างขึ้น โดยเจมส์ V. Sir William บรูซ)มา 3 ชั้นพร้อมห้องใต้หลังคาพระราชวังบารอก Charles II เมื่อการฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์ ทางเข้าหลักอยู่ทางตะวันตกในช่วงปิดภาคเรียน 2 ชั้นที่เชื่อมโยงตะวันตกเฉียงเหนือศตวรรษที่ 16 หอกับหอตะวันตกเฉียงใต้ตรงกับสามลูก-finialled กรวยหล่อระฆังหลังคา เกตเวย์รายการเป็นกรอบใหญ่คู่โรมันโดริกคอลัมน์ แขนแกะสลักหลวงของสกอตแลนด์และคิวโพลาแปดเหลี่ยมด้านบนหน้าตานาฬิกาแผงลอย น้ำพุ และ frontages จอร์เจียและจาโคไบท์The north and south fronts have symmetrical 3-storey facades that rise behind to far left and right of 2-storey range with regular arrangement of bays. General repairs were completed by the architect Robert Reid between 1824-1834 that included the partial rebuilding of the south-west corner tower and refacing of the entire south front in ashlar to match that of the east.[3] The east front has 17 pilastered bays with superimposed columns at each floor. The ruins of the abbey church connect to the palace on the north-east corner. For the internal quadrangle, Bruce designed a colonaded piazza of nine arches on the north, south and east facades superimposed with columns from the three classical orders to indicate the importance of the three main floors. The plain Doric order is used for the services at ground floor, the Ionic order is used for the state apartments on the first floor while the elaborate Corinthian order is used for the royal apartments on the second floor.[4]Architectural historian Dan Cruickshank selected the palace as one of his eight choices for the 2002 BBC book The Story of Britain's Best Buildings.[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระราชวัง
พระราชวังในขณะที่มันยืนอยู่ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นระหว่าง 1671-1678 ในรูปแบบลานกว้างประมาณ 230 ฟุต (70 เมตร) จากทิศเหนือไปทิศใต้และ 230 ฟุต (70 เมตร) จากตะวันออกไปตะวันตกด้วยข้อยกเว้นของศตวรรษที่ 16 หอคอยทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่สร้างขึ้นโดยเจมส์โวลต์เซอร์วิลเลียมบรูซได้รับการออกแบบ 3 ชั้นบวกพระราชวังบาร็อคห้องใต้หลังคาของชาร์ลส์ครั้งที่สองเมื่อการฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ ทางเข้าหลักตั้งอยู่บนด้านหน้าของฝั่งตะวันตกในช่วงปิดภาคเรียน 2 ชั้นที่เชื่อมโยงในศตวรรษที่ 16 หอคอยทิศตะวันตกเฉียงเหนือกับหอการจับคู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ที่มีสามลูก finialled หลังคาระฆังหล่อรูปกรวย เกตเวย์รายการจะถูกล้อมกรอบด้วยคู่ Doric คอลัมน์ใหญ่โรมันกับแกะสลักรอยัลแขนของสกอตแลนด์และโดมแปดเหลี่ยมมีนาฬิกาใบหน้าดังกล่าวข้างต้น


ลานน้ำพุและ frontages จอร์เจียและ Jacobean
ทิศเหนือและทิศใต้มีเสื้อแจ็กเก็สมมาตรอาคาร 3 ชั้นที่สูงขึ้นหลังซ้ายสุดและขวาของช่วง 2 ชั้นมีการจัดเรียงปกติของอ่าว ซ่อมแซมทั่วไปเสร็จสมบูรณ์โดยสถาปนิกโรเบิร์ตเรดระหว่าง 1824-1834 ที่รวมการบูรณะบางส่วนของหอมุมทิศตะวันตกเฉียงใต้และ refacing ของด้านหน้าทางทิศใต้ทั้งใน ashlar ให้ตรงกับทางทิศตะวันออก. [3] ด้านตะวันออกมี 17 pilastered อ่าวที่มีคอลัมน์ซ้อนทับกันในแต่ละชั้น ซากปรักหักพังของวัดโบสถ์เชื่อมต่อไปยังพระราชวังบนมุมตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับลานกว้างภายในบรูซได้รับการออกแบบ Piazza colonaded เก้าโค้งบนทิศเหนือทิศใต้และทิศตะวันออกอาคารทับด้วยคอลัมน์จากคลาสสิกสามคำสั่งเพื่อแสดงให้เห็นความสำคัญของสามชั้นหลัก คำสั่ง Doric ธรรมดาถูกนำมาใช้สำหรับการให้บริการที่ชั้นล่างของอิออนสั่งที่ใช้สำหรับอพาร์ทเมนรัฐในชั้นแรกขณะที่หรูหราเพื่อซับซ้อนใช้สำหรับอพาร์ทเมนรอยัลบนชั้นสอง. [4]

ประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมแดน Cruickshank เลือกพระราชวังเป็นหนึ่งในแปดทางเลือกของเขาสำหรับหนังสือเล่มที่ 2002 บีบีซีเรื่องของอาคารที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักร. [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระราชวังโฮลีรูดวังมันยืนในวันนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่าง 1671-1678 ในผังสี่เหลี่ยมประมาณ 230 ฟุต ( 70 เมตร ) จากเหนือจรดใต้ และ 230 ฟุต ( 70 เมตร ) จากตะวันออกไปตะวันตกด้วยข้อยกเว้นของศตวรรษที่ 16 ทิศตะวันตกเฉียงเหนือหอคอยสร้างโดยเจมส์โวลต์ เซอร์วิลเลี่ยม บรูซ ออกแบบตัวบวกห้องใต้หลังคาพิสดารวังชาร์ลส์ ii เมื่อการฟื้นฟูราชวงศ์ ทางเข้าหลัก ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าตะวันตกในช่วงปิดภาคเรียน 2 ชั้นที่เชื่อมโยงทิศตะวันตกเฉียงเหนือหอคอยศตวรรษที่ 16 ที่เข้าคู่กับทางตะวันตกเฉียงใต้หอคอยที่มีสามลูก finialled หลังคาทรงกรวยหล่อระฆัง ทางเข้าประตูเป็นกรอบใหญ่คู่โรมัน ดอริคคอลัมน์ด้วยรูปตราแผ่นดินของสกอตแลนด์และมีหลังคาทรงโดม 8 เหลี่ยม หน้าปัดนาฬิกาด้านบนที่ลานหน้าบ้าน น้ำพุ และจอร์เจีย และ frontages จาโคเบียนเหนือและใต้ มี 3 ชั้น ด้านหน้าอาคารสมมาตรที่เพิ่มขึ้นหลังซ้ายสุดและขวาช่วง 2 ชั้น เรื่องปกติของอ่าว ซ่อมแซมทั่วไปที่สร้างโดยสถาปนิกโรเบิร์ต เรด ระหว่าง 1824-1834 ที่รวมการบางส่วนของหอมุมตะวันตกเฉียงใต้และ refacing ของด้านหน้าใต้ทั้งหมดในแอชลาร์ตรงกับของตะวันออก . [ 3 ] ด้านหน้าทางทิศตะวันออกมี 17 pilastered อ่าวกับทับคอลัมน์ในแต่ละชั้น ซากปรักหักพังของโบสถ์วัดเชื่อมต่อกับวังในมุมตะวันออกเฉียงเหนือ . สำหรับสี่เหลี่ยมภายใน Bruce ออกแบบ Piazza colonaded 9 ซุ้ม เหนือ ใต้ และตะวันออกอาคารซ้อนทับกับคอลัมน์จากสามคลาสสิกคำสั่งเพื่อบ่งชี้ถึงความสำคัญของหลักสามชั้น สั่ง Doric ธรรมดาใช้สำหรับการบริการที่ชั้นล่าง เพื่อฟอกใช้สำหรับอพาร์ทเมนรัฐชั้นล่างในขณะที่ซับซ้อนหรูหราออกคำสั่งใช้ห้องพระบนชั้น 2 [ 5 ]นักประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมแดนกล้องอันนี้เลือกวังเป็นหนึ่งในแปดตัวเลือกสำหรับ 2002 บีบีซีหนังสือเรื่องราวของอาคารที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักร . [ 5 ]