CHAPTER 10 Encryption Keeping secre

CHAPTER 10 Encryption
Keeping secrets by disguising them, hiding them, or making them indecipherable to others is an ancient practice. It evolved into the modem practice of cryptograph the science of secret writing. or the study of obscuring data using algorithms and secret keys. A Brief History of Encryption Once upon a time, keeping data secret was not hard. Hundreds of years ago. when few people were literate, the use of written language alone often sufficed to keep information from becoming general knowledge. To keep secrets then, you sim ply had to write them down. keep them hidden from those few people who could read, and prevent others from ring the meaning of a docume nt is difficult if it is written in a learning how to read. Deciphe language you do not know. History tells us that important secrets were kept by writing them down and hiding them from literate people. Persian border guards in the fourth century B.c. let blank wax Miting tablets pass, but the tablets hid a message warning Greece of an impending attack. The ply covered by a thin layer of fresh wax. Scribes also tattooed messages on the message was sim shaved heads of messengers. When their hair grew back in, the messengers could travel incognito through enemy lands. When they arrived at their destination. their heads were shaved and the knowledge was revealed. But the fate of nations could not rely for very long on such obfuscation, which relied entirely on these tricks to keep the writing secret. It did not take very long for ancient military leaders to create and use more sophisticated technques. Ever since then, encryption has been a process ofusing increasingly complex tactics to stay one step ahead of those who want your secret data. when hiding meaning in ordinary written language and hiding the message itself became passé, the idea of hiding the meaning became the rule. From what we know of they loved a good puzzle. What greater puzzle than to obscure a message using a series of steps? Unless you knew the Meps taken-the algorithm used to produce the apAn (the name for the daguised mesage You couldn't untangle or decipher isthou a great deal of difficulty. However, the challenge of an unsohable puzzle was irresistible to

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทที่ 10 การเข้ารหัสลับ รักษาความลับ โดย disguising พวกเขา การซ่อนพวกเขา หรือทำ indecipherable ให้ผู้อื่นเป็นการปฏิบัติโบราณ จึงพัฒนาสู่การปฏิบัติโมเด็มของ cryptograph ศาสตร์ลับเขียน หรือการศึกษาข้อมูลโดยใช้อัลกอริทึมและคีย์ลับ obscuring การย่อประวัติของการเข้ารหัสลับเมื่อเมื่อเวลา รักษาข้อมูลความลับได้ไม่ยาก หลายร้อยปีที่ผ่านมา เมื่อบางคนได้ literate การใช้ภาษาเขียนคนเดียวบ่อยกลางการเก็บข้อมูลเป็น ความรู้ทั่วไป การเก็บความลับ แล้ว คุณ sim ชั้นได้เขียนลง ให้พวกเขาซ่อนจากบางคนอาจอ่าน และป้องกันผู้อื่นจากแหวนความหมายของการ docume nt เป็นเรื่องยากถ้ามีบันทึกการเรียนรู้วิธีการอ่าน ภาษา Deciphe ที่คุณไม่ทราบ ประวัติบอกว่า เคล็ดลับสำคัญที่ถูกเก็บไว้ โดยเขียนพวกเขาลง และซ่อนพวกเขาจาก literate คน เจ้าหน้าที่ชายแดนเปอร์เซียในบีศตวรรษที่สี่ให้ขี้ผึ้งว่าง Miting เม็ดผ่าน แต่เม็ดซ่อนข้อความคำเตือนเกี่ยวกับกรีซการโจมตีใกล้ ชั้นที่ปกคลุม ด้วยชั้นบาง ๆ ของขี้ผึ้งสด ภาพข้อความยัง tattooed ในข้อความหัว sim shaved สัง เมื่อผมของพวกเขาเติบโตใน สืบที่สามารถเดินทาง incognito ผ่านดินแดนศัตรู เมื่อพวกเขามาถึงที่ปลายทาง ศีรษะของพวกเขาถูก shaved และความรู้ถูกเปิดเผย แต่ชะตากรรมของประชาชาติสามารถอาศัยสำหรับมากยาว obfuscation ดังกล่าว ซึ่งอาศัยในเทคนิคเหล่านี้ให้เขียนความลับทั้งหมด มันไม่นานมากสำหรับทหารโบราณการสร้าง และใช้ technques ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ตั้งแต่ที่แล้ว การเข้ารหัสลับได้รับกลยุทธ์ซับซ้อนมากขึ้น ofusing กระบวนการขั้นตอนหนึ่งก่อนที่ข้อมูลลับของคุณ เมื่อซ่อนความหมายในภาษาเขียนธรรมดา และซ่อนตัวกลายเป็น passé ความคิดของการซ่อนความหมายกลายเป็น กฎ จากสิ่งที่เรารู้ของ พวกเขารักปริศนาดี ปริศนาอะไรมากขึ้นกว่าการบดบังข้อความโดยใช้ชุดของขั้นตอน ถ้าคุณรู้ Meps ถ่ายเดอะอัลกอริทึมใช้ในการผลิต apAn (ชื่อสำหรับข้อความ daguised คุณไม่สามารถ untangle หรือถอดรหัส isthou ยากมาก อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของปริศนา unsohable เป็นต้านทานการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทที่ 10 การเข้ารหัส
รักษาความลับโดยการปลอมตัวพวกเขาหลบซ่อนตัวพวกเขาหรือทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าใจให้กับผู้อื่นเป็นปฏิบัติโบราณ มันพัฒนาไปสู่การปฏิบัติของโมเด็ม Cryptograph วิทยาศาสตร์ของการเขียนที่เป็นความลับ หรือการศึกษาของการปิดบังข้อมูลโดยใช้อัลกอริทึมและกุญแจลับ ประวัติโดยย่อของการเข้ารหัสกาลครั้งหนึ่ง, การเก็บรักษาความลับของข้อมูลที่ไม่ได้ยาก หลายร้อยปีที่ผ่านมา เมื่อไม่กี่คนที่มีความรู้ด้านการใช้ภาษาเขียนคนเดียวมักจะพอเพียงในการเก็บข้อมูลจากการเป็นความรู้ทั่วไป ในการรักษาความลับแล้วคุณเร่ซิมมีการเขียนพวกเขาลง ให้พวกเขาซ่อนจากคนเหล่านั้นไม่กี่คนที่สามารถอ่านและป้องกันผู้อื่นจากแหวนความหมายของเอ็นที Docume เป็นเรื่องยากหากมีการเขียนในการเรียนรู้วิธีการอ่าน ภาษา Deciphe คุณไม่ทราบ ประวัติศาสตร์บอกเราว่าความลับที่สำคัญถูกเก็บไว้โดยการเขียนพวกเขาลงและซ่อนพวกเขาจากคนอ่านออกเขียนได้ พรมแดนเปอร์เซียในศตวรรษที่สี่ให้ขี้ผึ้งว่างเปล่าเม็ด miting ผ่าน แต่เม็ดซ่อนข้อความเตือนกรีซของการโจมตีที่กำลังจะมา ชั้นปกคลุมด้วยชั้นบาง ๆ ของขี้ผึ้งสด กรานยังข้อความรอยสักบนข้อความเป็นหัวโกนซิมทูต เมื่อผมของพวกเขาเพิ่มขึ้นกลับมาอยู่ในสารสามารถเดินทางไม่ระบุตัวตนผ่านดินแดนของศัตรู เมื่อพวกเขามาถึงที่ปลายทางของพวกเขา หัวของพวกเขาได้รับการโกนและความรู้ที่ถูกเปิดเผย แต่ชะตากรรมของประเทศที่ไม่สามารถพึ่งพานานมากใน obfuscation ดังกล่าวซึ่งอาศัยอยู่กับเทคนิคเหล่านี้จะเก็บความลับการเขียน มันใช้เวลาไม่นานมากสำหรับผู้นำทหารโบราณการสร้างและใช้ technques ความซับซ้อนมากขึ้น นับตั้งแต่นั้นได้รับการเข้ารหัสกระบวนการ ofusing กลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นที่จะอยู่หนึ่งขั้นล่วงหน้าของผู้ที่ต้องการข้อมูลลับของคุณ เมื่อการซ่อนความหมายในภาษาเขียนสามัญและซ่อนข้อความของตัวเองกลายเป็นกุญแจความคิดของการซ่อนความหมายกลายเป็นกฎ จากสิ่งที่เรารู้ว่าพวกเขารักปริศนาที่ดี อะไรปริศนามากกว่าเพื่อปิดบังข้อความโดยใช้ชุดของขั้นตอน? ถ้าคุณรู้ว่า Meps นำอัลกอริทึมที่ใช้ในการผลิต APAN (ชื่อสำหรับ daguised mesage คุณไม่สามารถแก้ให้หายยุ่งหรือถอดรหัส isthou การจัดการที่ดีของความยากลำบาก. อย่างไรก็ตามความท้าทายของปริศนา unsohable เป็นต่อต้านไม่ให้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทที่ 10 การเข้ารหัส
ความลับโดยการปลอมพวกเขาซ่อนพวกเขาหรือทำให้พวกเขาอ่านไม่ออกผู้อื่นเป็นการปฏิบัติโบราณ มันวิวัฒนาการมาเป็นโมเด็มฝึกรหัสลับ ศาสตร์แห่งการเขียนความลับ หรือการปิดบังข้อมูล และใช้อัลกอริทึมกุญแจลับ ประวัติความเป็นมาของการเข้ารหัสครั้งหนึ่ง การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ ก็ไม่ยาก หลายร้อยปีมาแล้วเมื่อคนไม่รู้หนังสือ การใช้ภาษาเขียนคนเดียวบ่อยๆก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะเก็บข้อมูลจากกลายเป็นความรู้ทั่วไป ความลับแล้ว คุณซิม ชั้นต้องเขียนพวกเขาลง ให้พวกเขาซ่อนตัวจากคนพวกนั้น ที่สามารถอ่านได้ และป้องกันไม่ให้ผู้อื่นจากแหวน ความหมายของ docume NT ยากถ้ามันถูกเขียนในการเรียนรู้วิธีการอ่าน deciphe ภาษาที่คุณไม่รู้ประวัติศาสตร์บอกเราว่า ความลับสำคัญที่ถูกเก็บไว้โดยเขียนพวกเขาลงและซ่อนพวกเขาจากความรู้ทักษะด้านคน ชาวเปอร์เซีย ชายแดน ในศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล ปล่อยว่างขี้ผึ้ง miting เม็ดผ่าน แต่เม็ดซ่อนข้อความเตือนกรีซจะถูกโจมตี . ที่ใช้ปกคลุมด้วยชั้นบางของขี้ผึ้งบริสุทธิ์ พวกธรรมาจารย์ก็สักข้อความในข้อความซิม โกนศีรษะของข่าวสารเมื่อผมกลับเข้ามา ผู้สื่อสารสามารถปลอมตัวออกไปท่องเที่ยวผ่านดินแดนของศัตรู เมื่อพวกเขามาถึงปลายทางของพวกเขา หัวของพวกเขาถูกโกนและความรู้ที่ถูกเปิดเผย แต่โชคชะตาของประเทศ ไม่สามารถพึ่งพาได้นานอย่างคลุมเครือ ซึ่งอาศัยทั้งหมดในเคล็ดลับเหล่านี้เพื่อให้เขียนความลับมันไม่ได้ใช้เวลานานสำหรับผู้นำทหารโบราณสร้างและการใช้งานที่ซับซ้อนมากขึ้น technques . ตั้งแต่นั้นมา การเข้ารหัสมีขั้นตอนการใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นอยู่หนึ่งขั้นล่วงหน้าของผู้ที่ต้องการข้อมูลที่เป็นความลับของคุณ เมื่อซ่อนความหมายในภาษาเขียนธรรมดาและการซ่อนข้อความตัวเองก็ผ่าน จาก ความคิด ซ่อนความหมายกลายเป็นกฎจากสิ่งที่เรารู้ที่พวกเขารักปริศนาดี สิ่งที่ยิ่งใหญ่ปริศนามากกว่าปิดบังข้อความโดยใช้ชุดของขั้นตอน ถ้าคุณรู้จักนักการเมืองนำอัลกอริทึมที่ใช้ผลิต apan ( ชื่อสำหรับ daguised mesage ไม่ได้แก้ให้หายยุ่งหรือถอดรหัส isthou การจัดการที่ดีของปัญหา อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของปริศนาคือการต่อต้านเพื่อ unsohable