For the non-IPM treatment, seedling

For the non-IPM treatment, seedlings were transplanted into the prepared beds, with no fungicides applied to the seedlings prior to transplanting. For the IPM treatment, seedlings were dipped into a solution of T. harzianum at 4 g/L prior to transplanting. Seedlings from the nursery were transplanted into all fields in the first week of December, to minimize differences in timing of sowing the crop and variability in plant age, thus reducing variability in yield. Only
healthy seedlings (showing no symptoms of disease) were selected for transplanting. The cauliflower plants in both IPM and the non-IPM fields were grown under a similar agronomic schedule, but differed in pestmanagement inputs. After transplanting, plants in the non-IPM treatment received two sprays of the fungicide mancozeb 45 WP at 500 g a.i./ha to protect against A. brassicicola, and 4-5 sprays of either chlorpyrifos 20 EC at 200 g a.i./ha, endosulfan 35 C at 500 g
a.i./ha, or cypermethrin 10 EC at 200 g a.i./ha, to protect against aphids. For the IPM treatment, plants received one spray of mancozeb 45 WP at 500 g a.i./ha, and only need-based (>5 aphids per plant) treatments with azadirachtin (3000 ppm) at 5 ml/l water, and imidacloprid 17.8 EC at 20 g a.i./ha. Aphids colonizing the mustard trap crop were treated with methyl demeton 25 EC at 125 g a.i./ha to prevent them from spreading to the cauliflower. Pesticides were applied through power-operated backpack sprayer of 15-l capacity and the volume of water used was 330 l/ha in both IPM and non-IPM treatments. Transplanted plants were observed for insect infestation and plant disease. From each field, 100 cauliflower plants were examined for presence of Alternaria leaf spot at approximately 30-40 days after transplanting. Numbers of L. erysimi (both nymphs and adults) per plant were counted on 100 plants, 80-90 days after transplanting for all fields in both treatments. In addition, each year, the numbers of aphids per plant and numbers of C. septempunctata per plant were counted weekly, from the beginning of January until

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การรักษาที่ไม่ใช่ IPM กล้าไม้ได้จัด transplanted เป็นเตียงเตรียม กับไม่ใช้กล้าไม้ก่อน transplanting ซึ่งเกิดจากเชื้อ รักษา IPM กล้าไม้ถูกสอดเข้าไปในโซลูชันของต. harzianum ที่ 4 g/L ก่อน transplanting กล้าไม้จากเรือนเพาะชำที่มี transplanted ลงในเขตข้อมูลทั้งหมดในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม เพื่อลดความแตกต่างของเวลาของ sowing พืชและความแปรผันในพืชอายุ ลดความแปรผันในผลตอบแทน เท่านั้นกล้าไม้ที่แข็งแรง (แสดงอาการของโรค) ถูกเลือกสำหรับ transplanting พืชกะหล่ำ IPM และฟิลด์ IPM ไม่ได้เติบโตขึ้นภายใต้ตารางเวลาลักษณะทางคล้าย ได้แตกต่างในปัจจัยการผลิต pestmanagement หลังจาก transplanting พืชในการบำบัดรักษาไม่ใช่ IPM รับสเปรย์สองของ WP mancozeb 45 เชื้อราที่ a.i./ha 500 กรัมเพื่อป้องกัน A. brassicicola และ 4-5 สเปรย์ของ chlorpyrifos ใด 20 EC ที่ 200 g a.i./ha เอนโดซัลแฟน 35 C ที่ 500 กรัมa.i./ha, or cypermethrin 10 EC at 200 g a.i./ha, to protect against aphids. For the IPM treatment, plants received one spray of mancozeb 45 WP at 500 g a.i./ha, and only need-based (>5 aphids per plant) treatments with azadirachtin (3000 ppm) at 5 ml/l water, and imidacloprid 17.8 EC at 20 g a.i./ha. Aphids colonizing the mustard trap crop were treated with methyl demeton 25 EC at 125 g a.i./ha to prevent them from spreading to the cauliflower. Pesticides were applied through power-operated backpack sprayer of 15-l capacity and the volume of water used was 330 l/ha in both IPM and non-IPM treatments. Transplanted plants were observed for insect infestation and plant disease. From each field, 100 cauliflower plants were examined for presence of Alternaria leaf spot at approximately 30-40 days after transplanting. Numbers of L. erysimi (both nymphs and adults) per plant were counted on 100 plants, 80-90 days after transplanting for all fields in both treatments. In addition, each year, the numbers of aphids per plant and numbers of C. septempunctata per plant were counted weekly, from the beginning of January until

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับการรักษาที่ไม่ IPM, ต้นกล้าได้รับการปลูกถ่ายลงในเตียงที่เตรียมไว้ด้วยสารฆ่าเชื้อราไม่นำไปใช้กับต้นกล้าปลูกก่อนที่จะ สำหรับการรักษา IPM, ต้นกล้าถูกจุ่มลงไปในการแก้ปัญหาของเชื้อราไตรโคเดที่ 4 กรัม / ลิตรก่อนที่จะปลูก ต้นกล้าจากสถานรับเลี้ยงเด็กที่ถูกปลูกถ่ายลงในทุกสาขาในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมที่จะลดความแตกต่างในระยะเวลาของการหว่านเมล็ดพืชและความแปรปรวนในยุคพืชซึ่งช่วยลดความแปรปรวนของผลผลิต เฉพาะต้นกล้าที่มีสุขภาพดี (ไม่แสดงอาการของโรค) ถูกเลือกสำหรับการปลูก
พืชกะหล่ำทั้งใน IPM และเขตข้อมูลที่ไม่ IPM ปลูกภายใต้กำหนดการทางการเกษตรที่คล้ายกัน แต่แตกต่างกันในปัจจัยการผลิต pestmanagement หลังจากย้ายปลูกพืชในการรักษาที่ไม่ได้รับสอง IPM สเปรย์ของเชื้อรา mancozeb 45 WP ที่ 500 กรัมสารออกฤทธิ์ / ไร่เพื่อป้องกัน brassicicola เอและสเปรย์ 4-5 ทั้ง chlorpyrifos 20 EC 200 กรัมสารออกฤทธิ์ / ไร่, endosulfan 35 C ที่ 500 กรัม
ai / ha หรือ cypermethrin 10 EC 200 กรัมสารออกฤทธิ์ / ไร่เพื่อป้องกันเพลี้ย สำหรับการรักษา IPM พืชได้รับหนึ่งในสเปรย์ mancozeb 45 WP ที่ 500 กรัมสารออกฤทธิ์ / ไร่และจะต้องตาม (> 5 เพลี้ยต่อต้น) การรักษาด้วย azadirachtin (3,000 ppm) ที่ 5 มิลลิลิตร / น้ำลิตรและ imidacloprid 17.8 EC 20 กรัมสารออกฤทธิ์ / ไร่ เพลี้ยอาณานิคมพืชดักมัสตาร์ดรับการรักษาด้วยเมธิ demeton 25 EC 125 กรัมสารออกฤทธิ์ / ไร่เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่กระจายไปยังกะหล่ำ สารกำจัดศัตรูพืชที่ถูกนำมาใช้ผ่านเครื่องพ่นสารเคมีกระเป๋าเป้สะพายหลังกำลังดำเนินการของความจุ 15 ลิตรและปริมาณของน้ำที่ใช้เป็น 330 ลิตร / ไร่ทั้งใน IPM และการรักษาที่ไม่ IPM พืชที่ปลูกถูกตั้งข้อสังเกตสำหรับแมลงและโรคพืช ในแต่ละสาขา 100 โรงกะหล่ำมีการตรวจสอบการปรากฏตัวของใบจุด Alternaria ที่ประมาณ 30-40 วันหลังจากย้ายปลูก จำนวนลิตร erysimi (ทั้งนางไม้และผู้ใหญ่) ต่อต้นนับ 100 พืช 80-90 วันหลังจากปลูกสำหรับเขตข้อมูลทั้งหมดในการรักษาทั้งสอง นอกจากนี้ในแต่ละปีจำนวนเพลี้ยต่อต้นและหมายเลขโทรศัพท์ของซี septempunctata ต่อพืชรายสัปดาห์นับจากจุดเริ่มต้นของเดือนมกราคมจนถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำหรับงานรักษาไม่กล้าถูกย้ายเข้าเตรียมเตียง ไม่มีสารเคมีที่ใช้กับต้นกล้าก่อนปลูก สำหรับการรักษาว่าต้นกล้าถูกจุ่มลงในสารละลายของ T . harzianum อัตรา 4 กรัมต่อลิตร ก่อนปลูก ต้นกล้าจากเรือนถูกปลูกถ่ายลงในเขตข้อมูลทั้งหมดในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมเพื่อลดความแตกต่างด้านเวลาของการหว่านพืช และการเปลี่ยนแปลงในยุคต้น ดังนั้นการลดความแปรปรวนของผลผลิต เท่านั้น
ต้นกล้าแข็งแรง ( ไม่แสดงอาการของโรค ) เลือกปลูก กะหล่ําดอกพืชทั้งในและนอกเขตข้อมูล IPM IPM ปลูกคล้ายกัน โดยกำหนดการ แต่แตกต่างในปัจจัยการผลิต pestmanagement . ใส่หลัง ,พืชในการรักษาไม่ IPM รับสองสเปรย์ของสารเคมี mancozeb 45 WP ที่ 500 กรัม / ไร่ เพื่อป้องกัน AI . brassicicola และ 4-5 สเปรย์ให้คลอร์ไพริฟอส 20 EC 200 g / ha ใน AI , endosulfan 35 C 500 g
AI / ฮา หรือไซเปอร์เมทริน 10 อีซี 200 กรัม AI / ฮา เพื่อป้องกันเพลี้ยอ่อน สำหรับการรักษาว่าพืชที่ได้รับการพ่นของไร่ 45 WP 500 กรัม AI / ฮาและเพียงต้องการใช้ ( > 5 เพลี้ยต่อต้น ) การรักษาด้วยสารอะซาดิแรคติน ( 3000 ส่วนในล้านส่วน ) ที่ 5 มิลลิลิตรต่อลิตรน้ำและกำจัด 17.8 EC ที่ 20 กรัมต่อ AI / ฮา เพลี้ยอ่อนเข้ายึดครองมัสตาร์ดปลูกพืชกับดักรักษาด้วยเมทิลรูปสี่เหลี่ยมคางหมู 25 EC 125 กรัม / เฮกตาร์ สมองกล เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่กระจายไปยังกะหล่ํายาฆ่าแมลงที่ใช้ผ่านอำนาจดำเนินการเป้กระบอกฉีดของความจุ 15-l และปริมาณของน้ำที่ใช้ คือ 330 ลิตร / ฮา ทั้งในงานและไม่มีงานรักษา ปลูกพืชที่พบในแมลงและโรคพืช จากแต่ละเขต 100 กะหล่ำดอกพืชตรวจสอบสถานะของโรคใบจุด ประมาณ 30-40 วัน หลังย้ายกล้า ตัวเลขของ Lerysimi ( นางไม้และผู้ใหญ่ ) ต่อพืชนับ 100 ต้น 80-90 วัน หลังย้ายกล้าสำหรับทุกสาขา ทั้งในการรักษา นอกจากนี้ ในแต่ละปี ตัวเลขของเพลี้ยอ่อน ต่อต้น และจำนวนของ septempunctata ต่อพืชนับรายสัปดาห์ ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึง