hexacynoferrate (III) is used as th

hexacynoferrate (III) is used as the oxidant, another separation step
is needed in order to extract the fluorescent thiochrome from the
aqueous phase to organic phase, or it will be quenched in the presence
of hexacynoferrate (III). Although Hg
is an efficient oxidant for the
thiochrome reaction without quenching the fluorescence, it is highly
toxic and not suitable for used in the biological systems. While Cu
is not as toxic as Hg
2+
2+
, it may give false response in the presence of
other biomolecules (such as cysteine) due to the formation of other
fluorescent species (e.g., Cu nanoclusters [15]) under similar reaction
conditions.When hydrogen peroxide is used as the oxidant, additional
reagents such as enzymes are required to make the thiochrome
formation more efficient, because meantime hydrogen peroxide as
well as other strong oxidants such as KMnO
also tends to convert
thiamine into non-fluorescent thiamine disulfide.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

hexacynoferrate (III) ใช้เป็นอนุมูลอิสระ ขั้นตอนการแยกอีกจะต้องแยก thiochrome เรืองแสงจากการระยะอควีระยะอินทรีย์ หรือจะเป็น quenched ในสถานะของ hexacynoferrate (III) แม้ว่า Hgอนุมูลอิสระมีประสิทธิภาพในการthiochrome ปฏิกิริยา โดยการชุบการ fluorescence เป็นอย่างมากเป็นพิษ และไม่เหมาะสำหรับใช้ในระบบชีวภาพ ขณะที่ Cuไม่เป็นพิษเป็น Hg2 +2 + มันอาจให้ตอบผิดหน้าชื่อโมเลกุลชีวภาพอื่น ๆ (เช่น cysteine) เนื่องจากการก่อตัวของอื่น ๆ(เช่น Cu nanoclusters [15]) ชนิดเรืองแสงภายใต้ปฏิกิริยาที่คล้ายกันเงื่อนไขการ เมื่อใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นอนุมูลอิสระ เพิ่มเติมจำเป็นต้องทำการ thiochrome reagents เช่นเอนไซม์ผู้แต่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะขณะเดียวกัน ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นอนุมูลอิสระน้ำแข็งเช่น KMnOนอกจากนี้ยัง มีแนวโน้มที่การ แปลงไทอามีนเป็นไดซัลไฟด์ฟลูออเรสเซนต์ไม่ใช่ไทอามีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

hexacynoferrate (III)
ใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระขั้นตอนการแยกอื่นเป็นสิ่งจำเป็นในการที่จะดึงthiochrome
เรืองแสงจากเฟสน้ำเป็นระยะอินทรีย์หรือมันจะดับในการปรากฏตัวของ
hexacynoferrate (III) แม้ว่าปรอทเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสำหรับปฏิกิริยาthiochrome โดยไม่ต้องดับเรืองแสงมันเป็นอย่างสูงที่เป็นพิษและไม่เหมาะสำหรับการใช้ในระบบชีวภาพ ในขณะที่ลูกบาศ์กไม่เป็นพิษปรอท2 + 2 + มันอาจจะให้การตอบสนองที่ผิดพลาดในการปรากฏตัวของสารชีวโมเลกุลอื่น ๆ (เช่น cysteine) เนื่องจากการก่อตัวของอื่น ๆ ชนิดเรืองแสง (เช่น nanoclusters ลูกบาศ์ก [15]) ภายใต้ปฏิกิริยาคล้ายเงื่อนไขไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ .When ใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เพิ่มเติมสารเคมีเช่นเอนไซม์จะต้องทำให้thiochrome การก่อตัวที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ขณะเดียวกันในฐานะเดียวกับสารอื่น ๆ เช่น KMnO ยังมีแนวโน้มที่จะแปลงวิตามินบีวิตามินบีเข้าไปในที่ไม่เรืองแสงซัลไฟด์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

hexacynoferrate ( III ) ที่ใช้เป็นสารอื่น
ขั้นตอนแยกเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสกัด thiochrome เรืองแสงจาก
เฟสสารละลายอินทรีย์ เฟส หรือจะดับในการแสดงตนของ hexacynoferrate
( 3 ) แม้ว่า HG
เป็นอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสำหรับ
thiochrome ปฏิกิริยาโดยไม่ดับเรืองแสงเป็นอย่างสูง
พิษและไม่เหมาะที่จะใช้ในระบบชีวภาพ ในขณะที่ CU
ไม่เป็นพิษ เช่น ปรอท
2
2
, มันอาจให้การเท็จต่อหน้า
สารชีวโมเลกุลอื่นๆ ( เช่น ซิสเตอีน ) เนื่องจากการเรืองแสงชนิดอื่น ๆ ( เช่น ทองแดง nanoclusters
[ 15 ] ) ภายใต้เหมือนกัน
conditions.when ปฏิกิริยาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะใช้เป็นสารเพิ่มเติม
สารเคมี เช่น เอนไซม์จะต้องให้ thiochrome
การพัฒนามีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะตอนนี้ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นสารอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง
ดีอื่นๆ เช่น kmno

วิตามินบียังมีแนวโน้มที่จะแปลงเป็นหลอดวิตามินบีไม่ได .