Okra, Abelmoschus esculentus L. Moe

Okra, Abelmoschus esculentus L. Moench is a popular vegetable in tropical and sub-tropical countries of the
world grown for its pod (Folorunso and Ojeniyi, 2003). It is a member of the hibiscus family, Malvaceae and
has the typical floral characteristics of that family. Originating from Africa, it is now widely distributed in the
tropics including Nigeria (National Research Council, 2006). It is an important vegetable crop occupying a land
area of 277,000 hectares with a production of 731,000 metric tons worldwide and productivity of 2.63 tha-
1
in
Nigeria (FAO, 2006).
Okra is valued for its edible green pods (fruits), a capsule that contains many seeds. However, its
leaves are also eaten as a vegetable. Okra seeds are used as a non-caffeinated substitute for coffee and also as a
source of seed oil (FAO, 2006). Okra is said to be of economic importance because of its nutritional value that
has the potential to improve food security (FAO, 2006).
The use of organic amendments applied to soil not only enhances its nutrient status but also reduces
the incidence of pest (Adilakshi et al., 2007). Improvement of soil fertility through the application of fertilizers
has become an essential factor that enables the world to feed billions of people of its population (Brady and
Weil, 1999). Soil fertility is usually maintained by the application of organic and inorganic fertilizers (Okigbo,
1985), and there is also an improvement in the physical and biological properties of the soils (Okwuagwu et al.,
2003). The use of inorganic fertilizers can improve crop yields, soil pH, total nutrient content and nutrient
availability (Akande et al., 2010); most especially in the tropics where soils are adversely affected by suboptimal
soil fertility and erosion causing deterioration of the nutrient status and changes in population of soil
organisms (Economic Commission for Africa, 2001). But its use is constrained by acidity, scarcity, nutrient
imbalance and it is no longer within the reach of poor-resource farmers due to its high cost. When excessively
used, it also has a depressing effect on yield. This causes a reduction in number of fruits, delays and reduces
fruit setting (John et al., 2004).
The use of organic manures as a means of maintaining and increasing soil fertility has been advocated
(Alasiri and Ogunkeye, 1999). Some of these materials have also been found to control pathogens (Muhammed
et al., 2001). Animal manures, when efficiently and effectively used, ensure sustainable crop productivity by
immobilizing nutrients that are susceptible to leaching. Nutrients contained in manures are released more slowly
and are stored for a longer time in the soil thus ensuring longer residual effects; improve root development and
higher crop yields (Sharma and Mittra, 1991; Abou-Magel et al., 2006).
Poultry manure’s relative resistance to microbial degradation is essential for establishing and
maintaining optimum soil physical condition and is important for plant growth. It is also very cheap and
effective as a good source of nitrogen for sustainable crop production (Dauda et al., 2008). Surekha and Rao
(2001) and Prakash et al., (2002) had earlier explored the use of organic manures for managing the pests of

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระเจี๊ยบเขียว Abelmoschus esculentus L. Moench เป็นผักยอดนิยมในประเทศเขตร้อน และเขตร้อนย่อยโลกโตของฝัก (Folorunso และ Ojeniyi, 2003) เป็นสมาชิกของครอบครัวฮิบิสคัส วงศ์ฝ้าย และดอกไม้ลักษณะทั่วไปของครอบครัวนั้นได้ เกิดจากแอฟริกา มันคือตอนนี้นำไปเผยแพร่ในการเขตร้อนรวมทั้งประเทศไนจีเรีย (สภาวิจัยแห่งชาติ 2006) เป็นพืชผักสำคัญมีที่ดินพื้นที่ของเฮกเตอร์ 277,000 กับ 731,000 เมตริกตันทั่วโลกผลิตและผลผลิตของท่า 2.63-1ในไนจีเรีย (FAO, 2006) กระเจี๊ยบเขียวมีคุณค่าของกินสีเขียวฝัก (ผลไม้), แคปซูลที่ประกอบด้วยเมล็ดมาก อย่างไรก็ตาม ความใบไม้จะยังกินเป็นผัก เมล็ดกระเจี๊ยบเขียวใช้ทดแทนไม่ใช่ caffeinated กาแฟ และยังเป็นการแหล่งที่มาของน้ำมัน (FAO, 2006) กระเจี๊ยบเขียวกล่าวได้ว่า เป็นความสำคัญทางเศรษฐกิจเนื่องจากโภชนาการของมูลค่าที่มีศักยภาพในการปรับปรุงความปลอดภัยอาหาร (FAO, 2006) ใช้แก้ไขอินทรีย์กับดินไม่เพียงช่วยเพิ่มสถานะของธาตุอาหาร แต่ยัง ช่วยลดอุบัติการณ์ของพืช (Adilakshi et al., 2007) ปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินโดยใช้ปุ๋ยได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้โลกเลี้ยงพันล้านคนของประชากร (เบรดี้ และWeil, 1999) มักจะมีรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และอนินทรีย์ (Okigbo1985), และยังมีการปรับปรุงในคุณสมบัติทางกายภาพ และชีวภาพของดินเนื้อปูน (Okwuagwu et al.,2003) การใช้ปุ๋ยอนินทรีย์ที่สามารถเพิ่มผลผลิตพืช pH ดิน เนื้อหารวมธาตุอาหาร และสารอาหารความพร้อมใช้งาน (Akande et al., 2010); โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตร้อนที่ดินเนื้อปูนเป็นผลกระทบจากสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินและการพังทลายที่เกิดของสถานะธาตุอาหารและการเปลี่ยนแปลงประชากรของดินสิ่งมีชีวิต (คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับแอฟริกา 2001) แต่การใช้ถูกจำกัด โดยมี ขาดแคลน อาหารความไม่สมดุลและจะไม่ within the reach of เกษตรกรยากจนทรัพยากรเนื่องจากต้นทุนสูง เมื่อมากเกินไปใช้ มีผล depressing บนผลตอบแทน นี้ทำให้ลดจำนวนของผลไม้ ความล่าช้า และลดค่าผลไม้ (จอห์นเอ็ด al., 2004) มีการ advocated ใช้ manures อินทรีย์เป็นวิธีการรักษา และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน(Alasiri และ Ogunkeye, 1999) ของวัสดุเหล่านี้ยังพบการควบคุมโรค (Muhammedและ al., 2001) สัตว์ manures มีประสิทธิภาพ และใช้ ให้ผลผลิตพืชอย่างยั่งยืนโดยimmobilizing สารอาหารที่มีความไวต่อการละลาย สารอาหารที่อยู่ใน manures จะออกช้าและเก็บไว้เป็นเวลานานดินจึง มั่นใจผลเหลืออีกต่อไป ปรับปรุงพัฒนาราก และทำให้พืชที่สูง (Sharma และ Mittra, 1991 Abou-Magel และ al., 2006) สัตว์ปีกมูลญาติความต้านทานต่อจุลินทรีย์ย่อยสลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้าง และเหมาะสมรักษาการสภาพทางกายภาพของดิน และมีความสำคัญสำหรับการเติบโตของพืช ก็ยังดี และมีประสิทธิภาพเป็นแหล่งที่ดีของไนโตรเจนสำหรับการผลิตพืชอย่างยั่งยืน (Dauda et al., 2008) Surekha และเรา(2001) และพรา et al., (2002) ได้ก่อนหน้านี้ไปใช้ manures อินทรีย์การจัดการศัตรูพืชของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระเจี๊ยบ, Abelmoschus esculentus ลิตร Moench
เป็นผักที่นิยมในประเทศในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนของโลกสำหรับการเจริญเติบโตของฝัก(Folorunso และ Ojeniyi, 2003) มันเป็นสมาชิกของครอบครัวชบาที่ Malvaceae
และมีลักษณะการจัดดอกไม้ตามแบบฉบับของครอบครัว ที่มีต้นกำเนิดจากแอฟริกาก็คือตอนนี้กระจายอยู่ทั่วไปในเขตร้อนรวมทั้งประเทศไนจีเรีย (สภาวิจัยแห่งชาติ, 2006)
มันเป็นพืชผักที่สำคัญครอบครองที่ดินพื้นที่ 277,000 เฮคเตอร์กับการผลิต 731,000 ตันทั่วโลกและผลผลิตของ 2.63 tha- 1 ในประเทศไนจีเรีย (FAO, 2006). กระเจี๊ยบมีมูลค่าสำหรับฝักสีเขียวกินได้ (ผลไม้) แคปซูล ที่มีเมล็ดจำนวนมาก แต่ของใบก็จะกินเป็นผัก เมล็ดพันธุ์กระเจี๊ยบเขียวจะถูกใช้เป็นตัวแทนที่ไม่ได้มีคาเฟอีนกาแฟและยังเป็นแหล่งที่มาของน้ำมันเมล็ด (FAO, 2006) กระเจี๊ยบกล่าวจะมีความสำคัญทางเศรษฐกิจเพราะคุณค่าทางโภชนาการที่มีศักยภาพในการปรับปรุงความปลอดภัยอาหารแห่งสหประชาชาติ (FAO, 2006). การใช้งานของการแก้ไขอินทรีย์นำไปใช้กับดินที่ไม่เพียง แต่ช่วยเพิ่มสถานะสารอาหาร แต่ยังช่วยลดอุบัติการณ์ของศัตรูพืช(Adilakshi et al., 2007) ปรับปรุงอุดมสมบูรณ์ของดินโดยการใช้ปุ๋ยได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้โลกที่จะเลี้ยงพันล้านคนของประชากร (เบรดี้และ Weil, 1999) อุดมสมบูรณ์ของดินจะยังคงปกติโดยการประยุกต์ใช้ปุ๋ยอินทรีย์และอนินทรี (Okigbo, 1985) และนอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงในคุณสมบัติทางกายภาพและชีวภาพของดิน (Okwuagwu et al., 2003) การใช้ปุ๋ยอนินทรีสามารถเพิ่มผลผลิตพืช, ค่า pH ของดิน, ปริมาณสารอาหารและสารอาหารที่รวมความพร้อม(Akande et al, 2010.); โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตร้อนที่ดินได้รับผลกระทบทางลบจากการด้อยอุดมสมบูรณ์ของดินและการพังทลายที่ก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพของสถานะสารอาหารและการเปลี่ยนแปลงในประชากรของดินมีชีวิต(คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับแอฟริกา, 2001) แต่การใช้ของมันจะถูก จำกัด โดยความเป็นกรดขาดแคลนสารอาหารที่ไม่สมดุลและมันไม่ได้อยู่ในมือของเกษตรกรที่ยากจนทรัพยากรเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง เมื่อมากเกินไปใช้ก็ยังมีผลต่อผลผลิตตกต่ำ นี้ทำให้เกิดการลดจำนวนของผลไม้, ความล่าช้าและลดการติดผล(จอห์น et al., 2004). การใช้ปุ๋ยอินทรีย์เป็นวิธีการรักษาและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินได้รับการสนับสนุน(Alasiri และ Ogunkeye, 1999) บางส่วนของวัสดุเหล่านี้ยังได้รับการค้นพบในการควบคุมเชื้อโรค (นุet al., 2001) มูลสัตว์, เมื่อมีประสิทธิภาพและใช้อย่างมีประสิทธิภาพให้แน่ใจว่าผลผลิตพืชที่ยั่งยืนโดยการตรึงสารอาหารที่มีความอ่อนไหวต่อการชะล้าง สารอาหารที่มีอยู่ในปุ๋ยคอกมีการเปิดตัวมากขึ้นอย่างช้า ๆและจะถูกเก็บไว้เป็นเวลานานในดินจึงมั่นใจได้ว่าผลกระทบที่เหลืออีกต่อไป; ปรับปรุงพัฒนารากและอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าการปลูกพืช (ชาร์และ Mittra 1991; Abou-Magel et al, 2006).. ความต้านทานญาติปุ๋ยสัตว์ปีกเพื่อการย่อยสลายของจุลินทรีย์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างและการบำรุงรักษาที่เหมาะสมของดินและสภาพร่างกายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของพืช นอกจากนี้ยังเป็นราคาถูกมากและมีประสิทธิภาพเป็นแหล่งที่ดีของไนโตรเจนสำหรับการผลิตพืชอย่างยั่งยืน (Dauda et al., 2008) Surekha และราว(2001) และแกช et al. (2002) ก่อนหน้านี้มีการสำรวจการใช้ปุ๋ยอินทรีย์สำหรับการจัดการศัตรูพืชของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กระเจี๊ยบ โครงการย่อยที่ 4 9 ลิตรเป็นผักยอดนิยมในเขตร้อนและกึ่งร้อนของประเทศ
โลกเติบโตของฝัก ( folorunso และ ojeniyi , 2003 ) มันเป็นสมาชิกของครอบครัว Hibiscus , Malvaceae
มีดอกไม้และลักษณะทั่วไปของครอบครัวนั้น ที่มาจากแอฟริกา ขณะนี้กระจายอย่างกว้างขวางในเขตร้อนรวมถึง
ไนจีเรีย ( สภาวิจัยแห่งชาติ ปี 2549 )มันเป็นพืชที่สำคัญมีพื้นที่ของที่ดิน
277000 ไร่กับการผลิต 731000 ตันทั่วโลก และผลิตภาพของ 2.63 ท่า -
1

ในไนจีเรีย ( FAO , 2006 ) .
) คือมูลค่าของพืชฝักสีเขียว ( ผลไม้ ) แคปซูลที่ประกอบด้วยหลายเมล็ด อย่างไรก็ตาม ,
ใบยังกินเป็นผักพันธุ์ที่ใช้เป็น caffeinated ไม่ใช่แทนกาแฟ และยังเป็นแหล่งที่มาของน้ำมันเมล็ด
สหประชาชาติ ( FAO , 2006 ) กระเจี๊ยบเขียวเป็นสำคัญเนื่องจากคุณค่าทางโภชนาการที่
มีศักยภาพที่จะเพิ่มความปลอดภัยของอาหาร ( FAO , 2006 ) .
ใช้แก้ไขใช้ดินอินทรีย์ไม่เพียง แต่ช่วยเพิ่มสถานะของสารอาหาร แต่ยังช่วยลดอุบัติการณ์ของศัตรูพืช
( adilakshi et al . , 2007 )การปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินโดยการใช้ปุ๋ย
ได้กลายเป็นปัจจัยสําคัญที่ช่วยให้โลกเพื่อเลี้ยงคนนับล้านของประชากร ( Brady และ
Weil , 1999 ) ความอุดมสมบูรณ์ของดินมักจะรักษาโดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยอนินทรีย์ ( okigbo
, 1985 )และยังมีการปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพและชีวภาพของดิน (
okwuagwu et al . , 2003 ) การใช้ปุ๋ยเคมี สามารถเพิ่มผลผลิตพืช ดิน รวมสารอาหารและความพร้อมสารอาหาร
( akande et al . , 2010 ) ; มากที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตร้อนที่ดินได้รับผลกระทบจาก suboptimal
ความอุดมสมบูรณ์ของดินและการพังทลาย ก่อให้เกิดความเสื่อมของสถานะธาตุอาหารและการเปลี่ยนแปลงในประชากรของสิ่งมีชีวิตในดิน
( คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแอฟริกา , 2001 ) แต่ใช้เป็นข้อ จำกัด โดย เม ข้าวยากหมากแพง สารอาหาร
imbalance และมันไม่ในการเข้าถึงทรัพยากรของเกษตรกรที่ยากจนเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงของ เมื่อมากเกินไป
ใช้ ก็ยังมีผลกดดันต่อผลผลิต