For more than two decades, research

For more than two decades, research on incentives and market equilibrium in sit-
uations with asymmetric information has been a proliÞc part of economic theory. In
1996, the Bank of Sweden Prize in Economic Sciences in Memory of Alfred Nobel
was awarded to James Mirrlees and William Vickrey for their fundamental contri-
butions to the theory of incentives under asymmetric information, in particular its
applications to the design of optimal income taxation and resource allocation through
different types of auctions. The theory of markets with asymmetric information rests
Þrmly on the work of three researchers: George Akerlof (University of California,
Berkeley), Michael Spence (Stanford University) and Joseph Stiglitz (Columbia Uni-
versity). Their pioneering contributions have given economists tools for analyzing a
broad spectrum of issues. Applications extend from traditional agricultural markets
to modern Þnancial markets.1
Why are interest rates often so high on local lending markets in Third World
countries? Why do people looking for a good used car typically turn to a dealer rather
than a private seller? Why do Þrms pay dividends even if they are taxed more heavily
than capital gains? Why is it in the interest of insurance companies to offer a menu of
policies with different mixes of premiums, coverage and deductibles? Why do wealthy
landowners not bear the entire harvest risk in contracts with poor tenants? These
questions exemplify familiar — but seemingly different — phenomena, each of which
posed a challenge to traditional economic theory. This year’s laureates showed that
these — and many other — phenomena can be understood by augmenting the theory
with the same realistic assumption: one side of the market has better information than
the other. The borrower knows more than the lender about his creditworthiness; the
seller knows more than the buyer about the quality of his car; the CEO and board of
a Þrm know more than the shareholders about the proÞtability of the Þrm; insurance
clients know more than the insurance company about their accident risk; and tenants
know more than the landowner about harvesting conditions and their own work effort.
1See Riley (2001) for a survey of developments in the economics of information over the last 25
years.
1

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับมากกว่าสองทศวรรษ วิจัยเกี่ยวกับแรงจูงใจและสมดุลตลาดในนั่ง-uations ข้อมูลสมมาตรได้เป็นส่วนหนึ่ง proliÞc ของทฤษฎีเศรษฐกิจ ใน1996 ธนาคารของสวีเดนรางวัลวิทยาศาสตร์เศรษฐกิจในหน่วยความจำของอัลเฟรดโนเบลได้รับรางวัล James Mirrlees และ William Vickrey contri พื้นฐานของพวกเขา-ร่วมกับทฤษฎีแรงจูงใจภายใต้ข้อมูลสมมาตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งของการใช้งานในการออกแบบสูงสุดรายได้จัดเก็บภาษีและจัดสรรทรัพยากรผ่านประเภทของการประมูล วางทฤษฎีการตลาดที่มีข้อมูลไม่สมมาตรÞrmly ในการทำงานของนักวิจัยที่สาม: จอร์จ Akerlof (มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์), ไมเคิลสเปนซ์ (Stanford University) และโจเซฟสติกลิตส์โคลัมเบีย Uni (-versity) ผลงานบุกเบิกของพวกเขาให้นักเศรษฐศาสตร์เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์การหลากหลายปัญหา โปรแกรมประยุกต์ขยายจากตลาดเกษตรแบบดั้งเดิมการ markets.1 Þnancial ทันสมัยอัตราดอกเบี้ยมักจะสูงในตลาดสินเชื่อในโลกที่สามได้ประเทศ ทำไมคนที่มองหารถยนต์ใช้ดีโดยทั่วไปจะเป็นตัวแทนจำหน่ายค่อนข้างได้อย่างไรกว่าผู้ขายส่วนตัว ทำไมไม่ Þrms จ่ายเงินปันผลแม้ว่าพวกเขาจ่ายภาษีมากกว่ากว่ากำไร จึงเป็นความสนใจของบริษัทประกันภัยได้เสนอเมนูนโยบายกับเพลงต่าง ๆ ของพรีเมี่ยม ความครอบคลุม และ deductibles ทำไมร่ำรวยที่ดินไม่แบกรับความเสี่ยงเก็บเกี่ยวทั้งในสัญญาผู้เช่าดี เหล่านี้คำถามขยายความคุ้นเคยแต่ปรากฏการณ์ที่ดูเหมือนแตกต่างกัน แต่ละที่เกิดความท้าทายที่จะทฤษฎีเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม นายแพทย์ s ปีนี้แสดงให้เห็นว่าเหล่านี้และหลายปรากฏการณ์อื่น ๆ สามารถเข้าใจได้ โดยเพิ่มทฤษฎีกับสมมติฐานเดียวที่สมจริง: ด้านหนึ่งของตลาดมีข้อมูลดีกว่าอื่น ๆ ผู้กู้มากกว่าผู้ให้กู้ทราบเกี่ยวกับข้อมูลเครดิตของเขา การผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อรู้เกี่ยวกับคุณภาพของรถของเขา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและคณะÞrm ความรู้มากกว่าผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับ proÞtability ของ Þrm การประกันภัยลูกค้ารู้มากกว่าบริษัทประกันภัยเกี่ยวกับความเสี่ยงอุบัติเหตุ ให้เช่าพื้นที่รู้มากกว่าที่ดินเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวเงื่อนไขและแรงงานของตนเอง1 ดูไรลีย์ (2001) การสำรวจของการพัฒนาในทางเศรษฐศาสตร์ของข้อมูลมากกว่า 25 ครั้งสุดท้ายปี1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มานานกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมางานวิจัยเกี่ยวกับการสร้างแรงจูงใจและดุลยภาพของตลาดในไม่สงบ
uations มีข้อมูลไม่สมมาตรได้รับส่วนproliÞcของทฤษฎีทางเศรษฐกิจ ใน
ปี 1996 ธนาคารแห่งสวีเดนรางวัลวิทยาศาสตร์ทางเศรษฐกิจในความทรงจำของอัลเฟรดโนเบล
ได้รับรางวัลเจมส์ Mirrlees และวิลเลียม Vickrey สำหรับ contri- พื้นฐานของ
butions กับทฤษฎีของแรงจูงใจภายใต้ข้อมูลข่าวสารโดยเฉพาะอย่างยิ่งของ
การประยุกต์ใช้ในการออกแบบของการจัดเก็บภาษีรายได้ที่ดีที่สุด และจัดสรรทรัพยากรผ่าน
ประเภทที่แตกต่างกันของการประมูล ทฤษฎีของตลาดที่มีข้อมูลข่าวสารวาง
Þrmlyในการทำงานของสามนักวิจัย: จอร์จ Akerlof (มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
เบิร์กลีย์), ไมเคิลสเปนซ์ (มหาวิทยาลัยสแตนฟ) และโจเซฟสติกลิตซ์ (โคลัมเบียเดียว -
Versity) ผลงานบุกเบิกของพวกเขาได้รับเครื่องมือเศรษฐศาสตร์สำหรับการวิเคราะห์
สเปกตรัมของปัญหา การใช้งานเพิ่มขึ้นจากตลาดเกษตรแบบดั้งเดิม
เพื่อ markets.1 Þnancialทันสมัย
ทำไมอัตราดอกเบี้ยมักจะสูงมากในตลาดการให้กู้ยืมเงินท้องถิ่นในประเทศโลกที่สาม
ประเทศ? ทำไมคนที่มองหารถมือสองที่ดีมักจะหันไปเป็นตัวแทนจำหน่ายค่อนข้าง
มากกว่าผู้ขายส่วนตัว? ทำไมÞrmsจ่ายเงินปันผลแม้ว่าพวกเขาจะเก็บภาษีได้มากขึ้น
กว่ากำไร? ทำไมมันจึงอยู่ในความสนใจของ บริษัท ประกันภัยที่จะนำเสนอเมนูของ
นโยบายที่มีสูตรที่แตกต่างกันของเบี้ยประกันคุ้มครองและ deductibles? ทำไมรวย
เจ้าของที่ดินได้แบกความเสี่ยงการเก็บเกี่ยวทั้งในการทำสัญญากับผู้เช่าที่ไม่ดี? เหล่านี้
คำถามเป็นตัวอย่างที่คุ้นเคย ?? แต่แตกต่างกันที่ดูเหมือน ?? ปรากฏการณ์ซึ่งแต่ละ
โพสต์ที่ท้าทายทฤษฎีเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม ในปีนี้ได้รับรางวัล ?? s แสดงให้เห็นว่า
เหล่านี้ ?? และอื่น ๆ อีกมากมาย ?? ปรากฏการณ์สามารถเข้าใจได้โดย augmenting ทฤษฎี
กับสมมติฐานเหตุผลเดียวกันอีกด้านหนึ่งของตลาดที่มีข้อมูลที่ดีกว่า
คนอื่น ๆ ผู้กู้จะรู้มากกว่าผู้ให้กู้เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของเขา;
ผู้ขายรู้มากกว่าผู้ซื้อเกี่ยวกับคุณภาพของรถของเขานั้น ซีอีโอและคณะกรรมการของ
Þrmรู้มากกว่าผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับproÞtabilityของÞrmนั้น ประกัน
ลูกค้ารู้มากกว่าที่ บริษัท ประกันภัยเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุของพวกเขา; และผู้เช่า
รู้มากกว่าเจ้าของที่ดินเกี่ยวกับเงื่อนไขการเก็บเกี่ยวและความพยายามในการทำงานของตัวเอง.
1See ไรลีย์ (2001) สำหรับการสำรวจของการพัฒนาในเศรษฐกิจของข้อมูลในช่วง 25 ที่
ปี.
1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา การวิจัย สิ่งจูงใจ และดุลยภาพของตลาด - นั่งuations ข้อมูลอสมมาตรได้รับ proli Þ C เป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ ใน1996 รางวัลธนาคารของสวีเดนในสาขาเศรษฐศาสตร์ในความทรงจำของอัลเฟรด โนเบลได้รับรางวัลเจมส์ Mirrlees และวิลเลียม vickrey contri พื้นฐาน - สำหรับbutions กับทฤษฎีของแรงจูงใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ข้อมูลอสมมาตรโปรแกรมเพื่อการออกแบบที่เหมาะสมของรายได้ภาษีอากรและการจัดสรรทรัพยากร ผ่านแตกต่างกันประเภทของการประมูล ทฤษฎีของตลาดด้วยข้อมูลที่ไม่สมมาตรวางตัวÞ rmly บนผลงานของนักวิจัยสาม : จอร์จ เ คอร์ลอฟ ( มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์ ) , ไมเคิล สเปนซ์ ( มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ) และ โจเซฟ สติกลิทซ์ ( มหาวิทยาลัยโคลัมเบียversity ) ของพวกเขา ผู้เขียนได้ให้นักเศรษฐศาสตร์เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์สเปกตรัมกว้างของปัญหา การขยายจากตลาดเกษตรแบบดั้งเดิมที่ทันสมัยÞ nancial ตลาด .ทำไมอัตราดอกเบี้ยมักจะสูงมากในตลาดสินเชื่อท้องถิ่นในประเทศโลกที่สามประเทศ ? ทำไมคนมองที่ดีที่ใช้รถโดยทั่วไปเปิดให้ตัวแทนค่อนข้างกว่าผู้ขายส่วนตัว ? ทำไมÞ RMS จ่ายปันผลแม้พวกเขาจะเสียภาษีมากขึ้นมากมากกว่ากำไร ? ทำไมมันอยู่ในความสนใจของ บริษัท ประกันภัยเพื่อให้เมนูของกรมธรรม์ผสมที่แตกต่างกันของเบี้ย ความคุ้มครองและ deductibles ? ทำไมรวยเจ้าของที่ดินไม่แบกความเสี่ยงเก็บเกี่ยวทั้งในสัญญากับผู้เช่าที่ไม่ดี ? เหล่านี้คำถาม ยกตัวอย่าง . . คุ้นๆแต่ปรากฏการณ์ - ปรากฏอยู่ที่แตกต่างกันซึ่งแต่ละถูกวางท้าทายทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ดั้งเดิม ในปีนี้ จะได้รับพบว่า- เหล่านี้และหลายปรากฏการณ์ - อื่น ๆ สามารถเข้าใจได้โดย augmenting ทฤษฎีกับสมมติฐานมีเหตุผลเดียวกัน : ด้านหนึ่งของตลาดมีข้อมูลข่าวสารที่ดีกว่ากว่าอื่น ๆ กู้รู้มากกว่าผู้ให้กู้เกี่ยวกับเครดิตของเขา ;ผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อรู้เกี่ยวกับคุณภาพของรถของเขา ซีอีโอและคณะกรรมการเป็นÞ RM รู้มากกว่าผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับโปรÞ tability ของÞ RM ; ประกันลูกค้ารู้มากกว่าที่ บริษัท ประกันภัยที่เกี่ยวกับความเสี่ยงของอุบัติเหตุ และผู้เช่ารู้มากกว่าเกี่ยวกับเงื่อนไขและความพยายามในการเก็บเกี่ยวงานของตัวเอง1see ไรลีย์ ( 2001 ) สำหรับการสำรวจและการพัฒนาในทางเศรษฐศาสตร์ของข้อมูลในช่วง 25ปี1