The Supreme Court has taken a somew

The Supreme Court has taken a somewhat different stance. At least in
two decisions, the Court seems to have acceded to a much more skeptical
position, which doubts the feasibility and desirability of authoritative judicial
resolutions in matters of truth and falsity.111 The first decision is the
aforementioned Senesh judgment. In that case the Court legitimized the
defamatory scene despite conceding expressly that the factual allegations it
included about Senesh were false, and that such allegations were not even
voiced in the depicted trial.112 The dissenting Justice criticized that holding,
asserting that the viewers, who know that the film is based on real
characters and portrays many true facts and events, are likely to assume that
the disputed statement also reflects a historical truth.113 The majority
opinion, however, argued that artistic works, even those referring to
historical figures, may rely freely on imagination and should not be evaluate

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศาลฎีกาได้นำท่าทางที่แตกต่างกันค่อนข้าง น้อยใน
ตัดสินใจสอง ศาลดูเหมือนจะ ได้ภาคยานุวัติแคลงใจมาก
ตำแหน่ง ที่ doubts ความเป็นไปได้และปรารถนาของไทม์ยุติธรรม
มติในเรื่องของความจริงและ falsity.111 เป็นการตัดสินใจแรก
Senesh พิพากษาดังกล่าว ในกรณีที่ ศาล legitimized การ
ฉากรังเกียจแม้ conceding ชัดเจนที่ข้อจริงมัน
รวมเกี่ยวกับ Senesh ได้เท็จ และข้อกล่าวหาดังกล่าวได้แม้
เสียงใน depicted trial.112 ยุติธรรม dissenting วิพากษ์วิจารณ์นั้นถือ,
กรรมสิทธิ์ที่ผู้ชม ผู้รู้ว่า ฟิล์มอยู่จริง
อักขระ และ portrays เท็จจริงและเหตุการณ์มาก มักจะสมมุติว่า
คำสั่งที่มีข้อโต้แย้งยังสะท้อนถึง truth.113 ประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่
เห็น แต่ โต้เถียงว่า การทำงานศิลปะ แม้ที่อ้างอิงถึง
อาจใช้ได้อย่างอิสระในจินตนาการภาพประวัติศาสตร์ และควรจะประเมิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศาลฎีกาได้ดำเนินการท่าทางแตกต่างกันบ้าง อย่างน้อยใน
สองตัดสินใจศาลดูเหมือนว่าจะยอมทำตามที่สงสัยมากขึ้น
ตำแหน่งซึ่งสงสัยเป็นไปได้และความปรารถนาของตุลาการเผด็จการ
มติในเรื่องของความจริงและ falsity.111 การตัดสินใจครั้งแรกคือ
การตัดสิน Senesh ดังกล่าวข้างต้น ในกรณีที่ศาล legitimized
ฉากหมิ่นประมาทแม้จะมีการยอมรับอย่างชัดแจ้งว่าข้อกล่าวหาเป็นความจริงมัน
รวมเกี่ยวกับ Senesh เป็นเท็จและว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่ได้
เปล่งออกมาในภาพ trial.112 ที่ไม่เห็นด้วยผู้พิพากษาที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ถือ
อ้างว่าผู้ชมที่ รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับความจริง
ของตัวละครและบทข้อเท็จจริงที่แท้จริงจำนวนมากและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มที่จะคิดว่า
คำสั่งที่พิพาทยังสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ truth.113 ส่วนใหญ่
เห็น แต่ถกเถียงกันอยู่ว่างานศิลปะแม้ผู้ที่หมายถึง
ตัวเลขทางประวัติศาสตร์ อาจพึ่งพาได้อย่างอิสระบนจินตนาการและไม่ควรที่จะประเมิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศาลฎีกาได้นำท่าทางที่แตกต่างกันบ้าง อย่างน้อยใน
2 การตัดสินใจศาลดูเหมือนจะได้แห่งตำแหน่งมากสงสัย
มากขึ้นซึ่งสงสัยความเป็นไปได้และที่พึงประสงค์ของเผด็จการตุลาการ
มติในเรื่องของความจริงและ falsity.111 การตัดสินใจก่อน
senesh พิพากษาดังกล่าว ในกรณีที่ศาลการเรียกเก็บเงิน legitimized
ฉาก แม้ conceding ชัดแจ้งว่าหมิ่นประมาทกล่าวหาจริงมัน
รวมประมาณ senesh เป็นเท็จ และข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่ได้
เปล่งเสียงในปรากฎ trial.112 ความยุติธรรมที่ไม่เห็นด้วยวิจารณ์ที่ถือ
ยืนยันว่า ผู้ชม ผู้ที่ทราบว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและ portrays อักขระที่แท้จริง
จริงมากมายและเหตุการณ์ในอนาคต สมมติว่า
ประชุมงบยังสะท้อนให้เห็นถึง truth.113 ประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่
ความเห็น อย่างไรก็ตาม เป็นที่ถกเถียงกันว่าผลงานศิลปะ แม้ผู้หมายถึง
บุคคลในประวัติศาสตร์ อาจใช้จินตนาการอย่างอิสระ และไม่ควรประเมิน