3. Results I: A look into the futur

3. Results I: A look into the future
3.1. Changes in coastal populations and environment
The 100 km wide coastal strip comprises 21% of all land, and is
occupied by over 2.6 billion people (Fig. 1) at densities from
15,000 km2
, and an average density (97 km2
) over
twice that of inland regions (41 km2
). Over half these people (1.36
billion) live on tropical coasts (just 7% of all land) at even higher
densities (145 km2
). Tropical coasts hold 9 of 19 coastal megacities (>10 million people each), and are most densely populated
(mean of 198 km2
) in South and Southeast Asia (Balk, 2011; von
Glasow et al., 2013).
Analysis of the 2010 and 2050 population projection data
(Bengtsson et al., 2006) reveals that across the world’s tropics,
the coastal population is expected to grow by 45% to 1.95 billion
people by 2050, while the number of people occupying the inland
tropics will grow by 71% to 2.26 billion. However, the total area of
inland tropical land is four times that of coastal regions, so tropical
population density in 2050 is projected to be 57 km2
inland and
199 km2
on coasts. Coastal communities will generate increased
local environmental stresses, although improved management
may keep some or all of this increase unrealized.
Table 1 presents three averaged projections of the physicochemical state of tropical coastal environments in 2050, using
three alternative scenarios developed by the international community associated with the IPCC to describe different policy
approaches to GHG emissions. The business-as-usual (BAU) scenario uses RCP8.5 (Vuuren et al., 2011) which approximates the
earlier SRES A1FI scenario (Rogelj et al., 2012), and involves high
levels of fossil fuel use and minimal efforts to reduce GHG emissions. It is the future to which we are currently moving. By 2050,
under this scenario, global temperatures will approximate 1.7 C
warmer relative to the year 2000, rising towards 4.0 C warmer
in 2100 (Fig. 3 in Rogelj et al., 2012). The MODERATE scenario,
RCP4.5 (similar to SRES B1), involves strenuous efforts to rapidly
reduce emissions such that atmospheric concentration of CO2 is

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3. ผลลัพธ์ i:ดูในอนาคต
3.1 ในประชากรชายฝั่งและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
แถบชายฝั่งทะเลกว้าง 100 กิโลเมตรประกอบด้วย 21% ของที่ดินทั้งหมด และเป็น
ด้วยกว่า 2.6 พันล้านคน (Fig. 1) ที่ความหนาแน่นจาก
< 20 กม.
การ > 15000 km 2
, และมีความหนาแน่นเฉลี่ย (97 กม.
) ผ่าน
สองที่บริเวณภูมิภาค (41 กม.
) คนเหล่านี้กว่าครึ่ง (1.36
พันล้าน) อยู่ในเขตร้อนชาย (เพียง 7% ของทั้งหมด) ที่สูงขึ้น
แน่น (145 กม.
) ชายเขตร้อนค้าง 9 ของเมืองใหญ่ ๆ ได้แก่ชายฝั่ง 19 (> 10 ล้านคนแต่ละ), และมีประชากรหนาแน่นที่สุดไป
(เฉลี่ย 198 กม. 2
) ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Balk, 2011 ฟอน
Glasow et al., 2013) .
วิเคราะห์ 2010 และ 2050 ประชากรฉายข้อมูล
(Bengtsson et al., 2006) เผยที่ทั่วเขตร้อนของโลก,
ประชากรชายฝั่งคาดว่าจะเติบโต 45% 1.95 ล้าน
คนภายในปี 2050 ในขณะที่จำนวนของคนที่มีส่วนในการ
เขตร้อนจะเพิ่มขึ้น 71% 2.26 พันล้าน อย่างไรก็ตาม พื้นที่ทั้งหมด
ที่ดินบริเวณเขตร้อนเป็นสี่เท่าของพื้นที่ชายฝั่ง เขตร้อนดังนั้น
คาดว่าความหนาแน่นประชากรใน 2050 เป็น 57 km 2
รื่นรมย์ และ
199 กม.
ในชาย ชุมชนชายฝั่งจะสร้างเพิ่ม
ท้องถิ่นสิ่งแวดล้อมเน้น แม้ว่าการปรับปรุงจัดการ
อาจเก็บเพิ่มทั้งหมดหรือบางส่วนไม่ได้
ตารางที่ 1 แสดงประมาณเฉลี่ยสามสถานะ physicochemical ของสภาพแวดล้อมชายฝั่งทะเลเขตร้อนใน 2050 ใช้
สถานการณ์ทางเลือกที่สามพัฒนาขึ้น โดยประชาคมที่เกี่ยวข้องกับ IPCC เพื่ออธิบายนโยบายอื่น
ใกล้จะปล่อย GHG สถานการณ์ (BAU) ธุรกิจเป็นปกติใช้ RCP8.5 (Vuuren et al., 2011) ซึ่ง approximates
ก่อนหน้า SRES A1FI สถานการณ์ (Rogelj et al., 2012), และเกี่ยวข้องกับสูง
ระดับของการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและความพยายามน้อยที่สุดเพื่อลดการปล่อย GHG มันเป็นอนาคตที่เรากำลังย้าย ภายในปี 2050,
ภายใต้สถานการณ์นี้ โลกอุณหภูมิจะประมาณ 1.7 C
อุ่นสัมพันธ์ปี 2000 ขึ้นต่ออุ่น 4.0 C
ใน 2100 (3 Fig. ใน Rogelj et al., 2012) สถานการณ์ไม่รุนแรง,
RCP4.5 (คล้ายกับ SRES B1), เกี่ยวข้องกับความแข็งแรงรวดเร็ว
ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีบรรยากาศความเข้มข้นของ CO2

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3 ผล I: มองเข้าไปในอนาคต
3.1 การเปลี่ยนแปลงของประชากรและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเล
100 กมแถบชายฝั่งกว้างประกอบด้วย 21% ของที่ดินทั้งหมดและมีการ
ครอบครองโดยกว่า 2.6 พันล้านคน (รูปที่ 1). ที่ความหนาแน่นจาก
<20 กิโลเมตร 2
ไปที่> 15,000 กิโลเมตร 2
, และค่าเฉลี่ย ความหนาแน่น (97 กิโลเมตร 2
) กว่า
สองเท่าของภูมิภาคในประเทศ (41 กิโลเมตร 2?
) กว่าครึ่งหนึ่งของผู้คนเหล่านี้ (1.36
พันล้านดอลลาร์) ที่อาศัยอยู่บนชายฝั่งเขตร้อน (เพียง 7% ของที่ดินทั้งหมด) ที่สูงขึ้น
ความหนาแน่น (145 กิโลเมตร 2
) ชายฝั่งเขตร้อนถือ 9 จาก 19 เมืองใหญ่ชายฝั่ง (> 10 ล้านคนในแต่ละ) และมีประชากรหนาแน่นมากที่สุด
(ค่าเฉลี่ยของ 198 กิโลเมตร 2?
) ในภาคใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (หยุดยั้ง, 2011; ฟอน
. Glasow และคณะ, 2013)
การวิเคราะห์ ข้อมูลปี 2010 และ 2050 ประมาณการประชากร
(Bengtsson et al., 2006) แสดงให้เห็นว่าในเขตร้อนของโลก
ประชากรชายฝั่งทะเลที่คาดว่าจะเติบโต 45% เมื่อเทียบกับ 1950000000
คนภายในปี 2050 ในขณะที่จำนวนของคนที่ครอบครองดินแดน
เขตร้อนจะเติบโต โดย 71% ถึง 2260000000 อย่างไรก็ตามพื้นที่ทั้งหมดของ
ที่ดินในเขตร้อนในประเทศเป็นครั้งที่สี่ของพื้นที่ชายฝั่งทะเลเขตร้อนเพื่อให้
ความหนาแน่นของประชากรในปี 2050 คาดว่าจะเป็นระยะทาง 57 กม 2
บกและ
199 km 2
บนชายฝั่ง ชุมชนชายฝั่งจะสร้างเพิ่มขึ้น
เน้นสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นแม้ว่าการจัดการที่ดีขึ้น
อาจจะให้บางส่วนหรือทั้งหมดของการเพิ่มขึ้นยังไม่เกิดขึ้นนี้
ตารางที่ 1 นำเสนอสามเฉลี่ยประมาณการของรัฐทางเคมีกายภาพของสภาพแวดล้อมชายฝั่งทะเลเขตร้อนในปี 2050 โดยใช้
สามสถานการณ์ทางเลือกที่พัฒนาโดยประชาคมระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับ IPCC เพื่ออธิบายนโยบายที่แตกต่างกัน
วิธีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ธุรกิจตามปกติ (BAU) สถานการณ์ใช้ RCP8.5 (Vuuren et al., 2011) ซึ่งใกล้เคียงกับ
ก่อนหน้านี้ SRES A1FI สถานการณ์ (Rogelj et al., 2012) และเกี่ยวข้องกับการสูง
ระดับของการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและความพยายามน้อยที่สุดเพื่อ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มันเป็นอนาคตที่เรากำลังจะย้าย ภายในปี 2050,
ภายใต้สถานการณ์นี้อุณหภูมิของโลกจะประมาณ 1.7 องศาเซลเซียส
เมื่อเทียบอบอุ่นที่จะปี 2000 เพิ่มขึ้นต่อ 4.0 องศาเซลเซียสอุ่น
ใน 2100 (รูปที่ 3. ใน Rogelj et al., 2012) สถานการณ์ปานกลาง
RCP4.5 (คล้ายกับ SRES B1) เกี่ยวข้องกับความพยายามอย่างมากที่จะได้อย่างรวดเร็ว
ลดการปล่อยก๊าซดังกล่าวว่ามีความเข้มข้นในบรรยากาศของ CO2 เป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . ผลลัพธ์ : มองอนาคต
3.1 . การเปลี่ยนแปลงประชากรชายฝั่งและสิ่งแวดล้อม
100 กิโลเมตรกว้างแถบชายฝั่งประกอบด้วย 21 เปอร์เซ็นต์ของที่ดิน และเป็น
ครอบครองโดยกว่า 2.6 พันล้านคน ( รูปที่ 1 ) ที่หนาแน่น จาก
< 20 km  2
ถึง 15000 km  2
, และมีความหนาแน่นเฉลี่ย ( 97 กิโลเมตร  2

) มากกว่า สองเท่าของภูมิภาคภายในประเทศ ( 41 กม.  2
) กว่าครึ่ง ( 1.36
คนเหล่านี้พันล้าน ) ที่อาศัยอยู่บนชายฝั่งเขตร้อน ( เพียง 7 % ของที่ดินทั้งหมด ) ที่แม้สูงกว่าความหนาแน่น ( 145 กิโลเมตร  2

) ชายฝั่งเขตร้อนถือ 9 19 ชายฝั่งเมกะซิตี้ ( > 10 ล้านคน ) และมีประชากรหนาแน่นมาก
( หมายถึง 198 กม.  2
) ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( หยุดชะงัก , 2011 ; ฟอน
กลาโซว์ et al . , 2013 ) .
การวิเคราะห์ 2010 และปี 2050 ประชากร
( bengtsson ฉายข้อมูล et al . ,2549 ) พบว่า ทั่วโลกเขตร้อน
ประชากรชายฝั่งทะเลที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 45 ถึง 1.95 พันล้านโดย 2050
คน ในขณะที่จำนวนคนที่ครอบครองเขตร้อนบก
จะเติบโต 71% 3 พันล้าน อย่างไรก็ตาม พื้นที่ทั้งหมดของ
บกที่ดินเขตร้อนเป็นสี่เท่าของพื้นที่ชายฝั่ง ดังนั้นเขตร้อน
ความหนาแน่นของประชากรใน 2050 คาดว่าจะมี 57 กิโลเมตร และแหล่ง  2

2
 199 กิโลเมตรบนชายฝั่ง ชุมชนชายฝั่งจะสร้างเพิ่มขึ้น
เน้นสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น ถึงแม้ว่าการจัดการการปรับปรุงอาจจะเก็บบางส่วนหรือทั้งหมดนี้เพิ่มรายได้ .
ตารางที่ 1 เสนอสามประมาณการเฉลี่ยของรัฐและสภาพแวดล้อมชายฝั่งทะเลเขตร้อนใน 2050 , ใช้
สามทางเลือกในสถานการณ์ที่พัฒนาโดยชุมชนระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับ IPCC เพื่ออธิบายแนวทางนโยบาย
ที่แตกต่างกันเพื่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก . ธุรกิจตามปกติ ( BAU ) สถานการณ์การใช้ rcp8.5 ( vuuren et al . , 2011 ) ซึ่งใกล้เคียงกับสถานการณ์ก่อนหน้านี้ทุกท่าน
a1fi ( rogelj et al . , 2012 ) , และ เกี่ยวข้องกับ สูง
ระดับการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและความพยายามที่น้อยที่สุด เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก .มันเป็นอนาคตที่เรากำลังย้าย โดย 2050 ,
ภายใต้สถานการณ์นี้ อุณหภูมิของโลกจะประมาณ 1.7  C
อุ่นเมื่อเทียบกับปี 2543 เพิ่มขึ้นต่อ 4.0  C warmer
ใน 2100 ( รูปที่ 3 rogelj et al . , 2012 ) สถานการณ์ปานกลาง
rcp4.5 ( คล้ายกับทุกท่าน B1 ) , เกี่ยวข้องกับความพยายามบากบั่นเพื่ออย่างรวดเร็ว
ลดการปล่อยก๊าซดังกล่าวว่า ความเข้มข้นของ CO2 ในบรรยากาศเป็น