When you look up, the blue sky is s

When you look up, the blue sky is spotted with birds that spear through the white clouds. When you look down, the green field of barley has been decorated with cows and sheep that are grazing in leisure. You are lying on the soft grass drinking self-brewed beer. What more would a man need? People always live better away from the dirty and noisy city, away from constrain of the society and live in their own anarchy and peaceful place.

The reason for most people who live in the countryside is the clean and fresh environment. Compare to the cities, countryside’s environment seems like heaven. No noisy cars, no dirty factories and have people cramped together all the time. People can truly live in peacefulness in the countryside. Scientific report shows that people from countryside live a longer time that the people who live in the city. Because of the pollution and noise free environment people who live in the countryside’s health have been dramatically improved.

Without constrain of the society, people will live more happily. This is because people do not feel the sense of freedom when living in a city. They have to go to work on time, do the cooking every several hours and have to study hard to keep up with the school. People who live in the countryside do not have these problems. They can do what ever they want without worrying about the consequences. For example, if they wake up late to seed the soil, nothing will happen because they won the farm.

Though living in the countryside is great, living in the city still have a lot of advantages. There are better entertainments, opportunities to be educated and have technologies that can make our life easier. In the country side the only entertainment they have is play some instruments or have a game of chess with an old mate. But in city, Internet cafes, nightclubs and casinos are everywhere. TV and computer are also what countryside fantasies about. Education is also better in city than countryside’s.

Both countryside and city have their own advantages. What this made people has different decisions is their personality. For myself, I like to go to the countryside.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อคุณค้นหา ท้องฟ้าสีครามเป็นด่างกับนกที่หอกผ่านเมฆขาว เมื่อคุณดู ฟิลด์สีเขียวของข้าวบาร์เลย์มีการตกแต่ง ด้วยวัวและแกะที่ grazing ในผ่อนคลาย คุณกำลังนอนอยู่บนหญ้าอ่อนที่ดื่มเบียร์บริการตนเอง สิ่งที่เพิ่มเติมจะต้องเป็นคน คนเสมออยู่ดีกว่าห้องสกปรก และเสียงดัง จากจำกัดของสังคม และอยู่ในอนาธิปไตยและสงบของตนเองเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในชนบทมีสภาพแวดล้อมที่สะอาด และสดชื่น เปรียบเทียบการเมือง สภาพแวดล้อมของชนบทเหมือนสวรรค์ รถไม่มีเสียงดัง โรงงานไม่สกปรก และมีคน cramped กันตลอดเวลา คนสามารถอาศัยอยู่ในกลืนในชนบทอย่างแท้จริง รายงานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าคนจากชนบทที่สดเป็นอีกครั้งที่คนที่อยู่ในเมือง มลพิษและเสียงรบกวนแวดล้อมฟรีคนที่อยู่ในสุขภาพออกแบบมาดำเนินได้อย่างมากขึ้นโดยไม่จำกัดของสังคม ประชาชนจะอยู่อย่างมีความสุขมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากคนไม่รู้สึกความอิสระอาศัยอยู่ในเมือง พวกเขาจะต้องไปงาน ทำปรุงอาหารทุกหลายชั่วโมง และต้องศึกษาอย่างหนักเพื่อให้ทันกับโรงเรียน คนที่อาศัยอยู่ในชนบทมีปัญหาเหล่านี้ พวกเขาสามารถทำสิ่งที่เคยที่พวกเขาต้องการโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับลำดับ ตัวอย่าง ถ้าพวกเขาตื่นสายกับเมล็ดดิน อะไรจะเกิดขึ้นเนื่องจากพวกเขาชนะในฟาร์มแต่ชีวิตในชนบทดี อาศัยอยู่ในเมืองยังคงมีประโยชน์มาก มีสถานบันเทิงที่ดี โอกาสในการศึกษา และมีเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น ในด้านประเทศ ความบันเทิงเท่านั้นที่ได้เป็นบางเครื่อง หรือมีเกมหมากรุกกับเพื่อนเก่า แต่ในห้อง อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ไนท์คลับ และคาสิโนทุก โทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ได้ยัง fantasies ชนบทอะไรเกี่ยวกับ ศึกษาได้ยังดีกว่าในเมืองมากกว่าชนบทของชนบทและเมืองได้ข้อดีของตัวเอง สิ่งนี้ที่ทำให้คนมีการตัดสินใจที่แตกต่างกันมีบุคลิกภาพของพวกเขา ตัวเอง ผมชอบไปชนบท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อคุณมองขึ้นท้องฟ้าสีฟ้าเป็นด่างกับนกที่หอกผ่านเมฆสีขาว เมื่อคุณมองลงมาที่ทุ่งหญ้าเขียวขจีของข้าวบาร์เลย์ได้รับการตกแต่งด้วยวัวและแกะที่แทะเล็มในการพักผ่อน คุณกำลังนอนอยู่บนหญ้าดื่มเบียร์ด้วยตนเองต้มนุ่ม มีอะไรมากกว่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะต้อง? ผู้คนมักชีวิตที่ดีขึ้นห่างจากเมืองที่สกปรกและมีเสียงดังออกไปจาก จำกัด ของสังคมและมีชีวิตอยู่ในความโกลาหลของตัวเองและสถานที่สงบ. เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในชนบทเป็นสภาพแวดล้อมที่สะอาดและสด เปรียบเทียบกับเมืองชนบทของสภาพแวดล้อมที่ดูเหมือนว่าสวรรค์ ไม่มีรถมีเสียงดังไม่มีโรงงานสกปรกและมีคนที่แคบด้วยกันตลอดเวลา คนอย่างแท้จริงสามารถอาศัยอยู่ในความสงบสุขในชนบท รายงานทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าผู้คนจากชนบทที่อาศัยอยู่เป็นเวลานานว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมือง เพราะมลพิษและเสียงฟรีคนสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ในชนบทของสุขภาพที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว. โดยไม่ จำกัด ของสังคมที่ผู้คนจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขมากขึ้น เพราะคนไม่รู้สึกความรู้สึกของเสรีภาพเมื่ออาศัยอยู่ในเมือง พวกเขาจะต้องไปทำงานในเวลาทำการปรุงอาหารทุกเวลาหลายชั่วโมงและมีการเรียนอย่างหนักเพื่อให้ทันกับโรงเรียน ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชนบทไม่ได้มีปัญหาเหล่านี้ พวกเขาสามารถทำสิ่งที่เคยพวกเขาต้องการโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลกระทบ ตัวอย่างเช่นถ้าพวกเขาตื่นขึ้นมาในช่วงปลายเมล็ดดินไม่มีอะไรที่จะเกิดขึ้นเพราะพวกเขาได้รับรางวัลฟาร์ม. แม้ว่าที่อาศัยอยู่ในชนบทเป็นสิ่งที่ดีที่อาศัยอยู่ในเมืองยังคงมีประโยชน์มาก มีความบันเทิงที่ดีกว่าโอกาสที่จะได้รับการศึกษาและมีเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น ในด้านประเทศบันเทิงเดียวที่พวกเขามีคือเล่นเครื่องดนตรีบางส่วนหรือมีเกมหมากรุกกับเพื่อนเก่า แต่ในเมืองที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่, ไนท์คลับและคาสิโนที่มีทุกที่ ทีวีและคอมพิวเตอร์นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่จินตนาการเกี่ยวกับชนบท การศึกษายังดีกว่าในเมืองมากกว่าชนบทของ. ทั้งในชนบทและเมืองที่มีข้อได้เปรียบของตัวเอง สิ่งนี้ทำให้ผู้คนมีการตัดสินใจที่แตกต่างกันคือบุคลิกภาพของตน สำหรับตัวผมเองผมชอบที่จะไปที่ชนบท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อคุณมองขึ้นท้องฟ้าสีฟ้ากับนกด่างที่หอกผ่านเมฆขาว เมื่อคุณมองลง สนามของข้าวบาร์เลย์ถูกตกแต่งด้วยวัวและแกะที่กินหญ้าในยามว่าง คุณจะนอนบนหญ้านุ่มดื่มด้วยการต้มเบียร์ สิ่งที่ผู้ชายต้องการ ผู้คนมักจะสดดีกว่า ห่างจากเมืองสกปรก และเสียงดัง ,ออกไปจากที่กำหนด ของสังคม และอยู่ในสถานการณ์ของตัวเองและสถานที่ที่เงียบสงบ .

เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในชนบท มีสภาพแวดล้อมที่สะอาดและสด เปรียบเทียบกับเมือง สภาพแวดล้อมในชนบทเหมือนสวรรค์ ไม่มีรถเสียงดัง ไม่สกปรกและโรงงานมีคนคับแคบด้วยกันตลอดเวลา ผู้คนสามารถมีชีวิตอยู่ในความสงบในชนบทรายงานทางวิทยาศาสตร์ พบว่า ประชาชนจากชนบทอยู่เวลาที่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมือง เนื่องจากมลพิษและเสียงฟรีสภาพแวดล้อมที่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในสุขภาพของชนบทได้รับการปรับปรุงอย่างมาก

ไม่มีจำกัดของสังคม ประชาชนก็จะอยู่อย่างมีความสุข นี้เป็นเพราะคนไม่ได้รู้สึกความรู้สึกของเสรีภาพเมื่ออยู่ในเมืองพวกเขาต้องไปทำงานในเวลาทำอาหารหลายชั่วโมงทุกวันและต้องเรียนอย่างหนักเพื่อให้ทันกับโรงเรียน คนที่อาศัยอยู่ในชนบท ไม่ได้มีปัญหาเหล่านี้ พวกเขาสามารถทำสิ่งที่พวกเขาต้องการโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลที่ตามมา ตัวอย่างเช่น ถ้าเขาตื่นสาย เม็ดดิน จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะพวกเขาจะฟาร์ม

แต่ใช้ชีวิตในชนบทมาก