Moisture meterFrom Wikipedia, the f

Moisture meter
From Wikipedia, the free encyclopedia
Jump to: navigation, search Moisture meters are used to measure the percentage of water in a given substance. This information can be used to determine if the material is ready for use, unexpectedly wet or dry, or otherwise in need of further inspection.

Wood and paper products are very sensitive to their moisture content. Physical properties are strongly affected by moisture content. Dimensioning also changes with moisture content.

Meters for wood[edit]Newly-cut logs can have a moisture content (MC) of 80% or more, depending on species. Since wood shrinks, and can also split, twist or otherwise change shape as it dries, most wood is dried before being used. This is most often done using a kiln, but may use the air drying method, which is much slower. In most parts of the United States, the minimum moisture content that can be generally obtained in air drying is about 12 to 15 percent. Most air-dried material is usually closer to 20 percent moisture content when used.[1]

In-kiln drying is usually monitored by some type of moisture meter. Moisture meters are used to measure the amount of water in the wood so that the woodworker can determine if it is suitable for the intended purpose. Building inspectors and many more, carpenters, hobbyists, and other woodworkers often are required to have moisture meters. Wood flooring installers, for example, have to verify that the MC of the wood matches the relative humidity in the air of the building. If this step is skipped, a vast array of problems may present itself: cracking, cupping, crowning, buckling, sunken joints, and cracked finishes.

The problems caused by varying degrees of moisture content in wood go beyond simple shrinkage in the dimensions of wood parts. Problems with distortions in the shape of the wood, such as twisting, warping and cupping, occur because of the difference in the degree of dimensional change in wood cells tangentially (perpendicular to the grain and parallel to the growth rings) versus radially (perpendicular to the growth rings). [2]

The amount of overall shrinkage lumber will undergo in the drying process varies from wood species to wood species. The difference between radial and tangential shrinkage also varies from species to species. Woods with a low ratio of tangential to radial shrinkage, such as teak and mahogany, are less prone to distortion due to changes in moisture content than woods with a high ratio, such as eastern white pine and certain species of oak. Species with both low overall shrinkage and a low tangential/radial shrinkage ratio are more stable and will react better to changes in moisture content.[3]

For wood that is to be used in making furniture, for wood floors, in construction or for any building project, the ideal state is one of equilibrium moisture content (EMC). EMC means that the wood is in balance with the relative humidity it surrounding environment, and is therefore neither gaining or losing in moisture content. In reality, however, it is extremely rare for an environment to maintain a constant fixed relative humidity, and some degree of dimensional change along with seasonal changes in relative humidity is to be expected.[4]

A moisture meter gives a reading of the approximate moisture content of wood. The reading helps in determining whether the wood is suitably dry for its intended purpose. The moisture content reading can also assist in planning a project design that will accommodate future changes in dimension caused by changes in relative humidity.

For typical woodworking operations, two basic types of moisture meter are available.[5] One type measures the electrical resistance of the wood fibers, which becomes increasingly lower as the moisture content of the wood rises. With the electrical resistance type of moisture meter, two electrodes are driven into the wood fibers and the electrical resistance is translated into moisture content on the device’s electronic or dial output. A second type of moisture meter relies on the dielectric properties of wood, and requires only surface contact with the wood.[

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เครื่องวัดความชื้นจากวิกิพีเดีย สารานุกรมฟรีข้ามไป: นำทาง ค้นหาความชื้นเมตรใช้วัดเปอร์เซ็นต์ของน้ำในสารที่กำหนด สามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อระบุว่าวัสดุพร้อมใช้ คาดเปียก หรือแห้ง หรืออื่น ๆ ที่ต้องการตรวจสอบเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ไม้ และกระดาษมีมากความไวต่อความชื้น คุณสมบัติทางกายภาพจะมีผลกระทบอย่างยิ่ง โดยชื้น นอกจากนี้การ dimensioning จะเปลี่ยนกับชื้นด้วยเมตรสำหรับไม้ [แก้ไข] ใหม่ตัดล็อกได้ความชื้น (MC) ของ 80% ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ได้ ตั้งแต่ลดขนาดไม้ และสามารถยัง แบ่ง บิดหรือรูปร่างเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่แห้ง ไม้ส่วนใหญ่จะแห้งก่อนที่จะใช้ นี้มักจะทำโดยใช้เตาเผาแบบ แต่อาจใช้อากาศแห้งวิธี ที่ช้า ในส่วนใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา เนื้อหาความชื้นต่ำซึ่งโดยทั่วไปได้ในอากาศแห้งได้ประมาณ 12-15 เปอร์เซ็นต์ สุด air-dried วัสดุมักจะใกล้ชิดกับเนื้อหาความชื้น 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อใช้ได้ [1]มักจะตรวจสอบในเตาเผาแห้งบางชนิดวัดความชื้น เมตรความชื้นจะใช้ในการวัดจำนวนน้ำในไม้ให้ woodworker ที่สามารถดูว่า มันเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์กำหนดไว้ ผู้ตรวจสอบอาคาร และมาก เดอะคาร์เพนเทอส์ hobbyists และ woodworkers อื่น ๆ มักจะจำเป็นต้องมีความชื้นเมตร ติดตั้งพื้นไม้ ตัวอย่าง มีการตรวจสอบว่า MC ของไม้ตรงกับความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศของอาคาร ถ้าข้ามขั้นตอนนี้ ปัญหามากมายอาจนำตัวเอง: ถอด cupping ผ่อน buckling รอยต่อจม และรอยร้าวเสร็จสิ้นได้ปัญหาที่เกิดจากองศาที่แตกต่างของความชื้นในไม้เกินหดตัวอย่างในขนาดชิ้นไม้ ปัญหาบิดเบือนในรูปร่างของไม้ บิด แปรปรวน และ cupping เกิดขึ้นเนื่องจากความแตกต่างในระดับของการเปลี่ยนแปลงมิติในเซลล์ไม้ tangentially (เส้นตั้งฉากกับเมล็ดข้าวและคู่ขนานวงแหวนเติบโต) กับ radially (ตั้งฉากกับวงเติบโต) [2]The amount of overall shrinkage lumber will undergo in the drying process varies from wood species to wood species. The difference between radial and tangential shrinkage also varies from species to species. Woods with a low ratio of tangential to radial shrinkage, such as teak and mahogany, are less prone to distortion due to changes in moisture content than woods with a high ratio, such as eastern white pine and certain species of oak. Species with both low overall shrinkage and a low tangential/radial shrinkage ratio are more stable and will react better to changes in moisture content.[3]For wood that is to be used in making furniture, for wood floors, in construction or for any building project, the ideal state is one of equilibrium moisture content (EMC). EMC means that the wood is in balance with the relative humidity it surrounding environment, and is therefore neither gaining or losing in moisture content. In reality, however, it is extremely rare for an environment to maintain a constant fixed relative humidity, and some degree of dimensional change along with seasonal changes in relative humidity is to be expected.[4]A moisture meter gives a reading of the approximate moisture content of wood. The reading helps in determining whether the wood is suitably dry for its intended purpose. The moisture content reading can also assist in planning a project design that will accommodate future changes in dimension caused by changes in relative humidity.สองชนิดพื้นฐานของเครื่องวัดความชื้นจะไม่พร้อมใช้งานสำหรับงานไม้ทั่วไป [5] ชนิดหนึ่งมาตรการต้านทานไฟฟ้าของเส้นใยไม้ ซึ่งเป็นขึ้นชื้นของไม้เพิ่มขึ้น มีชนิดความต้านทานไฟฟ้าของเครื่องวัดความชื้น หุงตสองขับเคลื่อนเป็นเส้นใยไม้ และความต้านทานไฟฟ้าแปลชื้นของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเรียกออก เครื่องวัดความชื้นชนิดที่สองอาศัยคุณสมบัติของไม้เป็นฉนวน และต้องติดต่อเฉพาะพื้นผิว ด้วยไม้ [

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัดความชื้นจากวิกิพีเดียสารานุกรมเสรีไปที่: นำทาง, ค้นหาเมตรความชื้นที่ใช้ในการวัดเปอร์เซ็นต์ของน้ำในสารที่ได้รับ ข้อมูลนี้สามารถนำมาใช้เพื่อตรวจสอบว่าวัสดุที่มีความพร้อมสำหรับการใช้งานโดยไม่คาดคิดเปียกหรือแห้งหรืออยู่ในความต้องการของการตรวจสอบต่อไป. ไม้และผลิตภัณฑ์กระดาษมีความไวต่อความชื้นของพวกเขา คุณสมบัติทางกายภาพได้รับผลกระทบอย่างมากจากความชื้น ขนาดยังมีการเปลี่ยนแปลงที่มีความชื้น. เมตรไม้ [แก้ไข] บันทึกตัดใหม่สามารถมีความชื้น (MC) 80% หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับชนิด ตั้งแต่ไม้หดตัวและยังสามารถแยกบิดหรือมิฉะนั้นเปลี่ยนรูปร่างเป็นมันแห้งไม้ส่วนใหญ่จะแห้งก่อนที่จะถูกนำมาใช้ นี้จะกระทำส่วนใหญ่มักจะใช้เตาเผา แต่อาจใช้วิธีการอบแห้งด้วยลมซึ่งเป็นที่ช้ามาก ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีความชื้นต่ำสุดที่สามารถได้รับโดยทั่วไปในอากาศแห้งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ 12 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ วัสดุที่อากาศแห้งส่วนใหญ่มักจะใกล้ชิดกับความชื้น 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อใช้. [1] การอบแห้งในเตาเผามักจะถูกตรวจสอบโดยแบ่งตามชนิดของเครื่องวัดความชื้นบาง เมตรความชื้นที่ใช้ในการวัดปริมาณน้ำในไม้เพื่อให้ช่างไม้สามารถตรวจสอบว่าเป็นที่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ ตรวจสอบอาคารและอื่น ๆ อีกมากมายช่างไม้มือสมัครเล่นและ woodworkers อื่น ๆ มักจะต้องมีความชื้นเมตร ติดตั้งไม้พื้นเช่นมีการตรวจสอบว่าพิธีกรของไม้ตรงกับความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศของอาคาร หากขั้นตอนนี้จะข้ามมากมายของปัญหาที่อาจจะนำเสนอตัวเอง: แตกคัปปิ้ง, ยอด, โก่งข้อต่อจมและแตกเสร็จสิ้น. ปัญหาที่เกิดจากองศาที่แตกต่างของปริมาณความชื้นในไม้ไปไกลกว่าการหดตัวง่ายในมิติของไม้ ชิ้นส่วน ปัญหาเกี่ยวกับการบิดเบือนในรูปของไม้เช่นการบิดงอและป้องเกิดขึ้นเพราะความแตกต่างในระดับของการเปลี่ยนแปลงมิติในเซลล์ไม้สัมผัส (ที่ตั้งฉากกับเมล็ดข้าวและขนานไปกับแหวนการเจริญเติบโต) กับเรดิ (ตั้งฉากกับ แหวนการเจริญเติบโต) [2] จำนวนไม้หดตัวโดยรวมจะได้รับในกระบวนการอบแห้งแตกต่างจากไม้ชนิดพันธุ์ไม้ ความแตกต่างระหว่างรัศมีและการหดตัวของวงยังแตกต่างกันไปจากสายพันธุ์สายพันธุ์ วูดส์ที่มีอัตราต่ำของการหดตัวสัมผัสกับรัศมีเช่นไม้สักและไม้มะฮอกกานีมีน้อยแนวโน้มที่จะบิดเบือนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของปริมาณความชื้นกว่าป่าที่มีอัตราสูงเช่นสนตะวันออกสีขาวและบางชนิดของไม้โอ๊ค สายพันธุ์ที่มีทั้งการหดตัวโดยรวมในระดับต่ำและระดับต่ำสุดในวง / อัตราการหดตัวในแนวรัศมีมีเสถียรภาพมากขึ้นและจะตอบสนองดีกว่าที่จะเปลี่ยนแปลงในความชื้น. [3] สำหรับไม้ที่จะนำมาใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์สำหรับพื้นไม้ในการก่อสร้างหรือสำหรับการใด ๆ โครงการอาคารรัฐที่เหมาะเป็นหนึ่งในความชื้นสมดุล (EMC) อีเอ็มซีหมายความว่าไม้ที่อยู่ในสมดุลกับความชื้นสัมพัทธ์มันสภาพแวดล้อมและดังนั้นจึงไม่ได้รับความสูญเสียหรือความชื้น ในความเป็นจริง แต่มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับสภาพแวดล้อมการรักษาอย่างต่อเนื่องความชื้นคงที่และในระดับหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงมิติพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลในความชื้นสัมพัทธ์เป็นที่คาดหวัง. [4] วัดความชื้นจะช่วยให้การอ่านโดยประมาณที่ ปริมาณความชื้นของไม้ การอ่านจะช่วยในการพิจารณาว่าเป็นไม้แห้งที่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสง อ่านความชื้นนอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการวางแผนการออกแบบโครงการที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตในมิติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในความชื้นสัมพัทธ์. สำหรับการดำเนินงานไม้ทั่วไปสองประเภทพื้นฐานของเครื่องวัดความชื้นที่มีอยู่. [5] ประเภทหนึ่งวัดความต้านทานไฟฟ้าของ เส้นใยไม้ซึ่งจะกลายเป็นมากขึ้นลดลงในขณะที่ปริมาณความชื้นของไม้ที่เพิ่มขึ้น กับชนิดความต้านทานไฟฟ้าของเครื่องวัดความชื้นสองขั้วไฟฟ้าจะขับรถเข้าไปในเส้นใยไม้และความต้านทานไฟฟ้าจะแปลเป็นความชื้นในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือสายโทรศัพท์ออก ประเภทที่สองของการวัดความชื้นอาศัยคุณสมบัติเป็นฉนวนที่ทำจากไม้และต้องใช้เพียงผิวสัมผัสกับไม้. [