การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ การรับรู้ และพฤติกรรม การแปล - การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ การรับรู้ และพฤติกรรม ไทย วิธีการพูด

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ การรับรู้ และพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออก ของครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในเขตอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง (Cross – Sectional Descriptive Study) โดยศึกษาในครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลหัวช้าง ตำบลเมืองทุ่ง และตำบลทุ่งศรีเมืองซึ่งเป็นตำบลที่มีอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก ของอำเภอสุวรรณภูมิจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งแต่เดือนมกราคม – สิงหาคม พ.ศ.2558 จำนวน 61 ราย ด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่คณะผู้วิจัยสร้างขึ้น แบ่งออกเป็น 4 ตอน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไป ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก การรับรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก และพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออก ซึ่งแบบสอบถามได้ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากอาจารย์ที่ปรึกษา หาความเที่ยงด้วยวิธีคอนบาร์ช แอลฟา ได้เท่ากับ 0.83 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าสูงสุด ค่าต่ำสุดและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s Correlation)
ผลการการศึกษา พบว่า ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก โดยภาพรวมมีความรู้อยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 62.22) ในด้านการรับรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก พบว่า ครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมีการรับรู้อยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 66.67) และมีการรับรู้เรื่องโรคไข้เลือดออกเป็นรายด้าน ได้แก่ การรับรู้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้เลือดออก (ร้อยละ 84.44) การรับรู้ความรุนแรงต่อการเกิดโรคไข้เลือดออก (ร้อยละ 55.56) การรับรู้ประโยชน์ต่อการเกิดโรคไข้เลือดออกอยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 82.22) และการรับรู้อุปสรรคต่อการเกิดโรคไข้เลือดออกของครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในเขตอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ดอยู่ในระดับปานกลาง และ พบว่า มีพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกโดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 75.56) ทั้งนี้ พบว่า ปัจจัยด้านความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกกับพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออก พบว่า ความรู้ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยมีค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ (r) เท่ากับ – 0.128 และผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยมีค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ (r) เท่ากับ – 0.024
คณะผู้วิจัยมีความเห็นว่าควร มีการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องโรคไข้เลือด ตลอดจนการป้องกันตนเองและบุคคลในครอบครัว ให้ประชาชนทุกระดับเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมการรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก รวมทั้งมีการให้บริการแจกสารเคมีหรือสารเคมีพ่นหมอกควันกำจัดลูกน้ำยุงลาย และที่สำคัญที่สุดควรมีการรณรงค์กำจัดลูก น้ำยุงลายด้วยวิธีธรรมชาติทั้งการใส่เกลือแกงลงในภาชนะที่มีน้ำขัง การคว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง หรือการเปลี่ยนแปลงถ่ายน้ำใช้ในห้องน้ำ และสถานที่ต่าง ๆ

คำสำคัญ: ความรู้/ การรับรู้/ พฤติกรรม/ครอบครัวที่มีผู้ป่วย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้การรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกของครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในเขตอำเภอสุวรรณภูมิจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง (ข้าม – ศึกษาอธิบายตัด) โดยศึกษาในครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 3 ตำบลได้แก่ตำบลหัวช้างตำบลเมืองทุ่งและตำบลทุ่งศรีเมืองซึ่งเป็นตำบลที่มีอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรกของอำเภอสุวรรณภูมิจังหวัดร้อยเอ็ดตั้งแต่เดือนมกราคม – ด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่ายรายจำนวน 61 พ.ศ.2558 สิงหาคม (Rando ง่ายสุ่มตัวอย่าง m) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่คณะผู้วิจัยสร้างขึ้นแบ่งออกเป็น 4 ตอนได้แก่ข้อมูลทั่วไปความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกการรับรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกและพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกซึ่งแบบสอบถามได้ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากอาจารย์ที่ปรึกษาหาความเที่ยงด้วยวิธีคอนบาร์ชแอลฟาได้เท่ากับ 0.83 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าความถี่ร้อยละค่าเฉลี่ยเลขคณิตค่าสูงสุดค่าต่ำสุดและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน)ผลการการศึกษาพบว่าความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกโดยภาพรวมมีความรู้อยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 62.22) ในด้านการรับรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกพบว่าครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมีการรับรู้อยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 66.67) และมีการรับรู้เรื่องโรคไข้เลือดออกเป็นรายด้านได้แก่การรับรู้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้เลือดออก (ร้อยละ 84.44) การรับรู้ความรุนแรงต่อการเกิดโรคไข้เลือดออก (ร้อยละ 55.56) การรับรู้ประโยชน์ต่อการเกิดโรคไข้เลือดออกอยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 82.22) และการรับรู้อุปสรรคต่อการเกิดโรคไข้เลือดออกของครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในเขตอำเภอสุวรรณภูมิจังหวัดร้อยเอ็ดอยู่ในระดับปานกลางและพบว่ามีพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกโดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 75.56) ทั้งนี้พบว่าปัจจัยด้านความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกกับพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกเท่ากับโดยมีค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ (r) พบว่าความรู้ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05-0.128 และผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยมีค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ (r) เท่ากับ – 0.024คณะผู้วิจัยมีความเห็นว่าควรมีการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องโรคไข้เลือดตลอดจนการป้องกันตนเองและบุคคลในครอบครัวให้ประชาชนทุกระดับเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมการรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออกรวมทั้งมีการให้บริการแจกสารเคมีหรือสารเคมีพ่นหมอกควันกำจัดลูกน้ำยุงลายและที่สำคัญที่สุดควรมีการรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลายด้วยวิธีธรรมชาติทั้งการใส่เกลือแกงลงในภาชนะที่มีน้ำขังการคว่ำภาชนะที่มีน้ำขังหรือการเปลี่ยนแปลงถ่ายน้ำใช้ในห้องน้ำและสถานที่ต่างๆ คำสำคัญ: ความรู้ / การรับรู้ / พฤติกรรม/ครอบครัวที่มีผู้ป่วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้การรับรู้ จังหวัดร้อยเอ็ด (ครอส - Sectional ศึกษาพรรณนา) 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลหัวช้างตำบลเมืองทุ่ง 3 อันดับแรกของอำเภอสุวรรณภูมิจังหวัดร้อยเอ็ดตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม พ.ศ. 2558 จำนวน 61 รายด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (ง่ายสุ่ม) แบ่งออกเป็น 4 ตอน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไปความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกการรับรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก หาความเที่ยงด้วยวิธีคอนบาร์ชแอลฟาได้เท่ากับ 0.83 ร้อยละค่าเฉลี่ยเลขคณิตค่าสูงสุดค่าต่ำสุดและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ความสัมพันธ์ของเพียร์สัน)
ผลการการศึกษาพบว่าความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกโดยภาพรวมมีความรู้อยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 62.22) พบว่า (ร้อยละ 66.67) ได้แก่ (ร้อยละ 84.44) (ร้อยละ 55.56) (ร้อยละ 82.22) จังหวัดร้อยเอ็ดอยู่ในระดับปานกลางและพบว่า (ร้อยละ 75.56) ทั้งนี้พบว่า พบว่า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยมีค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ (R) เท่ากับ - 0.128 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยมีค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ (R) เท่ากับ - 0.024
คณะผู้วิจัยมีความเห็นว่าควรมีการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องโรคไข้เลือด การคว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง สถานที่และต่าง ๆคำสำคัญ: ความรู้ / การรับรู้ / พฤติกรรม / ครอบครัวที่มีผู้ป่วย


การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้การรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกของครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในเขตอำเภอสุวรรณภูมิจังหวัดร้อยเอ็ด( Cross Sectional –การศึกษาเชิงพรรณนา ) โดยศึกษาในครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 3 ตำบลได้แก่ตำบลหัวช้างตำบลเมืองทุ่งและตำบลทุ่งศรีเมืองซึ่งเป็นตำบลที่มีอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรกของอำเภอสุวรรณภูมิจังหวัดร้อยเอ็ด–สิงหาคมพ .ศ .2558 จำนวน 61 รายด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย ( สุ่ม ) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่คณะผู้วิจัยสร้างขึ้นแบ่งออกเป็น 4 ตอนได้แก่ข้อมูลทั่วไปความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกและพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกซึ่งแบบสอบถามได้ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากอาจารย์ที่ปรึกษาหาความเที่ยงด้วยวิธีคอนบาร์ชแอลฟาได้เท่ากับ 083 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าความถี่ร้อยละค่าเฉลี่ยเลขคณิตค่าสูงสุดค่าต่ำสุดและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ( ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน )
ผลการการศึกษาพบว่าความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกโดยภาพรวมมีความรู้อยู่ในระดับสูง ( ร้อยละ 6222 ) ในด้านการรับรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกพบว่าครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมีการรับรู้อยู่ในระดับสูง ( ร้อยละ 6667 ) และมีการรับรู้เรื่องโรคไข้เลือดออกเป็นรายด้านได้แก่การรับรู้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้เลือดออก ( ร้อยละ 84.44 ) การรับรู้ความรุนแรงต่อการเกิดโรคไข้เลือดออก ( ร้อยละ 5556 ) การรับรู้ประโยชน์ต่อการเกิดโรคไข้เลือดออกอยู่ในระดับสูง ( ร้อยละ 8222 ) และการรับรู้อุปสรรคต่อการเกิดโรคไข้เลือดออกของครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในเขตอำเภอสุวรรณภูมิจังหวัดร้อยเอ็ดอยู่ในระดับปานกลางและพบว่า( ร้อยละ 7556 ) ทั้งนี้พบว่าปัจจัยด้านความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกกับพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกพบว่าความรู้ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 005 โดยมีค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ ( R ) เท่ากับ– 0128 และผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 005 โดยมีค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ ( R ) เท่ากับ– 0.024
คณะผู้วิจัยมีความเห็นว่าควรมีการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องโรคไข้เลือดตลอดจนการป้องกันตนเองและบุคคลในครอบครัวรวมทั้งมีการให้บริการแจกสารเคมีหรือสารเคมีพ่นหมอกควันกำจัดลูกน้ำยุงลายและที่สำคัญที่สุดควรมีการรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลายด้วยวิธีธรรมชาติทั้งการใส่เกลือแกงลงในภาชนะที่มีน้ำขังการคว่ำภาชนะที่มีน้ำขังไม่มีและสถานที่ต่าง

คำสำคัญ : ความรู้ / การรับรู้ / พฤติกรรม / ครอบครัวที่มีผู้ป่วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: