This dissertation examines Thai-Chi

This dissertation examines Thai-Chinese relations, dating back to the first Thai dynasty (Sukhothai) to the present (Ratanakosin). Furthermore, the dissertation discusses Thai domestic policies that have affected the Chinese population since World War II and assimilation policies of the Thai government towards the Chinese. Lastly, this dissertation analyzes both Skinner's and Chan and Tong's arguments and their main idea in the context of the present day environment and situation for the ethic Chinese. This research supports the Skinnerian paradigm, which asserts that "a majority of the descendants of Chinese immigrants in each generation merge with Thai society and become indistinguishable from the indigenous population to the extent that fourth-generation Chineseare practically non-existent." The validation of the Skinnerian paradigm rejects Chan and Tong's hypothesis, which claims that Skinner has "overemphasized the forces of assimilation" and that the Chinese in Thailand have not assimilated but retained their Chineseidentity. To support Skinner's assertion and reject Chan and Tong's argument, this dissertation presents the empirical data collected via surveys conducted on the ethnic Chinese in Thailand from 2003-2004.
This dissertation finds that the forces of assimilation occur at two levels. On the first level, the Chinese in Thailand possess natural attributes which facilitate social and cultural integration and assimilation into Thai society. On the second level, government pro assimilation policies, driven by the bilateral relations between Thailand and China and the political situation in both countries, are also responsible for the assimilation of the Chinese in Thailand.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิทยานิพนธ์นี้ตรวจสอบความสัมพันธ์ไทย-จีน ไปแรกไทยวงศ์ (สุโขทัย) ปัจจุบัน (รัตนโกสินทร์) นอกจากนี้ วิทยานิพนธ์การอธิบายนโยบายในประเทศไทยที่มีประชากรจีนตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองที่ได้รับผลกระทบ และนโยบายการผสมกลมกลืนของรัฐบาลไทยต่อจีน สุดท้ายนี้ วิทยานิพนธ์นี้วิเคราะห์ความคิดหลักของตนในบริบทของสภาพแวดล้อมปัจจุบันและสถานการณ์สำหรับจริยธรรมจีนและอาร์กิวเมนต์ของสกินเนอร์ และจันทร์ ทั้งของตอง งานวิจัยนี้สนับสนุนกระบวนทัศน์ Skinnerian ซึ่งยืนยันที่ "ลูกหลานของผู้อพยพชาวจีนในแต่ละรุ่นส่วนใหญ่ผสานกับสังคมไทย และกลายเป็นจำแนกไม่ได้จากประชากรพื้นเมืองการ Chineseare รุ่นสี่ที่จริงไม่มีอยู่" การตรวจสอบของกระบวนทัศน์ Skinnerian ปฏิเสธจันทร์และทองของสมมติฐาน ซึ่งอ้างว่า สกินเนอร์มี "overemphasized รบผสมกลมกลืน" และว่า จีนในไทยมีไม่ขนบธรรมเนียมประเพณี แต่รักษา Chineseidentity ของพวกเขา สนับสนุนยืนยันหลักการของสกินเนอร์ และปฏิเสธอาร์กิวเมนต์ของทองและจันทร์ วิทยานิพนธ์นี้นำเสนอข้อมูลรวมที่เก็บรวบรวมผ่านการสำรวจดำเนินการในจีนชนกลุ่มน้อยในประเทศไทยจาก 2003-2004วิทยานิพนธ์นี้พบว่า ของผสมเกิดขึ้นสองระดับ ในระดับแรก จีนในประเทศไทยมีคุณลักษณะธรรมชาติที่เอื้ออำนวยให้สังคม และวัฒนธรรมรวมและผสมกลมกลืนในสังคมไทย ในสองระดับ pro สามารถผสมกลมกลืนของจีนในไทยชอบนโยบายผสมกลมกลืน ขับเคลื่อน ด้วยความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและจีนและสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ รัฐบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิทยานิพนธ์นี้จะตรวจสอบความสัมพันธ์ไทยจีนย้อนหลังไปถึงราชวงศ์ไทยคนแรก (สุโขทัย) จนถึงปัจจุบัน (รัตนโกสินทร์) นอกจากวิทยานิพนธ์กล่าวถึงนโยบายในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบประชากรจีนนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองและนโยบายการดูดซึมของรัฐบาลไทยที่มีต่อจีน สุดท้ายนี้การวิเคราะห์วิทยานิพนธ์ทั้งสกินเนอร์และชานตงและการขัดแย้งและความคิดหลักของพวกเขาในบริบทของสภาพแวดล้อมปัจจุบันและสถานการณ์จริยธรรมจีน การวิจัยนี้สนับสนุนกระบวนทัศน์ Skinnerian ซึ่งอ้างว่า "ส่วนใหญ่ของลูกหลานของผู้อพยพชาวจีนในแต่ละรุ่นรวมกับสังคมไทยและกลายเป็นแยกไม่ออกจากประชากรในประเทศในขอบเขตที่ Chineseare รุ่นที่สี่ในทางปฏิบัติไม่ได้มีอยู่." การตรวจสอบของกระบวนทัศน์ Skinnerian ปฏิเสธสมมติฐานและชานตงซึ่งอ้างว่าสกินเนอร์ได้ "เน้นพลังแห่งการดูดซึม" และชาวจีนในประเทศไทยยังไม่ได้หลอมรวมไว้ แต่พวกเขา Chineseidentity ยืนยันที่จะสนับสนุนสกินเนอร์และปฏิเสธข้อโต้แย้งและชานตงของวิทยานิพนธ์นี้นำเสนอข้อมูลเชิงประจักษ์ที่เก็บรวบรวมผ่านการสำรวจดำเนินการในเชื้อสายจีนในประเทศไทย 2003-2004.
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้พบว่ากองกำลังของการดูดซึมเกิดขึ้นในสองระดับ ในระดับแรกของจีนในประเทศไทยมีคุณลักษณะธรรมชาติที่อำนวยความสะดวกในการรวมกลุ่มทางสังคมและวัฒนธรรมและการดูดซึมเข้าสู่สังคมไทย ในระดับที่สองที่รัฐบาลนโยบายการดูดซึมโปรแรงหนุนจากความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับจีนและสถานการณ์ทางการเมืองในทั้งสองประเทศยังมีความรับผิดชอบสำหรับการดูดซึมของจีนในประเทศไทย