On those rainy summer days, I had n

On those rainy summer days, I had nothing fun to do and could only sit inside, staring out at the
rain like a Dickensian orphan. I was an only child, so there was no one else to play with. My father worked
from home, so I was not truly alone, but he could not actively play with me since he was technically at
work. It was those days that I would resign myself to whatever was on television or any books that I could
find lying around. I’d crawl through the day and pray each night that the rain would not be there the next
day.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในวันฤดูร้อนฤดูฝนนั้น ผมไม่มีอะไรสนุกทำ และอาจเพียงนั่งอยู่ภายใน ออกจ้องการฝนชอบ orphan เป็น Dickensian ผมพ่อ จะไม่มีใครจะเล่นกับ พ่อทำงานจากที่บ้าน ดังนั้นผมไม่อยู่คนเดียวอย่างแท้จริง แต่เขาอาจไม่ได้เน้น เล่นกับฉันตั้งแต่เขาเทคนิคที่การทำงาน ก็วันนั้นที่ฉันจะลาออกเองเพื่อสิ่งใดก็ตามบนโทรทัศน์หรือหนังสือใด ๆ ที่ผมหาโกหกรอบ ฉันจะคลานผ่านวัน และอธิษฐานทุกคืนว่า ฝนจะไม่มีต่อไปวัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในบรรดาวันฤดูฝนผมไม่มีอะไรที่สนุกที่จะทำและทำได้เพียงนั่งภายในจ้องมองออกที่
ฝนเหมือนเด็กกำพร้าดิกเคนส์ ผมเป็นลูกคนเดียวจึงไม่มีใครที่จะเล่นกับ พ่อของฉันทำงาน
จากที่บ้านดังนั้นฉันก็ไม่ได้อย่างแท้จริงเพียงอย่างเดียว แต่เขาไม่สามารถแข็งขันเล่นกับฉันตั้งแต่เขายังเป็นเทคนิคที่
ทำงาน มันเป็นวันที่ผมจะลาออกจากตำแหน่งตัวเองกับสิ่งที่อยู่บนโทรทัศน์หรือหนังสือใด ๆ ที่ฉันสามารถ
หาโกหกรอบ ฉันต้องการรวบรวมข้อมูลผ่านวันและสวดมนต์ในแต่ละคืนที่ฝนจะไม่ได้อยู่ที่นั่นต่อไป
วัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในวันที่ฝนตกในฤดูร้อน ฉันมีอะไรสนุกๆ ทำ และได้แต่นั่งมองไปที่ข้างในฝนเหมือน dickensian เด็กกำพร้า ผมเป็นลูกคนเดียว เลยไม่มีใครให้เล่นด้วย พ่อทำงานจากบ้าน แล้วฉันก็ไม่ได้อยู่คนเดียว แต่เขาก็ไม่ได้เล่นแบบเอาเป็นเอาตายด้วยในเมื่อเขาเป็นเทคนิคที่งาน มันเป็นวันที่ผมจะลาออกเอง ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ หรือหนังสือใด ๆที่ฉันสามารถพบโกหกรอบ ผมจะรวบรวมข้อมูลผ่านวันและอธิษฐานในแต่ละคืนที่ฝนคงไม่ต้องมีต่อไปวัน