The composition of waste present in

The composition of waste present in landfills coupled with the
quantity of leachate generated will determine the type and concentration
of chemicals present in landfill leachate. Many early
studies focused on toxic and carcinogenic organic compounds in
landfill leachate including BTEX (benzene, toluene, ethylbenzene
and xylenes), chlorinated hydrocarbons, polycyclic aromatic
hydrocarbons (PAHs) and organochlorine pesticides (Brown and
Donnelly, 1988; Öman and Hynning, 1993). Subsequently, hundreds
of individual chemicals from a variety of classes has been
detected in landfill leachates; including pharmaceuticals
(Andrews et al., 2012) , fluorinated surfactants (Busch et al.,
2010), phosphate based flame retardants (Yasuhara, 1994), phthalate
acid esters (Bauer et al., 1998), bisphenol A (Yamamoto et al.,
2001), personal care products (Eggen et al., 2010), polybrominated
diphenyl ethers (Öman and Junestedt, 2008), chlorinated dioxins/
furans (Öman and Junestedt, 2008) and organotin compounds
(Pinel-Raffaitin et al., 2008). A recent publication has highlighted
the occurrence of a large number of pharmaceuticals, personal care
products, and other substances in US landfill leachates (Masoner
et al., 2014). Examples of detected contaminants and their concentrations
in landfill leachates are presented in Table 1. The number
of contaminants detected in landfill leachate is higher than in other
environmental compartments (i.e., soil, surface water, wastewater,
air, biosolids) and is likely due to concentration of contaminants in
a central location.
Landfill leachates are acutely toxic and the parameters most correlated
with toxicity are ammonia, alkalinity and COD (Schrab et al.,
1993; Bernard et al., 1996, 1997; Baun et al., 2000). Furthermore,
the isolated organic fractions of the leachate using solid-phase
extraction (SPE) techniques have also shown toxicity associated
with organic pollutants (Baun et al., 2000; Baderna et al., 2011).
Studies have demonstrated the genotoxicity (Gajski et al., 2012)
and cytotoxicity (Baderna et al., 2011) and a survey of leachates
(n = 58) from the USA found toxic and cancer causing chemicals
irrespective of the type of waste received (Brown and Donnelly,
1988). The environmental impacts of future landfill leachates
warrants monitoring as there are currently 90 million organic and
inorganic substances identified in the CAS database and over
100000 chemicals routinely used in industrial applications in the
U.S. and Europe (ECHA, 2009).
The aim of this study is to measure the concentration of indicator
wastewater organic pollutants in landfill leachates and these
data will serve as a starting point for an assessment of the significance
of landfill leachate as a source of water contamination.
The compounds selected for inclusion in this study cover a variety

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

องค์ประกอบของเสียอยู่ในหลุมฝังกลบคู่กับ
ปริมาณของน้ำชะขยะที่สร้างขึ้นจะเป็นตัวกำหนดชนิดและความเข้มข้น
ของสารเคมีที่อยู่ในหลุมฝังกลบน้ำชะขยะ หลายต้น
การศึกษามุ่งเน้นไปที่สารอินทรีย์ที่เป็นพิษและสารก่อมะเร็งใน
หลุมฝังกลบน้ำชะขยะรวมทั้ง BTEX (เบนซีนโทลูอีน, เอทิลเบนซีน
และไซลีน) ไฮโดรคาร์บอนคลอรีน polycyclic หอม
ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) และสารกำจัดศัตรูพืช organochlorine (บราวน์และ
Donnelly 1988; โอมานและ Hynning, 1993) . ต่อมาหลายร้อย
ของสารเคมีแต่ละบุคคลจากหลากหลายของการเรียนได้รับการ
ตรวจพบในหลุมฝังกลบน้ำชะ; รวมทั้งยา
(แอนดรู et al., 2012) ลดแรงตึงผิว fluorinated (Busch et al.,
2010), ฟอสเฟตตามสารทนไฟ (Yasuhara, 1994) phthalate
เอสเทอกรด (Bauer et al., 1998), Bisphenol A (ยามาโมโตะ, et al .,
2001), ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Eggen et al., 2010), polybrominated
อีเทอร์ diphenyl (โอมานและ Junestedt, 2008) ไดออกซินคลอรีน /
ฟิวแรน (โอมานและ Junestedt 2008) และสารประกอบดีบุกอินทรีย์
(Pinel-Raffaitin et al., 2008) สิ่งพิมพ์ที่ผ่านมาได้เน้น
การเกิดขึ้นของจำนวนมากของยา, การดูแลส่วนบุคคล
ผลิตภัณฑ์และสารอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาน้ำชะฝังกลบ (Masoner
et al., 2014) ตัวอย่างของสารปนเปื้อนที่ตรวจพบและความเข้มข้นของพวกเขา
ในน้ำชะฝังกลบจะถูกนำเสนอในตารางที่ 1 จำนวน
ของสารปนเปื้อนที่พบในหลุมฝังกลบน้ำชะขยะสูงกว่าคนอื่น ๆ ใน
สิ่งแวดล้อม (เช่นดินน้ำผิวดินน้ำเสีย
อากาศกากชีวภาพ) และน่าจะเกิดจาก ความเข้มข้นของสารปนเปื้อนใน
. ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
น้ำชะฝังกลบเป็นพิษอย่างรุนแรงและพารามิเตอร์ที่มีความสัมพันธ์มากที่สุด
กับความเป็นพิษแอมโมเนียด่างและซีโอดี (Schrab, et al.,
1993; เบอร์นาร์ด et al, 1996, 1997;.. Baun, et al, 2000) . นอกจาก
เศษส่วนอินทรีย์ที่แยกจากน้ำชะขยะโดยใช้เฟสของแข็ง
เป็นพิษสกัด (SPE) เทคนิคยังแสดงให้เห็นที่เกี่ยวข้อง
กับสารมลพิษอินทรีย์ (Baun et al, 2000;.. Baderna et al, 2011).
การศึกษาได้แสดงให้เห็นถึงพันธุกรรม (ที่ Gajski et al., 2012)
และเป็นพิษ (Baderna et al., 2011) และการสำรวจความคิดเห็นของน้ำชะ
(n = 58) จากประเทศสหรัฐอเมริกาพบสารพิษและสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
โดยไม่คำนึงถึงประเภทของเสียที่ได้รับ (บราวน์และ Donnelly,
1988) ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคตฝังกลบน้ำชะ
ตรวจสอบใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีอยู่ในปัจจุบัน 90 ล้านอินทรีย์และ
สารอนินทรีที่ระบุไว้ในฐานข้อมูล CAS และมากกว่า
100000 สารเคมีที่ใช้เป็นประจำในงานอุตสาหกรรมใน
สหรัฐฯ และยุโรป (ECHA 2009).
จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการวัดความเข้มข้นของตัวบ่งชี้
น้ำเสียอินทรีย์สารพิษในน้ำชะฝังกลบและเหล่านี้
ข้อมูลที่จะทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการประเมินผลอย่างมีนัยสำคัญที่
ฝังกลบน้ำชะขยะเป็นแหล่งที่มาของการปนเปื้อนน้ำ .
สารประกอบเลือกสำหรับการรวมในการศึกษานี้ครอบคลุมหลากหลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

องค์ประกอบของขยะในหลุมฝังกลบ เทียบกับปัจจุบันปริมาณของน้ำที่สร้างขึ้น จะเป็นตัวกำหนดชนิดและความเข้มข้นของสารเคมีที่อยู่ในน้ำชะมูลฝอย . มากก่อนการศึกษาเน้นที่เป็นพิษและสารก่อมะเร็ง สารอินทรีย์ในน้ำชะมูลฝอย รวมทั้งความไว ( เอธิลเบนซีน โทลูอีนและไซลีน ) , คลอรีนสารไฮโดรคาร์บอนอะโรมาติก ,ไฮโดรคาร์บอน ( พีเอเอช ) และการใช้ ( สีน้ำตาล และดอนเนลลี่ , 1988 ; Öมนุษย์และ hynning , 1993 ) ต่อมาหลายร้อยของสารเคมีแต่ละตัวจากความหลากหลายของชั้นเรียนได้ที่ตรวจพบในน้ำชะมูลฝอย รวมทั้งยา( แอนดรู et al . , 2012 ) , ฟลูออรีนสารลดแรงตึงผิว ( บุช et al . ,2010 ) , ฟอสเฟตจากสารหน่วงเปลวไฟ ( ยาสุฮารา , 1994 ) พทาเลทกรดเอสเทอร์ ( บาวเออร์ et al . , 1998 ) , บิสฟีนอลเอ ( Yamamoto et al . ,2001 ) , ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ( eggen et al . , 2010 ) , polybrominatedไดฟีนิลอีเทอร์ ( Öมนุษย์และ junestedt , 2008 ) , คลอรีนได ซิน /ฟิวแรน ( Öมนุษย์และ junestedt , 2008 ) และสารประกอบไนโตรเจน( ปีแนล raffaitin et al . , 2008 ) ประกาศล่าสุดได้เน้นการเกิดของตัวเลขขนาดใหญ่ของยา , การดูแลส่วนบุคคลผลิตภัณฑ์ และสารอื่นๆ ในน้ำชะมูลฝอย ( masoner เราet al . , 2010 ) ตัวอย่างของการตรวจพบสารปนเปื้อน และความเข้มข้นของพวกเขาในน้ำชะขยะจะถูกนำเสนอในตารางที่ 1 หมายเลขสิ่งปนเปื้อนที่ตรวจพบในน้ำชะมูลฝอยสูงกว่าในอื่น ๆช่องสิ่งแวดล้อม เช่น ดิน , น้ำ , น้ำเสีย ,อากาศ biosolids ) และมีโอกาสเนื่องจากความเข้มข้นของสารปนเปื้อนในสถานที่ตั้งศูนย์กลางน้ำชะขยะเป็นพิษอย่างรุนแรงและพารามิเตอร์ส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์กับความเป็นพิษของแอมโมเนียเป็นด่างและค่าซีโอดี ( schrab et al . ,1993 ; Bernard et al . , 1996 , 1997 ; baun et al . , 2000 ) นอกจากนี้การแยกเศษส่วน ของน้ำชะมูลฝอยโดยใช้ส่วนอินทรีย์เทคนิคการสกัด ( SPE ) ยังแสดงความเป็นพิษที่เกี่ยวข้องสารมลพิษอินทรีย์ ( baun et al . , 2000 ; baderna et al . , 2011 )การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่า ( gajski et al . , 2012 )และมีความเป็นพิษ ( baderna et al . , 2011 ) และการสำรวจค่า( n = 100 ) จากประเทศสหรัฐอเมริกา พบสารพิษและสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้รับโดยไม่คำนึงถึงประเภทของของเสีย ( สีน้ำตาลและดอนเนลลี่1988 ) ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากน้ำชะขยะในอนาคตการตรวจสอบใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นขณะนี้มี 90 ล้านอินทรีย์และสารอนินทรีย์ที่ระบุใน CAS ฐานข้อมูลและสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรม 100000 เป็นประจำในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ( echa , 2009 )การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดความเข้มข้นของตัวบ่งชี้การบำบัดสารอินทรีย์ในน้ำชะขยะเหล่านี้ข้อมูลที่จะใช้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการประเมินความสำคัญของน้ำชะมูลฝอยเป็นแหล่งของการปนเปื้อนในน้ำสารประกอบที่เลือกเพื่อรวมไว้ในการศึกษานี้ครอบคลุมหลากหลาย