Thailand just started the second de

Thailand just started the second decade of her third large-scale educational reform, itself
launched from August of l999. The country’s first came as part of the big package of the overall
administrative/political reform in the second half of the nineteenth century when King Rama V of
the ruling Chakkri Dynasty (1868-1910) managed to avoid being colonized by dominant Western
powers at that time. In a nutshell, the country, then known as Siam, had to modernize all state
apparatus and demonstrate to the colonizing powers Siam was capable of managing state affairs
on her own. The second reform took place between l974-1978 and the third came following the
enactment and promulgation of the country’s first modern educational legislature in August of
1999, dubbed by many as the “Educational Reform Law.” Then, ten years went by quickly
leaving behind a very dismal success record and a myriad of both unfinished and badly needed
reform projects and activities. Only within the first decade of this third reform, 1999-2009, talks
about “low quality of education” were heard more often and commanded more public attention.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเทศไทยเริ่มต้นเพียงทศวรรษสองของเธอสามขนาดใหญ่ศึกษาปฏิรูป ตัวเองเริ่มจากเดือนสิงหาคม l999 มาครั้งแรกของประเทศเป็นส่วนใหญ่ของของโดยรวมปฏิรูปการปกครอง/การเมืองในครึ่งหลังของศตวรรษเมื่อรัชกาลของจัดการปกครองราชวงศ์ Chakkri (1868-1910) เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยึดครอง โดยหลักตะวันตกอำนาจในขณะนั้น ในสั้น ประเทศ นั้น ใช้ชื่อว่าสยาม ได้ให้สถานะทั้งหมดเครื่อง และสาธิตการการ colonizing สยามอำนาจมีความสามารถในการจัดการกิจการรัฐตนเอง การปฏิรูปที่สองเกิดขึ้นระหว่าง l974-1978 และต่อมาสามตัวออกและ promulgation ของประเทศแรกสมัยศึกษาทูลเกล้าทูลกระหม่อมในเดือนสิงหาคมปี 1999 พากย์ โดยมากเป็น "ศึกษาปฏิรูปกฎหมาย" แล้ว สิบปีไปโดยรวดเร็วหลังประสบความสำเร็จมากแค่ระเบียนและของยังไม่เสร็จ และไม่จำเป็นออกโครงการปฏิรูปและกิจกรรม พูดเฉพาะภายในทศวรรษแรกของการปฏิรูปนี้สาม 1999-2009เกี่ยวกับ "ต่ำคุณภาพการศึกษา" ได้ยินบ่อยขึ้น และสั่งให้ความสนใจของสาธารณะมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเทศไทยเพิ่งเริ่มต้นทศวรรษที่สองที่สามขนาดใหญ่การปฏิรูปการศึกษาของเธอเองจากการเปิดตัวในเดือนสิงหาคมของ l999
ของประเทศแรกที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพคเกจใหญ่ของภาพรวมการบริหาร / การปฏิรูปทางการเมืองในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่สิบเก้าเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าของผู้ปกครองราชวงศ์จักรี(1868-1910) การจัดการเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกอาณานิคมตะวันตกที่โดดเด่นอำนาจที่ว่าเวลา สรุปประเทศที่รู้จักกันในชื่อไทยที่ทันสมัยมีรัฐทุกเครื่องมือและแสดงให้เห็นถึงอำนาจอาณานิคมสยามคือความสามารถในการบริหารจัดการกิจการของรัฐของเธอเอง การปฏิรูปครั้งที่สองเกิดขึ้นระหว่าง l974-1978 และคนที่สามมาดังต่อไปนี้การตรากฎหมายและประกาศใช้ครั้งแรกของประเทศสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งการศึกษาที่ทันสมัยในเดือนสิงหาคมของปี1999 การขนานนามว่าโดยมากเป็น "การปฏิรูปการศึกษากฎหมาย." จากนั้นสิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยทิ้งไว้ข้างหลังบันทึกความสำเร็จกลุ้มใจมากและมากมายของทั้งสองยังไม่เสร็จและจำเป็นไม่ดีโครงการปฏิรูปและกิจกรรม เฉพาะในทศวรรษแรกของการปฏิรูปนี้สาม 1999-2009, พูดคุยเกี่ยวกับ"คุณภาพต่ำของการศึกษา" ได้ยินบ่อยขึ้นและได้รับคำสั่งความสนใจของประชาชนมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเทศไทยเพิ่งเริ่มต้นทศวรรษที่สองของการปฏิรูปการศึกษาที่สามของเธอขนาดใหญ่ , ตัวเอง
เริ่มจากเดือนสิงหาคม l999 . แห่งแรกของประเทศมาเป็นส่วนหนึ่งของแพคเกจที่ใหญ่ของการปฏิรูปการปกครอง / การเมืองโดยรวม
ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่สิบเก้า เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การปกครองของราชวงศ์ (
chakkri 1868-1910 ) การจัดการเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเมืองขึ้นของมหาอำนาจตะวันตก
เด่นในช่วงเวลานั้นสรุปแล้ว ประเทศนั้นเรียกว่าสยาม มีความทันสมัยของรัฐ
เครื่องมือ และแสดงให้เห็นถึงเข้ายึดครองอำนาจสยาม สามารถบริหารประเทศ
ของเธอเอง การปฏิรูปครั้งที่สองเกิดขึ้นระหว่าง l974-1978 และสามมาต่อ
และกฎหมายประกาศใช้ครั้งแรกของประเทศที่ทันสมัยการศึกษารัฐสภาในเดือนสิงหาคม
1999ขนานนามโดยมากเป็น " กฎหมายปฏิรูปการศึกษา " แล้ว สิบปีผ่านไปเร็ว
ทิ้งบันทึกความสำเร็จกลุ้มใจมากและมากมายของทั้งสองยังไม่เสร็จและเลวต้องการ
โครงการปฏิรูปและกิจกรรม ในช่วงทศวรรษแรกของการปฏิรูปนี้สาม 1999-2009 พูดคุย
เรื่อง " คุณภาพต่ำของการศึกษา " ได้ยินบ่อย และบัญชาความสนใจของสาธารณชนมากขึ้น