Based on the theoretical understand

Based on the theoretical understandings from Legitimation Code Theory (Maton, 2013) and
Systemic Functional Linguistics (Martin, 2013) underpinning the research discussed in this
special issue, this paper focuses on classroom pedagogy to illustrate an important strategy
for making semantic waves in History teaching, namely temporal shifting. We begin with
a brief contextualisation of how Legitimation Code Theory (LCT) and Systemic Functional
Linguistics have been used together to investigate cumulative knowledge-building before
outlining how the LCT concepts of semantic gravity and semantic density were enacted in
linguistic terms for this research in order to understand the linguistic resources marshalled
by actors in making semantic waves. The paper then moves on to consider temporality
from both linguistic and sociological perspectives and to demonstrate how it is implicated
in movements up and down the semantic scale to create semantic waves

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามเปลี่ยนความเข้าใจทฤษฎีจากทฤษฎีรหัส Legitimation (Maton, 2013) และระบบทำงานภาษาศาสตร์ (มาร์ติน 2013) underpinning วิจัยที่กล่าวถึงในนี้ปัญหาพิเศษ กระดาษนี้เน้นสอนในห้องเรียนเพื่อแสดงกลยุทธ์สำคัญสำหรับคลื่นที่มีความหมายในประวัติศาสตร์ คือ ขมับขยับ เราเริ่มต้นด้วยcontextualisation โดยย่อวิธีทฤษฎีรหัส Legitimation (LCT) และระบบงานภาษาศาสตร์มีถูกใช้ร่วมกับการตรวจสอบสะสมสร้างความรู้ก่อนเค้าร่างแนวคิด LCT ของแรงโน้มถ่วงทางตรรกและความหนาแน่นความหมายถูกตราขึ้นในวิธีเงื่อนไขภาษาศาสตร์สำหรับงานวิจัยนี้ความเข้าใจทรัพยากรภาษาศาสตร์ที่เรียงโดยนักแสดงในการทำคลื่นทางตรรก กระดาษจากนั้นย้ายพิจารณา temporalityจากมุมมองของสังคมวิทยา และภาษาศาสตร์ และส่อว่ามันเกี่ยวข้องในการเคลื่อนไหวขึ้นลงมาตราส่วนความหมายการสร้างคลื่นความหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บนพื้นฐานของความเข้าใจเชิงทฤษฎีจากชอบธรรมรหัสทฤษฎี (Maton 2013)
และภาษาศาสตร์ฟังก์ชั่นระบบ(มาร์ติน 2013) หนุนการวิจัยที่กล่าวถึงในฉบับพิเศษบทความนี้มุ่งเน้นไปที่การเรียนการสอนในห้องเรียนที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการทำคลื่นความหมายในการเรียนการสอนประวัติศาสตร์คือชั่วขณะขยับ เราเริ่มต้นด้วยContextualisation สั้นของวิธีการชอบธรรมรหัสทฤษฎี (LCT) และฟังก์ชั่นระบบภาษาศาสตร์ได้ถูกนำมาใช้ร่วมกันเพื่อตรวจสอบการสะสมการสร้างความรู้ก่อนที่จะสรุปว่าแนวคิดLCT ของแรงโน้มถ่วงความหมายและความหนาแน่นของความหมายตราสามดวงในแง่ภาษาสำหรับการวิจัยนี้เพื่อที่จะเข้าใจภาษาทรัพยากรเรียงโดยนักแสดงในการทำคลื่นความหมาย กระดาษแล้วย้ายชั่วคราวที่จะต้องพิจารณาจากมุมมองที่ทั้งสองภาษาและสังคมวิทยาและแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องในการเคลื่อนไหวขึ้นและลงในระดับความหมายที่จะสร้างคลื่นความหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บนพื้นฐานของความเข้าใจทางทฤษฎีจากรหัสการ ( ทฤษฎี ศุภสิริวุฒิ , 2013 ) และระบบการทำงาน
ภาษาศาสตร์ ( มาร์ติน , 2013 ) หนุนวิจัยกล่าวถึงในฉบับพิเศษนี้
, กระดาษนี้จะเน้นที่การสอนในชั้นเรียน เพื่อแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการเป็น
ความหมายคลื่นในการสอนประวัติศาสตร์ คือเวลาขยับ เราเริ่มต้นด้วย
เป็น contextualisation บทสรุปของทฤษฎีว่ารหัสการชาวไทยเชื้อสายและภาษาศาสตร์ระบบการทำงาน
ถูกใช้ร่วมกันเพื่อศึกษาการสร้างความรู้สะสมก่อน
สรุปว่าแอลซีทีแนวคิดของแรงโน้มถ่วงและความหนาแน่นในความหมายทางด้านภาษาได้ประกาศใช้
การวิจัยเพื่อให้เข้าใจทรัพยากรภาษา marshalled
โดยนักแสดงในการทําทางคลื่นกระดาษแล้วย้ายไปพิจารณาชั่วคราว
จากทั้งสองภาษาและมุมมองทางสังคมวิทยา และเพื่อแสดงให้เห็น ว่า มัน มี ความ
ในการเคลื่อนไหวขึ้นและลงเพื่อสร้างคลื่นขนาดความหมายความหมาย