ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนคือบทบาทของรัฐบาลที่มีส่วนเสริมการประ การแปล - ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนคือบทบาทของรัฐบาลที่มีส่วนเสริมการประ ไทย วิธีการพูด

ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนคื

ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนคือบทบาทของรัฐบาลที่มีส่วนเสริมการประกอบธุรกิจของเอกชนซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของชาติโดยรวม ซึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือการที่ภาครัฐพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เช่น การสร้างถนนหนทาง โรงไฟฟ้า การคมนาคมและการขนส่ง การสื่อสาร ฯลฯ เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการลงทุนของภาคเอกชนในอุตสาหกรรมต่างๆ ในกรณีที่เศรษฐกิจทรุดหนักก็จะมีนโยบายภาษีการเข้าไปช่วยธุรกิจเอกชนให้สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ที่เห็นเด่นชัดก็คือการใช้นโยบายการเงินการคลังด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยง, นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนและการใช้จ่ายของภาครัฐเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจที่กำลังทรุดตัวฟื้นตัวขึ้นมาได้ การใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ กล่าวคือ เมื่อมีการใช้จ่ายสร้างถนนหนทางก็จะมีการว่าจ้างแรงงานซึ่งจะนำไปสู่การมีรายได้ ทำให้มีอำนาจซื้อเพื่อจับจ่ายใช้สอยอันจะนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและการว่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้นต่อกันเป็นลูกโซ่ จนเศรษฐกิจฟื้นตัวและเกิดพลวัตในด้านธุรกิจการค้า
1. เอกชนมีสิทธิ์เป็นเจ้าของทรัพย์สิน เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตหรือทรัพยากรต่างๆตามกฎหมายและในบางกิจการที่สำคัญ และมีผลกระทบต่อสาธารณะชน เช่น กิจการสาธารณูปโภค การสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น
2. การดำเนินการผลิต การจัดจำหน่ายและแลกเปลี่ยนต่างๆเป็นไปในรูปแบบเอกชนซึ่งมีเสรีภาพในระบบเศรษฐกิจแต่รัฐจะมีโอกาสแทรกแซงในกิจการที่สำคัญและมีผลกระทบต่อสาธารณะชนและมีบทบาทในการวางแผนเศรษฐกิจในลักษณะชี้นำภาคเอกชนและการดำเนินงานของภาครัฐ
3. การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจมักอาศัยกลไกราคาในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลน หรือแทรกแซงการกำหนดราคาสินค้ารายการสำคัญๆ เช่น ราคาสินค้าขั้นต่ำ ราคาพยุงของสินค้าเกษตร อาหาร กำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำเพื่อช่วยเหลือให้ผู้ใช้แรงงาน เป็นต้น
4. การแข่งขันได้รับการยอมรับแต่รัฐจะแทรกแซงให้มีความเป็นธรรมเพื่อป้องกันการผูกขาด
ข้อดี
1. มีความคล่องตัวในการดำเนินการเพราะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจ
2. เอกชนมีบทบาททางเศรษฐกิจมีการแข่งขันกันผลิตสินค้าจึงมีคุณภาพประชาชนสามารถเลือกบริโภคได้
3. ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้แก่ ระบบสาธารณูปโภค การศึกษา การสาธารณสุขและสวัสดิการอื่นๆ
4. ประชาชนมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ
ข้อเสีย
1. การบริหารจัดการของรัฐบาลไม่แน่นอน
2. การบริหารงานของรัฐในกิจกรรมอุตสาหกรรมบางประเภทหรือการบริการจำนวนมากยังขาดประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับภาคเอกชน
3. การวางแผนจากศูนย์กลางเพื่อประสานประโยชน์ของรัฐกับเอกชนให้เกิดผลดีต่อส่วนรวมอย่างแท้จริงนั่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
4. กำลังใจหรือแรงจูงใจสำหรับเอกชนมีไม่มากพอเพราะต้องเสี่ยงกับนโยบายที่ไม่แน่นอนของภาครัฐหรือการถูกเข้าควบรวมกิจการ

สรุป
ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าภาครัฐไม่ให้การสนับสนุนภาคเอกชนก็จะนำไปสู่ปัญหาต่างๆ มากมาย เป็นต้นว่า ถ้าภาคเอกชนจะต้องสร้างโรงผลิตไฟฟ้า,น้ำประปาและถนนก็คงไม่สามารถจะลงทุนได้โดยมีผลกำไรเพราะค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้าจะสูงจนไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ ขณะเดียวกันการพึ่งภาครัฐในทุกด้านก็ย่อมจะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากทรัพยากรจำกัด ส่วนการสนับสนุนจากภาครัฐที่ไม่มีผลอย่างจริงจังเนื่องจากไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่นั้นก็จะไม่เกิดผลในทางบวกตามที่ได้มุ่งหมาย แต่ข้อที่พึงระวังก็คือการสนับสนุนจากภาครัฐก็มีข้อจำกัด เช่น การให้เงินสนับสนุนแก่ธุรกิจเอกชนอาจจะขัดกับข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวเนื่องกับการค้าเสรี การบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่จริงจัง เช่น ไม่สนใจการบำบัดน้ำเสียซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยตัดทอนรายจ่ายของภาคเอกชน ก็จะถือว่าเป็นการสนับสนุนภาคเอกชนโดยทางอ้อมซึ่งทำให้การแข่งขันในตลาดโลกเกิดความไม่ยุติธรรมเนื่องจากสินค้าจากประเทศอื่นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง เพราะค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งต้องนำไปรักษาสภาพแวดล้อมเช่นการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนคือบทบาทของรัฐบาลที่มีส่วนเสริมการประกอบธุรกิจของเอกชนซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของชาติโดยรวมซึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือการที่ภาครัฐพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจเช่นการสร้างถนนหนทางโรงไฟฟ้าการคมนาคมและการขนส่งการสื่อสารฯลฯ เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการลงทุนของภาคเอกชนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในกรณีที่เศรษฐกิจทรุดหนักก็จะมีนโยบายภาษีการเข้าไปช่วยธุรกิจเอกชนให้สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ที่เห็นเด่นชัดก็คือการใช้นโยบายการเงินการคลังด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยง นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนและการใช้จ่ายของภาครัฐเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจที่กำลังทรุดตัวฟื้นตัวขึ้นมาได้การใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจกล่าวคือเมื่อมีการใช้จ่ายสร้างถนนหนทางก็จะมีการว่าจ้างแรงงานซึ่งจะนำไปสู่การมีรายได้ทำให้มีอำนาจซื้อเพื่อจับจ่ายใช้สอยอันจะนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและการว่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้นต่อกันเป็นลูกโซ่จนเศรษฐกิจฟื้นตัวและเกิดพลวัตในด้านธุรกิจการค้า 1. เอกชนมีสิทธิ์เป็นเจ้าของทรัพย์สินเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตหรือทรัพยากรต่างๆตามกฎหมายและในบางกิจการที่สำคัญและมีผลกระทบต่อสาธารณะชนเช่นกิจการสาธารณูปโภคการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสเป็นต้น 2. การดำเนินการผลิต การจัดจำหน่ายและแลกเปลี่ยนต่างๆเป็นไปในรูปแบบเอกชนซึ่งมีเสรีภาพในระบบเศรษฐกิจแต่รัฐจะมีโอกาสแทรกแซงในกิจการที่สำคัญและมีผลกระทบต่อสาธารณะชนและมีบทบาทในการวางแผนเศรษฐกิจในลักษณะชี้นำภาคเอกชนและการดำเนินงานของภาครัฐ 3. การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจมักอาศัยกลไกราคาในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนหรือแทรกแซงการกำหนดราคาสินค้ารายการสำคัญ ๆ เช่นราคาสินค้าขั้นต่ำราคาพยุงของสินค้าเกษตรอาหารกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำเพื่อช่วยเหลือให้ผู้ใช้แรงงานเป็นต้น 4. การแข่งขันได้รับการยอมรับแต่รัฐจะแทรกแซงให้มีความเป็นธรรมเพื่อป้องกันการผูกขาดข้อดี 1. มีความคล่องตัวในการดำเนินการเพราะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจ 2. เอกชนมีบทบาททางเศรษฐกิจมีการแข่งขันกันผลิตสินค้าจึงมีคุณภาพประชาชนสามารถเลือกบริโภคได้ 3. ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้แก่ระบบสาธารณูปโภคการศึกษาการสาธารณสุขและสวัสดิการอื่น ๆ 4. ประชาชนมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ ข้อเสีย 1. การบริหารจัดการของรัฐบาลไม่แน่นอน 2. การบริหารงานของรัฐในกิจกรรมอุตสาหกรรมบางประเภทหรือการบริการจำนวนมากยังขาดประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับภาคเอกชน 3. การวางแผนจากศูนย์กลางเพื่อประสานประโยชน์ของรัฐกับเอกชนให้เกิดผลดีต่อส่วนรวมอย่างแท้จริงนั่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก 4. กำลังใจหรือแรงจูงใจสำหรับเอกชนมีไม่มากพอเพราะต้องเสี่ยงกับนโยบายที่ไม่แน่นอนของภาครัฐหรือการถูกเข้าควบรวมกิจการสรุป ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าภาครัฐไม่ให้การสนับสนุนภาคเอกชนก็จะนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ มากมายเป็นต้นว่าถ้าภาคเอกชนจะต้องสร้างโรงผลิตไฟฟ้า น้ำประปาและถนนก็คงไม่สามารถจะลงทุนได้โดยมีผลกำไรเพราะค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้าจะสูงจนไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ขณะเดียวกันการพึ่งภาครัฐในทุกด้านก็ย่อมจะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากทรัพยากรจำกัดส่วนการสนับสนุนจากภาครัฐที่ไม่มีผลอย่างจริงจังเนื่องจากไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่นั้นก็จะไม่เกิดผลในทางบวกตามที่ได้มุ่งหมายแต่ข้อที่พึงระวังก็คือการสนับสนุนจากภาครัฐก็มีข้อจำกัดเช่นการให้เงินสนับสนุนแก่ธุรกิจเอกชนอาจจะขัดกับข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวเนื่องกับการค้าเสรีการบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่จริงจังเช่นไม่สนใจการบำบัดน้ำเสียซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยตัดทอนรายจ่ายของภาคเอกชนก็จะถือว่าเป็นการสนับสนุนภาคเอกชนโดยทางอ้อมซึ่งทำให้การแข่งขันในตลาดโลกเกิดความไม่ยุติธรรมเนื่องจากสินค้าจากประเทศอื่นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเพราะค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งต้องนำไปรักษาสภาพแวดล้อมเช่นการบำบัดน้ำเสียเป็นต้น
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เช่นการสร้างถนนหนทางโรงไฟฟ้าการคมนาคมและการขนส่งการสื่อสาร ฯลฯ กล่าวคือ
เอกชนมีสิทธิ์เป็นเจ้าของทรัพย์สิน และมีผลกระทบต่อสาธารณะชนเช่นกิจการสาธารณูปโภคการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสเป็นต้น
2 การดำเนินการผลิต
เช่นราคาสินค้าขั้นต่ำราคาพยุงของสินค้าเกษตรอาหาร เป็นต้น
4 ระบบสาธารณูปโภคการศึกษาการสาธารณสุขและสวัสดิการอื่น ๆ4 มากมายเป็นต้นว่า เช่น การบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่จริงจังเช่น เป็นต้น













การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนคือบทบาทของรัฐบาลที่มีส่วนเสริมการประกอบธุรกิจของเอกชนซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของชาติโดยรวมซึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือการที่ภาครัฐพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจการสร้างถนนหนทางโรงไฟฟ้าการคมนาคมและการขนส่งการสื่อสารฯลฯเพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการลงทุนของภาคเอกชนในอุตสาหกรรมต่างๆนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนและการใช้จ่ายของภาครัฐเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจที่กำลังทรุดตัวฟื้นตัวขึ้นมาได้การใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจกล่าวคือทำให้มีอำนาจซื้อเพื่อจับจ่ายใช้สอยอันจะนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและการว่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้นต่อกันเป็นลูกโซ่จนเศรษฐกิจฟื้นตัวและเกิดพลวัตในด้านธุรกิจการค้า
1 . เอกชนมีสิทธิ์เป็นเจ้าของทรัพย์สินเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตหรือทรัพยากรต่างๆตามกฎหมายและในบางกิจการที่สำคัญและมีผลกระทบต่อสาธารณะชนเช่นกิจการสาธารณูปโภคการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสเป็นต้น
2การดำเนินการผลิตการจัดจำหน่ายและแลกเปลี่ยนต่างๆเป็นไปในรูปแบบเอกชนซึ่งมีเสรีภาพในระบบเศรษฐกิจแต่รัฐจะมีโอกาสแทรกแซงในกิจการที่สำคัญและมีผลกระทบต่อสาธารณะชนและมีบทบาทในการวางแผนเศรษฐกิจในลักษณะชี้นำภาคเอกชนและการดำเนินงานของภาครัฐ
3 .การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจมักอาศัยกลไกราคาในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนหรือแทรกแซงการกำหนดราคาสินค้ารายการสำคัญๆเช่นราคาสินค้าขั้นต่ำราคาพยุงของสินค้าเกษตรอาหารเป็นต้น
4 . ข้อดีการแข่งขันได้รับการยอมรับแต่รัฐจะแทรกแซงให้มีความเป็นธรรมเพื่อป้องกันการผูกขาด

1 มีความคล่องตัวในการดำเนินการเพราะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจ
2เอกชนมีบทบาททางเศรษฐกิจมีการแข่งขันกันผลิตสินค้าจึงมีคุณภาพประชาชนสามารถเลือกบริโภคได้
3 ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้แก่ระบบสาธารณูปโภคการศึกษาการสาธารณสุขและสวัสดิการอื่นๆ
4ข้อเสียประชาชนมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ

1 การบริหารจัดการของรัฐบาลไม่แน่นอน
2 การบริหารงานของรัฐในกิจกรรมอุตสาหกรรมบางประเภทหรือการบริการจำนวนมากยังขาดประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับภาคเอกชน
3การวางแผนจากศูนย์กลางเพื่อประสานประโยชน์ของรัฐกับเอกชนให้เกิดผลดีต่อส่วนรวมอย่างแท้จริงนั่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
4กำลังใจหรือแรงจูงใจสำหรับเอกชนมีไม่มากพอเพราะต้องเสี่ยงกับนโยบายที่ไม่แน่นอนของภาครัฐหรือการถูกเข้าควบรวมกิจการ


สรุปความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าภาครัฐไม่ให้การสนับสนุนภาคเอกชนก็จะนำไปสู่ปัญหาต่างๆมากมายถ้าภาคเอกชนจะต้องสร้างโรงผลิตไฟฟ้าเป็นต้นว่า ,น้ำประปาและถนนก็คงไม่สามารถจะลงทุนได้โดยมีผลกำไรเพราะค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้าจะสูงจนไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ขณะเดียวกันการพึ่งภาครัฐในทุกด้านก็ย่อมจะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากทรัพยากรจำกัดแต่ข้อที่พึงระวังก็คือการสนับสนุนจากภาครัฐก็มีข้อจำกัดเช่นการให้เงินสนับสนุนแก่ธุรกิจเอกชนอาจจะขัดกับข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวเนื่องกับการค้าเสรีการบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่จริงจังเช่นก็จะถือว่าเป็นการสนับสนุนภาคเอกชนโดยทางอ้อมซึ่งทำให้การแข่งขันในตลาดโลกเกิดความไม่ยุติธรรมเนื่องจากสินค้าจากประเทศอื่นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเป็นต้น
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: