Factors having a negative effect on

Factors having a negative effect on compliance included the older age of the child and the long duration of the study. In describing attrition rates in 40 different pediatric cognitive therapy trials for chronic illnesses including asthma, diabetes, sickle cell anemia, cystic fibrosis, Karlson and Rapoff (2009) noted that the mean attrition rate was 20% (range 0-54%) for initial follow—up and 32% (range O-59%) for extended follow—up. They recommended strategies to improve retention including tailoring recruitment to the study population, providing personalized feedback, maintaining consistent study procedures, providing incentives, and using intensive tracking measures.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัจจัยที่มีผลกระทบในการปฏิบัติตามกฎระเบียบรวมอายุเก่าของเด็กและระยะเวลานานของการศึกษา ในการอธิบายราคา attrition ใน 40 ทดลองรักษาด้วยการรับรู้เด็กที่แตกต่างกันสำหรับโรคเรื้อรังรวมถึงโรคหอบหืด เบาหวาน โรคโลหิตจางเซลล์เคียว โบ รซิส Karlson และ Rapoff (2009) ระบุว่า อัตราเฉลี่ย attrition คือ 20% (ช่วง 0-54%) เพื่อเริ่มต้นตามตัวขึ้นและ 32% (ช่วง O - 59%) สำหรับต่อขยาย — ค่า กลยุทธ์เพื่อปรับปรุงปรับปรุงสรรหาการประชากรศึกษา ป้อนกลับส่วนบุคคล รักษาขั้นตอนการศึกษาที่สอดคล้องกัน ให้สิ่งจูงใจ และใช้มาตรการเร่งรัดติดตามคงแนะนำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัจจัยที่มีผลกระทบเกี่ยวกับการปฏิบัติรวมถึงอายุของเด็กและระยะเวลาที่ยาวนานของการศึกษา ในการอธิบายอัตราการขัดสีใน 40 ที่แตกต่างกันในเด็กทดลองการบำบัดทางปัญญาสำหรับโรคเรื้อรังรวมทั้งโรคหอบหืดเบาหวานโรคโลหิตจางเซลล์เคียวเปาะพังผืด Karlson และ Rapoff (2009) ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราการขัดสีหมายถึงเป็น 20% (ช่วง 0-54%) สำหรับการเริ่มต้น การติดตามและ 32% (ช่วง O-59%) สำหรับการขยายการติดตาม พวกเขาแนะนำกลยุทธ์ที่จะปรับปรุงการเก็บรักษารวมถึงการปรับปรุงการรับสมัครประชากรการศึกษาให้ข้อเสนอแนะส่วนบุคคลที่ยังคงรักษาวิธีการศึกษาที่สอดคล้องกันให้แรงจูงใจและการใช้มาตรการการติดตามอย่างเข้มข้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติ รวมอายุของเด็กและระยะเวลานานของการศึกษา ในการบอกอัตราการขัดสีใน 40 ที่แตกต่างกันในเด็กเทคโนโลยีการทดลองสำหรับการเจ็บป่วยเรื้อรัง ได้แก่ โรคหืด , โรคเคียวเซลล์โลหิตจาง cystic fibrosis ,คาร์ลสัน และ rapoff ( 2009 ) กล่าวไว้ว่า หมายถึง การคิดอัตรา 20 % ( ช่วง 0-54 % ) สำหรับการติดตาม และร้อยละ 32 ( ช่วง o-59 % ) สำหรับการติดตาม พวกเขาแนะนำกลยุทธ์ในการปรับปรุงการเก็บรักษา ได้แก่ การตัดเย็บ การสรรหา เพื่อการศึกษาครั้งนี้ให้ข้อเสนอแนะส่วนบุคคล , การรักษาขั้นตอนการศึกษาที่สอดคล้องกันการให้แรงจูงใจ และการใช้มาตรการการติดตามเร่งรัด