เกาะซานโตรินี่ (Santorini) ประเทศกรีซ (Greece)
จุดหมายการไปเยือนประเทศกรีซยอดนิยม และยังเป็นเดสติเนชั่นในฝันของนักท่องเที่ยวกว่าค่อนโลก เมืองสวยด้วยสถาปัตยกรรมอาคารสีขาวริมหน้าผาทะเล อาคารธีรา (Thera) และวิหารหลังคาโดมสีน้ำเงินที่เป็นภาพในโปสการ์ด เกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีชายหาดแปลกๆ ที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟสีต่างๆ เช่น หาดเพอริสซา (Perissa) และคามารี (Kamari) ซึ่งเป็นหาดกรวดดำ ชายหาดสีแดง เรดบีช (Red Beach) และชายหาดสีขาว ไวท์บีช (White Beach) รวมไปถึงทะเลสาบขนาดยักษ์ในเขตอ่าว นอกจากจะมาชมธรรมชาติแล้ว ซานโตรินี่ยังมีชื่อเสียงเรื่องงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม แกลอรี่ อาหารทะเลรสเลิศ ไวน์ชั้นดีและสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีขึ้นชื่อ
ซันโดรีนี หรือธีรา เป็นเมืองบนเกาะตอนใต้ของทะเลอีเจียน ประเทศกรีซ มีความสวยงามจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยว ว่าเป็นเกาะอันดับ 2 ของโลกที่พวกเขาอยากมา ซึ่งมีสถานทีสำคัญเช่น ยอดเขาโปรฟีติสอีเลียส (Profitis Ilias) เป็นจุดชมความงดงามของเกาะซันโดรีนี เกาะมีความกว้างประมาณ 16 กิโลเมตร อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 567 เมตร
ประวัติศาสตร์ของเกาะนี้ ชาวฟินีเชียนอพยพเข้ามาที่เกาะนี้ราว 3,600 ปี ก่อนคริสตกาล หลังจากนั้นชาวลาโคเนียนก็เข้ามาปกครองเกาะนี้ กระทั่งถึง 3,000 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์ไมนอส ผู้ปกครองแห่งเกาะครีตได้แผ่ขยายอิทธิพลด้านศิลปะและวัฒนธรรมจากอารยธรรมมิโนอันมายังธีรา แต่เกิดภูเขาไฟระเบิดขึ้นในเกาะในช่วงฤดูร้อนช่วง 1,650 ปีก่อนคริสตกาล (นักประวัติศาสตร์ยังถกเถียงเรื่องเวลาที่แน่นอนอยู่) ส่งผลให้เกาะธีราแตกออกเป็น 3 เกาะ กระแสลมยังพัดพาเถ้าภูเขาไฟไปไกลจนถึงเกาะต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียงและเกาะครีตที่อยู่ห่างไป 70 กิโลเมตร ไม่เพียงได้รับแรงระเบิดจากภูเขาไฟ ยังเกิดสึนามิที่มีความสูง 100-150 เมตร ถาโถมเข้าด้านเหนือของเกาะครีต ทำลายต้นไม้บ้านเรือน ทำให้เกาะทั้งเกาะจมทะเลในชั่วข้ามคืน ส่งผลให้อารยธรรมมิโนอันเป็นอันล่มสลาย และเชื่อกันว่ความหายนะของเกาะครีตและหมู่เกาะไซคลาดิสเป็นแรงบันดาลใจให้เพลโต เขียนตำนานเรื่องแอตแลนติส และนำไปสู่การบันทึกถึงเรื่องราวเหตุการณ์น้ำท่วมโลก ที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ของศาสนายูดาย คริสต์ และอิสลาม
ทั้งนี้นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสเป็นผู้เริ่มตามรอยอารยธรรมอันสาบสูญ โดยในปี ค.ศ. 1860 ได้ขุดค้นบริเวณที่ถูกเถ้าถ่านและลาวาทับถม พบอาคารบ้านเรือน วิหารเทพเจ้า หลุมฝังศพในหุบเขา โรงละคร และข้าวของเครื่องใช้จำนวนมากแสดงถึงความเจริญก้าวหน้าของยุคสำริด