symmetric cryptography and asymmetr

symmetric cryptography and asymmetric cryptography.
In symmetric cryptography (e.g., Data Encryption Standard
(DES) [1], Advanced Encryption Standard (AES) [2]),
same key (i.e., K1 = K2 = K) is used in encryption (C =
EK (P)) and decryption algorithm (P = DK(C)). In asymmetric
cryptography (e.g., Rivest-Shamir-Adleman (RSA)
algorithm [1]), two different keys are used (i.e., K1 = K2),
the public key is used to encrypt a message (C = EK1 (P)),
and private key is used to decrypt the ciphertext into
plaintext (P = DK2 (C)) [1].
Strength of cryptography in respect to security depends
on the strength of keys used in encryption and decryption
algorithms. A key is said to be strong if it is not easily
guessed and not feasible to break within a real time. So,
the issue that arises is the selection of cryptographic key.
If the key is simple or very short in length, then for the

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเข้ารหัสสมมาตรและการเข้ารหัสแบบอสมมาตร.
ในการเข้ารหัสแบบสมมาตร (เช่นมาตรฐานการเข้ารหัสข้อมูล
(DES) [1] ขั้นสูงมาตรฐานการเข้ารหัส (AES) [2])
คีย์เดียวกัน (เช่น K1 = K2 = K) ที่ใช้ในการเข้ารหัส (C =
EK (P)) และขั้นตอนวิธีการถอดรหัส (P = DK (C)) ในไม่สมมาตรเข้ารหัส (เช่น Rivest-Shamir-Adleman (RSA) อัลกอริทึม [1]) สองปุ่มที่แตกต่างกันถูกนำมาใช้ (เช่น K1? = K2) คีย์สาธารณะจะใช้ในการเข้ารหัสข้อความ (C = EK1 (P) ) และที่สำคัญภาคเอกชนใช้ในการถอดรหัส ciphertext ลงเท็กซ์(P = DK2 (C)) [1]. ความแรงของการเข้ารหัสในส่วนที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยขึ้นอยู่กับความแรงของปุ่มที่ใช้ในการเข้ารหัสและถอดรหัสอัลกอริทึม ที่สำคัญมีการกล่าวถึงมีความแข็งแรงถ้ามันจะไม่สามารถคาดเดาได้และไม่เป็นไปได้ที่จะทำลายภายในเวลาจริง ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นคือการเลือกของคีย์การเข้ารหัส. หากที่สำคัญคือง่ายหรือสั้นมากในระยะเวลาแล้วสำหรับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเข้ารหัสแบบสมมาตรและไม่สมมาตรสมมาตรการเข้ารหัสการเข้ารหัส .
ใน ( เช่น การเข้ารหัสมาตรฐาน
( DES ) [ 1 ] , มาตรฐานการเข้ารหัสลับขั้นสูง ( AES ) [ 2 ] )
คีย์เดียวกัน ( เช่น K1 K2 K = = ) จะใช้ในการเข้ารหัส ( C =
EK ( P ) และขั้นตอนวิธีการถอดรหัส ( P = DK ( C ) ในการเข้ารหัสแบบอสมมาตร
( เช่นที่เกิด ชามีร์ แอเดิลแมน ( RSA )
ขั้นตอนวิธี [ 1 ] ) , สองปุ่มต่าง ๆที่ใช้ ( เช่น  K1 K2
= )คีย์สาธารณะที่ใช้ในการเข้ารหัสข้อความ ( C = ek1 ( P )
และคีย์ส่วนตัวที่ใช้ถอดรหัสอักขระแพทเข้า
( p = dk2 ( C ) [ 1 ] .
ความแรงของการเข้ารหัสในการรักษาความปลอดภัยขึ้นอยู่กับ
ในความแข็งแรงของกุญแจที่ใช้ในการเข้ารหัสและถอดรหัส

คีย์กล่าวจะแข็งแรงขึ้น ถ้ามันไม่ได้ง่าย
เดาและไม่ได้เป็นไปได้แตกภายในเวลาจริง ดังนั้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการเลือกคีย์การเข้ารหัสลับ .
ถ้าคีย์ได้ง่าย สั้นหรือยาว แล้วสำหรับ