1. Oral literature: epic narratives

1. Oral literature: epic narratives, creation
myths, stories, poems, songs.
2. Use stories to teach moral lessons and
convey practical information about the natural
world.
3. Deep respect for nature and animals
4. Cyclical world view
5. Figurative language/parallelism


1. Wrote mostly diaries and histories, which
expressed the connections between God an
their everyday lives.
2. Sought to “purify” the Church of England
by reforming to the simpler forms of worship
and church organization described in the New
Testament
3. Saw religion as a personal, inner
experience.
4. Believed in original sin and “elect” who
would be saved.
5. Used a plain style of writing


1. Mostly comprised of philosophers,
scientists, writing speeches and pamphlets.
2. Human beings can arrive at truth (God’s
rules) by using deductive reasoning, rather
than relying on the authority of the past, on
religious faith, or intuition.


1. Valued feeling, intuition, idealism, and
inductive reasoning.
2. Placed faith in inner experience and the
power of the imagination.
3. Shunned the artificiality of civilization and
seek unspoiled nature as a path to spirituality.
4. Championed individual freedom and the
worth of the individual.
5. Saw poetry as the highest expression of
the imagination.
6. Dark Romantics: Used dark and
supernatural themes/settings (Gothic style)


1. Everything in the world, Including human
beings, is a reflection of the Divine Soul
2. People can use their intuition to behold
God’s spirit revealed in nature or in their own
souls.
3. Self-reliance and individualism must
outweigh external authority and blind
conformity to tradition


1. Feelings of disillusionment
2. Common subjects; slums of rapidly
growing cities, factories replacing farmlands,
poor factory workers, corrupt politicians
3. Represented the manner and environment
of everyday life and ordinary people as
realistically as possible (regionalism)
4. Sought to explain behavior
(psychologically/socially).


1. Sense of disillusionment and loss of faith in
the “American Dream”: the independence,
self-reliant, individual will triumph.
2. Emphasis on bold experimentation in style
and form over the traditional.
3. Interest in the inner workings of the human
mind (ex. Stream of consciousness).


1. Black cultural movement in Harlem, New
York
2. Some poetry rhythms based on spirituals,
and jazz, lyrics on the blues, and diction from
the street talk of the ghettos
3. Other poetry used conventional lyrical
forms


1. Influenced by studies of media, language,
and information technology
2. Sense that little is unique; culture endlessly
duplicates and copies itself
3. New literary forms and techniques: works
composed of only dialogue or combining
fiction and nonfiction, experimenting with
physical appearance of their work

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. ปากวรรณกรรม: มหากาพย์ narratives สร้าง ตำนาน เรื่องราว บทกวี เพลง2. ใช้เรื่องราวสอนบทเรียนทางศีลธรรม และ ถ่ายทอดข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับธรรมชาติ โลก3. เคารพธรรมชาติและสัตว์ลึก4. ห่วงโลกดู5. ภาษาอุปมา parallelism1. เขียนไดอารีส์และประวัติ ส่วนใหญ่ที่ แสดงการเชื่อมต่อระหว่างพระเจ้าการ ชีวิตประจำวัน2. พยายามที่จะ "บริสุทธิ์" คริสตจักรของอังกฤษ โดยปฏิรูปการบูชารูปแบบเรียบง่าย และคริสตจักรองค์กรอธิบายใหม่ พันธสัญญา3. เห็นศาสนาเป็นบุคคล ด้านใน ประสบการณ์4. เชื่อในบาปต้นฉบับ และ "เลือก" ที่ จะสามารถบันทึก5. ใช้เขียนรูปแบบธรรมดา1. ส่วนใหญ่ประกอบด้วยปรัชญา นักวิทยาศาสตร์ การเขียนสุนทรพจน์และเอกสารแผ่นพับขอ2. มนุษย์สามารถบรรลุความจริง (ของพระเจ้า กฎ) โดยใช้เหตุผล deductive ค่อนข้าง กว่าการพึ่งอำนาจของอดีต ใน ศาสนา หรือสัญชาตญาณ1. ความรู้สึก สัญชาตญาณ idealism มูลค่า และ เหตุผลเชิงอุปนัย2. วางความเชื่อในประสบการณ์ภายในและ พลังของจินตนาการ3. shunned artificiality ของอารยธรรม และ ค้นหาธรรมชาติเป็นเส้นทางให้วิญญาณ4. เสรีภาพแต่ละ championed และ มูลค่าของแต่ละบุคคล5. บทกวีเห็นเป็นค่าสูงสุดของ จินตนาการ6. คู่รักมืด: ใช้สีเข้ม และ ชุดรูปแบบเหนือธรรมชาติค่า (สไตล์โกธิค)1. ทุกอย่างในโลก รวมทั้งมนุษย์ สิ่งมีชีวิต สะท้อนจิตวิญญาณพระเจ้า2. People can use their intuition to behold God’s spirit revealed in nature or in their own souls.3. Self-reliance and individualism must outweigh external authority and blind conformity to tradition1. Feelings of disillusionment2. Common subjects; slums of rapidly growing cities, factories replacing farmlands, poor factory workers, corrupt politicians3. Represented the manner and environment of everyday life and ordinary people as realistically as possible (regionalism)4. Sought to explain behavior (psychologically/socially).1. Sense of disillusionment and loss of faith in the “American Dream”: the independence, self-reliant, individual will triumph.2. Emphasis on bold experimentation in style and form over the traditional.3. Interest in the inner workings of the human mind (ex. Stream of consciousness).1. Black cultural movement in Harlem, New York2. Some poetry rhythms based on spirituals, and jazz, lyrics on the blues, and diction from the street talk of the ghettos3. Other poetry used conventional lyrical forms1. Influenced by studies of media, language, and information technology2. Sense that little is unique; culture endlessly duplicates and copies itself3. New literary forms and techniques: works composed of only dialogue or combining fiction and nonfiction, experimenting with physical appearance of their work

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. วรรณกรรมสาร: เรื่องเล่ามหากาพย์การสร้าง
ตำนานเรื่องราวบทกวีเพลง.
2 ใช้เรื่องที่จะสอนบทเรียนทางศีลธรรมและ
ถ่ายทอดข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับธรรมชาติ
โลก.
3 เคารพธรรมชาติและสัตว์
4 มุมมองโลกวัฏจักร
5 ภาษาเป็นรูปเป็นร่าง / ขนาน1 ส่วนใหญ่เขียนไดอารี่และประวัติศาสตร์ที่แสดงการเชื่อมต่อระหว่างพระเจ้าชีวิตประจำวันของพวกเขา. 2 พยายามที่จะ "ชำระล้าง" คริสตจักรแห่งอังกฤษโดยการปฏิรูปการในรูปแบบที่เรียบง่ายของการเคารพบูชาและองค์กรคริสตจักรที่อธิบายไว้ในใหม่พันธสัญญา3 เห็นศาสนาเป็นส่วนบุคคลภายในประสบการณ์. 4 เชื่อในบาปดั้งเดิมและ "เลือก" ที่จะถูกบันทึกไว้. 5 ใช้รูปแบบของการเขียนธรรมดา1 ประกอบด้วยส่วนใหญ่ของนักปรัชญา, นักวิทยาศาสตร์การเขียนสุนทรพจน์และเพม. 2 มนุษย์สามารถประสบความสำเร็จในความจริง (พระเจ้ากฎ) โดยใช้เหตุผลแบบนิรนัยค่อนข้างกว่าอาศัยอำนาจของอดีตที่ผ่านมาเมื่อวันที่ศรัทธาในศาสนาหรือสัญชาตญาณ. 1 ความรู้สึกมูลค่าปรีชาเพ้อฝันและเหตุผลอุปนัย. 2 ความเชื่อที่อยู่ในประสบการณ์ภายในและพลังแห่งจินตนาการ. 3 รังเกียจยศของอารยธรรมและแสวงหาธรรมชาติที่สวยงามเป็นเส้นทางไปยังจิตวิญญาณ. 4 แต่ละปกป้องเสรีภาพและความคุ้มค่าของแต่ละบุคคล. 5 เห็นบทกวีเป็นแสดงออกสูงสุดของจินตนาการ. 6 โรแมนติกเข้ม: ใช้สีเข้มและรูปแบบธรรมชาติ / การตั้งค่า (สไตล์โกธิค) 1 ทุกอย่างในโลกรวมทั้งมนุษย์สิ่งมีชีวิตที่เป็นภาพสะท้อนของดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์2 ผู้คนสามารถใช้สัญชาตญาณของพวกเขาที่จะเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเปิดเผยในธรรมชาติหรือในตัวเองจิตวิญญาณ. 3 การพึ่งพาตนเองและการแสวงหาผลประโยชน์จะต้องมีค่าเกินอำนาจภายนอกและคนตาบอดสอดคล้องกับประเพณีที่1 ความรู้สึกของความท้อแท้2 อาสาสมัครร่วมกัน; ชุมชนแออัดอย่างรวดเร็วของเมืองที่เติบโตโรงงานแทนที่นา, คนงานในโรงงานที่ไม่ดีนักการเมืองทุจริต3 เป็นตัวแทนของลักษณะและสภาพแวดล้อมของผู้คนในชีวิตประจำวันและธรรมดาเป็นจริงที่เป็นไปได้ (ภูมิภาค) 4 พยายามที่จะอธิบายพฤติกรรม(จิตใจ / สังคม). 1 ความรู้สึกของความท้อแท้และการสูญเสียความเชื่อมั่นใน"ความฝันอเมริกัน": อิสระพึ่งตนเองแต่ละคนจะประสบความสำเร็จ. 2 เน้นการทดลองในรูปแบบที่เป็นตัวหนาและรูปแบบมากกว่าแบบดั้งเดิม. 3 ความสนใจในผลงานภายในของมนุษย์ใจ (อดีต. สตรีมของสติ). 1 การเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมสีดำในย่านฮาร์เล็มนิวยอร์2 บางจังหวะบทกวีขึ้นอยู่กับ spirituals, แจ๊สและเพลงบลูส์และถ้อยคำจากการพูดคุยถนนในสลัม3 บทกวีโคลงสั้น ๆ อื่น ๆ ที่ใช้ทั่วไปในรูปแบบที่1 ได้รับอิทธิพลจากการศึกษาของสื่อภาษาและเทคโนโลยีสารสนเทศ2 ความรู้สึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ซ้ำกัน; วัฒนธรรมอย่างไม่มีที่สิ้นสุดที่ซ้ำกันและสำเนาตัวเอง3 รูปแบบวรรณกรรมและเทคนิคใหม่: งานประกอบด้วยเพียงการเจรจาหรือการรวมนวนิยายและสารคดีทดลองกับลักษณะทางกายภาพของการทำงานของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . วรรณกรรมปากเปล่า : มหากาพย์เรื่องเล่า สร้าง
ตำนาน , นิทาน , บทกวี , เพลง .
2 ใช้เรื่องราวที่จะสอนบทเรียนทางศีลธรรมและ
ถ่ายทอดข้อมูลการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติของโลก
.
3 เคารพลึกสำหรับธรรมชาติและสัตว์
4
มุมมองโลกถึง 5 ใช้ภาษา / ขนาน


1 เขียนส่วนใหญ่บันทึกประวัติศาสตร์ที่แสดงการเชื่อมต่อระหว่างพระเจ้า

ชีวิต .
2ค้นหา " ฟอก " คริสตจักรแห่งอังกฤษ
โดยปฏิรูปรูปแบบเรียบง่ายของบูชา
และโบสถ์องค์กรที่อธิบายไว้ในพระคัมภีร์ใหม่

3 เห็นศาสนาเป็นส่วนบุคคล ประสบการณ์ภายใน
.
4 เชื่อในบาปดั้งเดิม และ " เลือก " ใคร
จะถูกบันทึกไว้ .
5 ใช้ธรรมดารูปแบบการเขียน


1 ประกอบด้วยส่วนใหญ่ของนักปรัชญา นักวิทยาศาสตร์ การเขียนสุนทรพจน์และแผ่นพับ
, .
2มนุษย์สามารถมาถึงความจริงของกฎ
พระเจ้า ) โดยใช้การให้เหตุผลแบบนิรนัย ค่อนข้าง
กว่าอาศัยอำนาจของอดีต ในความเชื่อทางศาสนาหรือสัญชาตญาณ
, .

1 . มูลค่าความรู้สึก , สัญชาตญาณ , จิตนิยมการใช้เหตุผลแบบอุปนัยและ
.
2 วางความเชื่อในประสบการณ์ภายในและพลังของจินตนาการ
.
3 หลบเลี่ยงที่จะ artificiality ของอารยธรรมและ
แสวงหาธรรมชาติเป็นเส้นทางจิตวิญญาณ .
4 ปกป้องเสรีภาพส่วนบุคคลและคุ้มค่าของแต่ละคน
.
5 เห็นบทกวีเป็นการแสดงออกสูงสุดของจินตนาการ
.
6 มืดโรแมนติก : ใช้มืด
ชุดรูปแบบการตั้งค่าเหนือธรรมชาติ ( สไตล์โกธิค )


1 ทุกอย่างในโลกนี้ รวมทั้งมนุษย์
มนุษย์เป็นภาพสะท้อนของจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์
2 ผู้คนสามารถใช้สัญชาตญาณของพวกเขามลัก
พระวิญญาณของพระเจ้าที่พบในธรรมชาติหรือในวิญญาณของพวกเขาเอง
.
3 และพึ่งตนเองได้ ( ต้องมีอำนาจและตาบอด

ภายนอกสอดคล้องกับประเพณี


1 ความรู้สึกของความท้อแท้
2 วิชาทั่วไป สลัมของเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

เปลี่ยนนาเป็นโรงงาน , คนงานในโรงงานไม่ดี นักการเมืองทุจริต
3 แสดงลักษณะและสภาพแวดล้อม
ของชีวิตและผู้คนธรรมดาเป็น
แนบเนียนที่สุด ( ภูมิภาค )
4 พยายามที่จะอธิบายพฤติกรรม
( จิตใจ / สังคม )


1 ความรู้สึกของความท้อแท้และการสูญเสียความเชื่อใน
" ความฝันอเมริกัน " : เอกราช
พึ่งตนเอง บุคคลจะได้รับชัยชนะ .
2 เน้นตัวหนา การทดลองในลักษณะและรูปแบบกว่าเดิม
.
3 ความสนใจในผลงานภายในของมนุษย์
จิตใจ ( เช่นกระแสสำนึกของ )


1 การเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมสีดำในฮาร์เล็มนิวยอร์ก ใหม่

2 บางจังหวะตามบทกวีและเพลงสวด
, แจ๊ส , เนื้อเพลงในบลูส์และคำพูดจาก
ถนนพูดถึงสลัม
3 อื่น ๆใช้แบบบทกวีเนื้อเพลง



รูปที่ 1 การศึกษาอิทธิพลของสื่อ ภาษาและเทคโนโลยีสารสนเทศ

2 ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรมไม่รู้จบ
สำเนาและสำเนาตัวเอง
3 รูปแบบวรรณกรรมและเทคนิคใหม่ : ผลงาน
ประกอบด้วยบทสนทนาอย่างเดียว หรือรวม
นวนิยายและสารคดี , ทดลอง
ลักษณะทางกายภาพของงานของพวกเขา