2.2.1 ทฤษฎีหลักการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) 2.2.1.1 การแปล - 2.2.1 ทฤษฎีหลักการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) 2.2.1.1 ไทย วิธีการพูด

2.2.1 ทฤษฎีหลักการจัดการแบบวิทยาศาส

2.2.1 ทฤษฎีหลักการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management)
2.2.1.1 เฟรดเดอริค เทย์เลอร์ (1922) : ได้เสนอความเห็นในบทความชื่อ “The Principle of Scientific Management” ว่า การบริหารงานตามหลักวิทยาศาสตร์เป็นวิธีที่ดีกว่าการอาศัยหลักความเคยชิน (rule of thumb) ซึ่งเป็นการทำงานตามประสบการณ์ของคนงานแต่ละคนและใช้กันทั่วไปในขณะนั้น ในการบริหารงานตามความเคยชิน คนงานมีแนวโน้มที่จะอู้งาน ถ่วงงาน เกียจคร้านและคอยเลี่ยงงานอยู่ตลอดเวลา Frederick W. Taylor เชื่อว่า การบริหารแบบเดิมผู้บริหารมีหน้าที่น้อยมาก งานเบา เพราะการทำงานต่างๆ ขึ้นอยู่กับคนงาน ดังนั้น การอาศัยหลักวิทยาศาสตร์มาใช้ในการบริหารจัดการจะทำให้ผู้บริหารได้ทำงานมากขึ้น โดยกำหนดให้มีการแบ่งงานกันทำระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายคนงานอย่างเท่าๆ กัน ทั้งนี้ ผู้บริหารมีหน้าที่ดังนี้
1. สร้างหลักการทำงานที่เป็นวิทยาศาสตร์สำหรับการทำงานในขั้นตอนต่างๆ ของงาน แทนการปฏิบัติตามความเคยชิน ได้แก่
1.1 ความชำนาญเฉพาะด้าน (Specialization)
1.2 วิธีการทำงานที่ดีสุดเพียงวิธีเดียว (One Best Way)
1.3 ระบบการจูงใจโดยใช้มาตรฐานของงาน (Incentive Wage System)
1.4 การศึกษาระยะเวลาและการเคลื่อนไหวในการปฏิบัติงาน (Time and Motion Study)
1.5 ระบบการจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายชิ้น (Piece Rate System)
2. คัดเลือกคนงานตามหลักกฎเกณฑ์วิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้คนที่เหมาะกับงาน
3. พัฒนาคนงานให้เรียนรู้หลักการทำงานแบบวิทยาศาสตร์
4. สร้างบรรยากาศการร่วมมือระหว่างผู้บริหารกับคนงาน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
2.2.1 ทฤษฎีหลักการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ (การจัดการทางวิทยาศาสตร์) 2.2.1.1 เฟรดเดอริคเทย์เลอร์ (1922): ได้เสนอความเห็นในบทความชื่อ "ที่หลักการของวิทยาศาสตร์การจัดการ" ว่าการบริหารงานตามหลักวิทยาศาสตร์เป็นวิธีที่ดีกว่าการอาศัยหลักความเคยชิน (กฎของหัวแม่มือ) ซึ่งเป็นการทำงานตามประสบการณ์ของคนงานแต่ละคนและใช้กันทั่วไปในขณะนั้นในการบริหารงานตามความเคยชินคนงานมีแนวโน้มที่จะอู้งานถ่วงงานเกียจคร้านและคอยเลี่ยงงานอยู่ตลอดเวลาเฟรเดอริก W. Taylor เชื่อว่าการบริหารแบบเดิมผู้บริหารมีหน้าที่น้อยมากงานเบาเพราะการทำงานต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับคนงานดังนั้นการอาศัยหลักวิทยาศาสตร์มาใช้ในการบริหารจัดการจะทำให้ผู้บริหารได้ทำงานมากขึ้นโดยกำหนดให้มีการแบ่งงานกันทำระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายคนงานอย่างเท่า ๆ กันทั้งนี้ผู้บริหารมีหน้าที่ดังนี้1. สร้างหลักการทำงานที่เป็นวิทยาศาสตร์สำหรับการทำงานในขั้นตอนต่าง ๆ ของงานแทนการปฏิบัติตามความเคยชินได้แก่ 1.1 ความชำนาญเฉพาะด้าน (เฉพาะทาง) 1.2 วิธีการทำงานที่ดีสุดเพียงวิธีเดียว (วิธีส่วนหนึ่ง) 1.3 ระบบการจูงใจโดยใช้มาตรฐานของงาน (ระบบค่าแรงจูงใจ) 1.4 การศึกษาระยะเวลาและการเคลื่อนไหวในการปฏิบัติงาน (ศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลา) 1.5 ระบบการจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายชิ้น (ระบบอัตราชิ้น) 2. คัดเลือกคนงานตามหลักกฎเกณฑ์วิทยาศาสตร์เพื่อให้ได้คนที่เหมาะกับงาน 3. พัฒนาคนงานให้เรียนรู้หลักการทำงานแบบวิทยาศาสตร์ 4. สร้างบรรยากาศการร่วมมือระหว่างผู้บริหารกับคนงาน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
2.2.1 ทฤษฎีหลักการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ (การจัดการทางวิทยาศาสตร์)
2.2.1.1 เฟรดเดอริคเทย์เลอร์ (1922) ได้เสนอความเห็นในบทความชื่อ "หลักการของการจัดการทางวิทยาศาสตร์" ว่า (กฎของหัวแม่มือ) ในการบริหารงานตามความเคยชินคนงานมีแนวโน้มที่จะอู้งานถ่วงงาน เฟรเดอริดับบลิวเทย์เลอร์เชื่อว่า งานเบาเพราะการทำงานต่างๆขึ้นอยู่กับคนงานดังนั้น กันทั้งนี้ผู้บริหารมีหน้าที่ดังนี้
1 ของงานแทนการปฏิบัติตามความเคยชิน ได้แก่
1.1 ความชำนาญเฉพาะด้าน (เชี่ยวชาญ)
1.2 (หนึ่งวิธีที่ดีที่สุด)
1.3 ระบบการจูงใจโดยใช้มาตรฐานของงาน (Incentive ระบบค่าจ้าง)
1.4 (เวลาและการเคลื่อนไหวการศึกษา)
1.5 ระบบการจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายชิ้น (ชิ้นอัตราระบบ)
2 เพื่อให้ได้คนที่เหมาะกับงาน
3

การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
2.2.1 ทฤษฎีหลักการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ ( การจัดการทางวิทยาศาสตร์ )
2.2.1.1 เฟรดเดอริคเทย์เลอร์ ( 1922 )ได้เสนอความเห็นในบทความชื่อ " หลักการของการจัดการทางวิทยาศาสตร์ " ว่าการบริหารงานตามหลักวิทยาศาสตร์เป็นวิธีที่ดีกว่าการอาศัยหลักความเคยชิน ( กฎของหัวแม่มือ ) ซึ่งเป็นการทำงานตามประสบการณ์ของคนงานแต่ละคนและใช้กันทั่วไปในขณะนั้นคนงานมีแนวโน้มที่จะอู้งานถ่วงงานเกียจคร้านและคอยเลี่ยงงานอยู่ตลอดเวลา Frederick W .เทย์เลอร์เชื่อว่าการบริหารแบบเดิมผู้บริหารมีหน้าที่น้อยมากงานเบาเพราะการทำงานต่างๆขึ้นอยู่กับคนงานดังนั้นการอาศัยหลักวิทยาศาสตร์มาใช้ในการบริหารจัดการจะทำให้ผู้บริหารได้ทำงานมากขึ้น' ทั้งนี้ผู้บริหารมีหน้าที่ดังนี้
1 . สร้างหลักการทำงานที่เป็นวิทยาศาสตร์สำหรับการทำงานในขั้นตอนต่างๆของงานแทนการปฏิบัติตามความเคยชินได้แก่ความชำนาญเฉพาะด้าน ( specialization )

1.1 1.2 วิธีการทำงานที่ดีสุดเพียงวิธีเดียว ( วิธีหนึ่งที่ดีที่สุด )
13 ระบบการจูงใจโดยใช้มาตรฐานของงาน ( ระบบค่าจ้างจูงใจ )
( 1.4 การศึกษาระยะเวลาและการเคลื่อนไหวในการปฏิบัติงานการศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลา )
1.5 ระบบการจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายชิ้น ( ระบบอัตราชิ้น )
2คัดเลือกคนงานตามหลักกฎเกณฑ์วิทยาศาสตร์เพื่อให้ได้คนที่เหมาะกับงาน
3 พัฒนาคนงานให้เรียนรู้หลักการทำงานแบบวิทยาศาสตร์
4 สร้างบรรยากาศการร่วมมือระหว่างผู้บริหารกับคนงาน
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: