เมื่อรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จากตลาดในประเทศ 60 กว่าล้านคนจะกลายเป็นตลาดใหญ่กว่า 680 ล้านคน...” ดิฉันไม่ค่อยเห็นด้วยกับประโยคนี้ที่ถูกอ้างถึงกันอย่างแพร่หลายจากน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง
ประโยคนี้เป็นการส่งสัญญาณและการตีความผิดๆให้กับผู้ประกอบการโดยคิดว่าเมื่อตลาดกว้างขึ้น ผู้บริโภคมากขึ้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้นดังนั้นขยายกิจการผลิตสินค้าเดิมเพิ่มขึ้นเลยแล้วกัน กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ผิดพลาดที่สุดในยุค AEC 2015 คือการคิดว่าอาเซียนเราเหมือนกัน
เราอาจจะเหมือนกันในภาพรวมและแนวการพัฒนาระบบเศรษฐกิจจากที่นำเสนอในตอน ASEAN Megatrends ไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ในรายละเอียดเราแตกต่างกันมาก จนมักต้องย้ำเสมอว่า ASEAN is not ASEAN
หลากชาติพันธุ์ หลายภาษาในอาเซียนมีกว่า 40 เผ่าพันธุ์และเชื้อชาติ มีจำนวนภาษาที่ใช้นับเป็นร้อยละ 17 ของภาษาทั้งหมดที่มีในโลก เฉพาะประเทศลาวประเทศเดียวมีชนกลุ่มน้อยกว่า 100 กลุ่ม แม้ตลาดในประเทศแต่ละประเทศยังมีความหลากหลายมากขนาดนี้
ความเชื่อและวิธีชีวิตที่ไม่เหมือนกันถ้าใส่ชุดดำไปงานแต่งงานในบ้านเราเห็นทีผู้ใหญ่คู่บ่าวสาวคงไม่ชอบใจเป็นแน่ เพราะคนไทยถือว่าสีดำเป็นสีอัปมงคล ไม่ควรสวมไปงานมงคลต่างๆ ในขณะที่ชาวอินโดนีเซียหรือมาเลเซียไม่ได้คิดเช่นนั้น เห็นว่าสีดำเป็นสีคลาสสิค
โดยทั่วไปเราทานอาหารวันละ 3 มื้อในขณะที่ประเทศบรูไนทานอาหารวันละ 8 มื้อ ชาวเวียตนามก็ชอบทานน้ำเต้าหู้ตอนเช้าเหมือนเรา แต่ไม่นิยมทานจากกล่อง ชุดชั้นในเสริมคัพใหญ่ขายดีในบ้านเราและเวียตนาม แต่ไปพม่าต้องเป็นชุดเต็มตัวปิดหน้าท้องสาวชาวสิงคโปร์มีความละเอียดรอบคอบเรื่องการเงิน เข้าขั้นแม่บ้านสมองไวและจุกจิกนิดๆ วัตถุนิยมอยู่บ้าง ในขณะที่สาวชาวลาวส่วนใหญ่ยังมีความใจดีและละเมียดในวัฒนธรรมเดิม
แนวคิดต่าง วิถีชีวิตต่าง วิถีการทำงานและบุคลิกก็ต่างกันถ้าต้องจำกัดความคนไทยสั้นๆ หลายคนคงไม่ปฏิเสธว่าไทยนี้รักสนุกและมีอารมณ์ขัน และทำได้อย่างใจคือไทยแท้ มักมีการพูดถึงเสมอว่าคนไทยนั้นมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าชาติอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสรรค์คิดหาทางแหกกฎ และความคิดเชิงระบบน้อย ในทางตรงข้ามกับชาวสิงคโปร์ที่ชอบทำงานอยู่บนความชัดเจน มีกฎเดินตามกฎ ไม่ค่อยยืดหยุ่นตามสถานการณ์ กล้าและชอบแสดงความคิดเห็นแม้บางทีเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นก็ตาม
ส่วนชาวเวียตนามที่ผ่านความยากลำบากมา คนทำงานรุ่นใหม่มีความเป็นวินัยและมีความเป็นนักสู้อยู่ข้อดีอีกหย่างคือเป็นคนใฝ่รู้ ขยันทำงาน และตรงต่อเวลา ส่วนชาวฟิลิปปินส์จะมีความคล้ายกับไทยในหลายๆด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสนุกสนานเฮฮาแม้ว่าในตอนทำงาน ส่วนที่ต่างกับไทยก็ตรงที่ว่าชาวฟิลิปปินส์มีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษที่ดีกว่ามาก เมื่อเราเห็นคนไทยสนุกก็มักจะสนุกกันเอง แต่ชาวฟิลิปปินส์สามารถสร้างมิตรสัมพันธ์ได้ดีกับคนทั่วโลก
ระบบการศึกษาที่แตกต่าง สร้างคนที่แตกต่าง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ตามที่ประเมินไว้โดย WEF คุณภาพระบบการศึกษาไทยนั้นกำลังตามหลังสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนิเซีย และเวียตนาม! สิงคโปร์มีนโยบายการศึกษา Teach Less, Learn More (TLLM) จะว่าเป็นการปฏิรูปการศึกษาของโลกเลยก็ว่าได้คือให้ครูสอนให้น้อยลง แต่สอนให้ดีขึ้น และเปิดโอกาสให้นักเรียนเรียนรู้โลกและการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จและมีความสุขมากขึ้น โดยการสร้างแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนและส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ชั่วชีวิต
โดยที่ยึดติดอยู่กับคะแนนสอบน้อยลง แทนที่จะมาแจกแท็ปเล็ตโดยที่ไม่ค่อยพูดถึงคุณภาพของเนื้อหา ส่วนที่พม่า ระบบการศึกษาถูกวางรากฐานแบบอังกฤษ โรงเรียนส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนของรัฐโดยมุ่งเน้นสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ส่วนเวียตนาม ส่งเสริมให้เรียนรู้นอกประเทศทั้งในแถบอาเซียนกันเองและทางตะวันตกเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ
เข้าใจความต่างจะช่วยสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย วันนี้พูดถึงความต่างของตลาด คราวหน้าจะเป็นความต่างของปัจจัยการผลิตยืนยันอีกครั้งว่าการหมายรวมว่าอาเซียนเหมือนกันคือความผิดพลาดอย่างมหันต์ของการวางกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อ AEC 2015