Export, trading with IndonesiaA div

Export, trading with Indonesia
A diverse, vast and growing market
Huge and sprawling, the world’s fourth most populous nation is the world’s sixteenth most prosperous and holds huge potential for UK companies. With nearly a quarter of a billion people spread across more than 17,500 islands, the Indonesian archipelago has been a pivotal trading hub since at least the 7th century. These days it has a growing affluent and influential middle class of around 45 million.

Becoming independent after World War II the country has had a turbulent history hallmarked by corruption and natural disasters and peppered with periods of rapid economic change. Its economy all but collapsed in the 1960s and was the hardest hit during the Asian financial crisis of 1997-98.

It consists of numerous distinct linguistic and ethnic groups and a diverse religious mix with communities of Hindus, Buddhists, Muslims and Christians. Indeed Indonesia's national motto is, "Bhinneka Tunggal Ika" ("Unity in Diversity" literally, "many, yet one".)

Indonesia has a mixed economy with both private and government enterprises. A member of the G-20, Indonesia has the largest economy in South East Asia. Within the next decade it is expected to make it into the world top ten.

With a GDP of around $1 trillion, industry accounts for more than 46 per cent of the country’s earnings followed by services at 37 per cent and agriculture at just over 16 per cent. Services account for nearly 49 per cent of employment followed by agriculture at 38 per cent.

Indonesia has generous natural resources, including crude oil, natural gas, tin, copper, and gold. Its key imports include machinery and equipment, chemicals, fuels, and foodstuffs. Major exports include oil and gas, electrical appliances, plywood, rubber and textiles.

In recent years Indonesia’s fortunes have improved significantly with growth averaging six per cent a year spurred on by improvements in domestic consumption and the banking sector. In 2011 growth reached 6.5 per cent and yet the country still has unemployment of seven per cent with nearly a seventh of its population living below the poverty line. Nevertheless it continues to outperform most of its neighbours.

Indonesia is one of UK Trade & Investment’s 17 high growth markets. UK exports to Indonesia in 2010 were worth £438.9 million, a sizeable increase of 25 per cent over the previous year. However, the real total is much higher given that many goods are transhipped via Singapore. Imports of goods to Britain from Indonesia last year increased by 13 per cent to £1.3 billion, reflecting a traditional imbalance in trade in Indonesia’s favour.

Among major British investors In Indonesia are BP, the Jardine Matheson Group, Unilever, Shell, Standard Chartered Bank, HSBC, Rio Tinto, Premier Oil, BAT, Prudential, Rolls Royce, GlaxoSmithKline and Astra Zeneca. Retailers such as Marks and Spencer, Next, Debenhams, Top Shop, Ted Baker and Harvey Nichols have also established a strong presence.

The main UK exports are organic chemicals, industrial machinery, power generation equipment, metal ores and scrap, pulp and waste paper and oils and perfume materials. UKTI has identified specific opportunities for British businesses in infrastructure projects such as ports, airports, rail as well as mining, life sciences, financial services, oil and gas, power generation and renewable energies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่งออก ค้ากับอินโดนีเซียตลาดหลากหลาย ใหญ่ และเติบโต ใหญ่ และแผ่กิ่งก้านสาขา ประเทศที่ประชากรมากที่สุดอันดับสี่ของโลกเป็น sixteenth เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในโลกและมีศักยภาพมากสำหรับบริษัทสหราชอาณาจักร มีเกือบสี่พันล้านคนที่กระจายอยู่ทั่วกว่า 17,500 เกาะ หมู่เกาะอินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 น้อยได้ วันนี้มีการเติบโตร่ำรวย และมีอิทธิพลชั้นกลางประมาณ 45 ล้านคนเป็นอิสระหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองประเทศได้มีประวัติการปั่นป่วน hallmarked โดยทุจริตและภัยธรรมชาติ และสีสัน ด้วยรอบระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจของประเทศทั้งหมดแต่ยุบในปี 1960 และก็ตียากที่สุดในช่วงวิกฤตการเงินเอเชียของปี 1997-98ประกอบด้วยมากมายแตกต่างกันทางภาษา และชาติพันธุ์กลุ่มและมีความหลากหลายทางศาสนาผสมผสานกับชุมชนของชาวฮินดู พุทธ มุสลิม และคริสเตียน แน่นอนคำขวัญชาติของอินโดนีเซียคือ "ภินเนก Tunggal Ika" ("เอกภาพในความหลากหลาย" อย่างแท้จริง "หลาย แต่หนึ่ง")อินโดนีเซียมีเศรษฐกิจแบบผสม มีทั้งเอกชนและรัฐวิสาหกิจ สมาชิกของจี-20 อินโดนีเซียมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในหนึ่งทศวรรษ มันจะต้องทำให้มันเป็นโลกด้านบนสิบด้วยมี GDP ประมาณ 1 ล้าน อุตสาหกรรมบัญชีสำหรับมากกว่า 46 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของประเทศตาม ด้วยบริการที่ร้อยละ 37 และเกษตรที่เพียง 16% บริการบัญชีสำหรับเกือบร้อยละ 49 การจ้างงานตาม ด้วยเกษตรที่ 38 เปอร์เซ็นต์อินโดนีเซียมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย รวมทั้งน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ดีบุก ทองแดง และทอง การนำเข้าที่สำคัญได้แก่เครื่องจักร และอุปกรณ์ สารเคมี เชื้อเพลิง และอาหาร ส่งออกที่สำคัญได้แก่น้ำมันและก๊าซ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม้อัด ยาง และสิ่งทอในปีที่มั่งคั่งของอินโดนีเซียได้ปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญกับการเติบโตเฉลี่ยร้อยละหก ปีกระตุ้นบน โดยปรับปรุงในการบริโภคภายในประเทศและภาคการธนาคาร ในปี 2554 เติบโตถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์ และยัง ประเทศยังคงมีอัตราการว่างงานของเจ็ดเปอร์เซ็นต์กับเกือบเจ็ดของประชากรที่อาศัยอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน ก็ มันยังคงดีกว่าส่วนใหญ่ของของเพื่อนบ้านอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในสหราชอาณาจักรการค้าและการลงทุนของตลาดเติบโตสูง 17 ประเทศไทยส่งออกไปอินโดนีเซียใน 2010 มีมูลค่า 438.9 ล้านปอนด์ เพิ่มขนาดได้ร้อยละ 25 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รวมจริงจะสูงที่หลายสินค้าที่ transhipped ผ่านทางสิงคโปร์ นำเข้าสินค้าให้อังกฤษจากอินโดนีเซียปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์การปอนด์1.3 พันล้าน สะท้อนให้เห็นถึงความไม่สมดุลของดั้งเดิมในการค้าในความโปรดปรานของอินโดนีเซียนี่สำคัญนักลงทุนชาวอังกฤษในอินโดนีเซียมี BP จาร์ Matheson กลุ่ม ยูนิลีเวอร์ เชลล์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์ HSBC, Rio Tinto น้ำมันพรีเมียร์ ค้างคาว พรู ม้วนรอยส์ GlaxoSmithKline และ Astra Zeneca ร้านค้าปลีกเช่นเครื่องหมาย และสเปนเซอร์ ถัดไป ไร Debenhams ร้านด้านบน Ted Baker และนิโคลฮาร์วีย์ก็ได้จัดสถานะที่แข็งแกร่งการส่งออกหลักของไทยมีสารอินทรีย์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม อุปกรณ์ไฟฟ้าสร้าง แร่โลหะ และเศษ วัสดุของเสียและเยื่อกระดาษ และน้ำมัน และน้ำหอม UKTI ได้ระบุโอกาสที่เฉพาะเจาะจงสำหรับธุรกิจอังกฤษในโครงสร้างพื้นฐานเช่นพอร์ต สนามบิน รถไฟเป็นเหมืองแร่ วิทยาศาสตร์ บริการทางการเงิน น้ำมัน และแก๊ส ไฟฟ้า และพลังงานทดแทน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่งออก, การค้าขายกับประเทศอินโดนีเซีย
มีความหลากหลายกว้างใหญ่และการเจริญเติบโตของตลาด
ขนาดใหญ่และแผ่กิ่งก้านสาขาสี่ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกคือโลกที่สิบหกเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดและถือศักยภาพมากสำหรับ บริษัท ในสหราชอาณาจักร เกือบหนึ่งในสี่ของพันล้านคนกระจายอยู่ทั่วมากกว่า 17,500 เกาะหมู่เกาะอินโดนีเซียได้รับการศูนย์กลางการค้าที่สำคัญอย่างน้อยตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 วันนี้ก็มีการเจริญเติบโตที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลชนชั้นกลางประมาณ 45 ล้าน.

กลายเป็นอิสระหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน hallmarked จากความเสียหายและภัยพิบัติทางธรรมชาติและพริกไทยกับระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจของประเทศทรุดตัวลง แต่ในปี 1960 และได้รับการตียากในช่วงวิกฤตทางการเงินในเอเชียของ 1997-1998.

มันประกอบด้วยกลุ่มภาษาและชาติพันธุ์จำนวนมากที่แตกต่างกันและมีการผสมผสานทางศาสนาที่หลากหลายร่วมกับชุมชนของชาวฮินดูนับถือศาสนาพุทธมุสลิมและคริสเตียน อันที่จริงคำขวัญแห่งชาติของอินโดนีเซียคือ "Bhinneka Tunggal Ika" ( "เอกภาพในความหลากหลาย" ตัวอักษร "หลาย ๆ หนึ่ง".)

อินโดนีเซียมีเศรษฐกิจที่ผสมกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน เป็นสมาชิกของ G-20, อินโดนีเซียมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในทศวรรษหน้าก็คาดว่าจะทำให้มันกลายเป็นโลกสิบบน.

กับจีดีพีอยู่ที่ประมาณ $ 1000000000000 การบัญชีอุตสาหกรรมมานานกว่าร้อยละของรายได้ของประเทศที่ใช้บริการอยู่ที่ร้อยละ 37 และการเกษตรต่อ 46 ที่เพิ่งผ่าน 16 ต่อ ร้อย บริการบัญชีสำหรับเกือบร้อยละ 49 ของการจ้างงานตามมาด้วยการเกษตรที่ร้อยละ 38 ต่อ.

อินโดนีเซียมีทรัพยากรทางธรรมชาติใจกว้างรวมทั้งน้ำมันดิบก๊าซธรรมชาติดีบุกทองแดงและทองคำ การนำเข้าที่สำคัญของมันรวมถึงเครื่องจักรและอุปกรณ์, สารเคมี, น้ำมันเชื้อเพลิงและอาหาร การส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันและก๊าซ, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ไม้อัด, ยางและสิ่งทอ.

ในปีที่ผ่านมาความมั่งคั่งของอินโดนีเซียได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกับการเจริญเติบโตเฉลี่ยร้อยละหกปีกระตุ้นโดยการปรับปรุงในการบริโภคภายในประเทศและภาคการธนาคาร ในปี 2011 การเติบโตถึงร้อยละ 6.5 และยังประเทศที่ยังคงมีอัตราการว่างงานร้อยละเจ็ดมีเกือบเจ็ดของประชากรที่อาศัยอยู่ใต้เส้นความยากจน แต่มันยังคงดีกว่าส่วนใหญ่ของประเทศเพื่อนบ้าน.

อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในสหราชอาณาจักรการค้าและการลงทุน 17 ตลาดที่เติบโตสูง การส่งออกไปยังประเทศอินโดนีเซียในสหราชอาณาจักรในปี 2010 มีมูลค่า 438,900,000 £เพิ่มขึ้นขนาดใหญ่ร้อยละ 25 จากปีก่อน แต่ทั้งหมดเป็นจริงมากขึ้นที่ได้รับสินค้าจำนวนมากจะ transhipped ผ่านทางสิงคโปร์ การนำเข้าสินค้าไปยังประเทศอังกฤษจากประเทศอินโดนีเซียปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เพื่อ 1300000000 £สะท้อนให้เห็นถึงความไม่สมดุลแบบดั้งเดิมในการค้าในความโปรดปรานของอินโดนีเซีย.

ในหมู่นักลงทุนอังกฤษที่สำคัญในอินโดนีเซีย BP, จาร์ดีนแม ธ กลุ่มยูนิลีเวอร์, Shell, ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เอสบีซี, Rio Tinto, น้ำมันพรีเมียร์ BAT พรูเด็นเชีย, Rolls-Royce, GlaxoSmithKline และแอสตร้าเซนเนก้า ร้านค้าปลีกเช่น Marks and Spencer, Next, Debenhams, ร้าน Top, Ted Baker และ Harvey Nichols ยังได้สร้างสถานะที่แข็งแกร่ง.

ส่งออกสหราชอาณาจักรหลักคือสารอินทรีย์, เครื่องจักรอุตสาหกรรม, อุปกรณ์ไฟฟ้า, แร่โลหะและเศษเยื่อกระดาษและเศษกระดาษ และน้ำมันและวัสดุน้ำหอม UKTI มีการระบุโอกาสที่เฉพาะเจาะจงสำหรับธุรกิจของอังกฤษในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่นท่าเรือ, สนามบิน, รถไฟเช่นเดียวกับการทำเหมืองแร่, วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต, บริการทางการเงิน, น้ำมันและก๊าซ, การผลิตไฟฟ้าและพลังงานทดแทน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่งออก , ค้ากับอินโดนีเซียมีหลากหลายมาก และการเติบโตของตลาดขนาดใหญ่และแผ่กิ่งก้านสาขา ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของโลกที่สี่เป็นโลก 16 รุ่งเรืองที่สุดและมีศักยภาพมากสำหรับ บริษัท สหราชอาณาจักร เกือบหนึ่งในสี่ของล้านคนกระจายทั่วมากกว่า 17 , 500 เกาะ หมู่เกาะอินโดนีเซียได้ประกาศเป็นศูนย์กลางการค้าอย่างน้อยตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 . วันนี้มันมีการเติบโตที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลระดับกลางประมาณ 45 ล้านบาทเป็นอิสระหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศมีป่วนประวัติศาสตร์ hallmarked โดยการทุจริตและภัยธรรมชาติและพริกไทยกับระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจของมันทั้งหมด แต่ล้มลงในทศวรรษที่ 1960 และได้รับความเสียหายมากที่สุดในวิกฤติการเงินเอเชีย 1997-98 .ประกอบด้วยกลุ่มภาษาและชาติพันธุ์และศาสนาที่หลากหลายมากมายแตกต่างกันผสมกับชุมชนฮินดู พุทธ อิสลาม และคริสต์ . แน่นอนของอินโดนีเซียชาติคำขวัญคือ " bhinneka SINGLE Ika " ( " เอกภาพในความหลากหลาย " หมาย " มากมาย แต่หนึ่ง " )อินโดนีเซียมีเศรษฐกิจผสม ทั้งภาคราชการและรัฐวิสาหกิจ สมาชิกของกลุ่ม G-20 , อินโดนีเซีย มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในทศวรรษหน้า โดยคาดว่าจะทำให้มันเข้าสู่โลกด้านบนสิบกับ GDP ของรอบ $ 1 ล้านล้าน บัญชีอุตสาหกรรมมากกว่าร้อยละของรายได้ของประเทศ ตามด้วยการบริการที่ 37 เปอร์เซ็นต์ และการเกษตรที่เพียง 16 ร้อยละ 46 บริการบัญชีสำหรับเกือบร้อยละ 49 ของการจ้างงานตามเกษตร 38 เปอร์เซ็นต์อินโดนีเซียมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ได้แก่ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ดีบุก ทองแดง และทองดิบ นำเข้าหลักของมันรวมถึงเครื่องจักรและอุปกรณ์ , สารเคมี , เชื้อเพลิง , และอาหาร สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ น้ำมัน และก๊าซ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม้อัดยางและสิ่งทอใน ปี ล่าสุด อินโดนีเซีย เป็นดวงมีการปรับปรุงอย่างมากกับการเจริญเติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 6 โดยการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และภาคการธนาคาร ในปี 2554 เติบโตถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์ และยังเป็นประเทศที่ยังคงมีอัตราการว่างงานสูงร้อยละเจ็ดกับเกือบเจ็ดของประชากรที่อยู่ใต้เส้นความยากจน อย่างไรก็ตามมันยังคง outperform ที่สุดของประเทศเพื่อนบ้าน .อินโดนีเซียเป็นหนึ่งใน UK การค้าและการลงทุน 17 สูงการเจริญเติบโตของตลาด สหราชอาณาจักรการส่งออกไปอินโดนีเซีย ในปี 2010 มีมูลค่ามากที่สุด 438.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25 ร้อยละกว่าหนึ่งปีก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่แท้จริงสูงมาก ระบุว่าสินค้าหลาย transhipped ผ่านสิงคโปร์ นำเข้าสินค้าอังกฤษ จากอินโดนีเซีย เมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ถึงกว่า 1.3 พันล้านบาท แบบดั้งเดิม ความไม่สมดุลในการค้าของอินโดนีเซีย โปรดปรานของนักลงทุนอังกฤษหลักในอินโดนีเซียเป็น BP , จาร์ดีนแมธทีสัน กลุ่ม , Unilever , เปลือก , ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ , HSBC , Rio Tinto , น้ำมัน , ค้างคาว , พรูเด็นเชีย , Royce ม้วนพรีเมียร์ , GlaxoSmithKline และ แอสตร้าเซเนก้า . ร้านค้าปลีก เช่น เครื่องหมาย และ สเปนเซอร์ ต่อไป เดเบนแฮม , ด้านบน , ร้านเบเกอร์และ Harvey Nichols เท็ดยังสร้างสถานะที่แข็งแกร่งการส่งออก UK หลักเคมีอินทรีย์ , เครื่องจักรอุตสาหกรรม , อุปกรณ์ไฟฟ้า , สินแร่โลหะและเศษเยื่อและกระดาษและวัสดุของเสียน้ำมันและน้ำหอม ukti ได้ระบุโอกาสเฉพาะสำหรับธุรกิจของอังกฤษในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือ สนามบิน รถไฟ ตลอดจนเหมืองแร่ , วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต , บริการทางการเงิน , น้ำมันและก๊าซ , ไฟฟ้า และพลังงานทดแทน