‘The question of belief arises when

‘The question of belief arises when there is no seeing—seeing
in every sense of the word. The moment you see, the question of
belief disappears. If I tell you that I have a gem hidden in the
folded palm of my hand, the question of belief arises because you
do not see it yourself. But if I unclench my fist and show you the
gem, then you see it for yourself, and the question of belief does not arise. A phrase in the ancient Buddhist texts therefore reads:
‘Realising, as one sees a gem (or a myrobalan fruit) in the palm’.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

' ถามความเชื่อที่เกิดขึ้นเมื่อมีการไม่เห็นตัวเห็นในทุกความรู้สึกของคำ ในขณะที่คุณเห็น คำถามความเชื่อที่หายไป ถ้าฉันบอกคุณว่า มีอัญมณีที่ซ่อนอยู่ในตัวพับฝ่ามือของฉัน ถามความเชื่อที่เกิดขึ้นเนื่องจากคุณไม่เห็นตัวเอง แต่ ถ้าฉัน unclench กำปั้นของฉัน และแสดงการอัญมณี แล้วคุณดูตัวเอง และคำถามของความเชื่อไม่เกิดขึ้น อ่านวลีในตำราพุทธศาสนาโบราณดังนั้น:'ตระหนักถึง เช่นเห็นอัญมณี (หรือผลไม้ myrobalan) ใน'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

'คำถามของความเชื่อที่เกิดขึ้นเมื่อไม่มีเห็น-เห็น
ในความรู้สึกของคำทุก ขณะที่คุณเห็นคำถามของ
ความเชื่อที่หายไป ถ้าฉันบอกคุณว่าฉันมีอัญมณีที่ซ่อนอยู่ใน
ปาล์มพับจากมือของเราคำถามของความเชื่อที่เกิดขึ้นเพราะคุณ
ไม่เห็นมันด้วยตัวคุณเอง แต่ถ้าผม unclench กำปั้นของฉันและแสดงให้คุณ
พลอยแล้วคุณจะเห็นมันด้วยตัวคุณเองและคำถามของความเชื่อที่ไม่ได้เกิดขึ้น วลีในตำราพุทธศาสนาโบราณจึงอ่าน:
'Realising เป็นหนึ่งเห็นอัญมณี (หรือผลไม้สมอ) ในปาล์ม'

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" คำถามของความเชื่อที่เกิดขึ้นเมื่อไม่มีการเห็นเห็นในความหมายของคำทุก ช่วงเวลาที่คุณเห็นคำถามของความเชื่อก็จะหายไป ถ้าฉันบอกคุณว่าฉันมีอัญมณีที่ซ่อนอยู่ในพับมือของฉัน คำถามของความเชื่อเกิดขึ้นเพราะคุณไม่ได้ดูด้วยตัวคุณเอง แต่ถ้าฉันปล่อยฉันกำปั้นของฉันและแสดงให้คุณเห็นอัญมณี , แล้วคุณจะเห็นมันด้วยตัวคุณเอง และคำถามของความเชื่อไม่ได้เกิดขึ้น วลีในข้อความโบราณพุทธจึงอ่านว่า" ตัวเหมือนเห็นอัญมณี ( หรือสมอผลไม้ ) ในปาล์ม "