From 390 participants, 64.6% were f

From 390 participants, 64.6% were female,
and 79% were married. Age of respondents
ranged from 30 to 85 years, with a mean age
of 57.1 years old (SD=9.6). About 40% of
participants between 61-70 years old.
Regarding the educational status, 47.9% of
respondents were illiterate, and 17.7% were
primary. Also, 31.5% of participants reported
that had history of diabetes in first-degree
family members.
Table 1 shows bivariate associations between
the HBM variables. According to the results,
severity, self-efficacy and cause to action with
perceived susceptibility were positively
correlated and with perceived barriers were
negatively correlated (P

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากผู้เข้าร่วม 390, 64.6% ถูกหญิงและ 79% แต่งงาน อายุของผู้ตอบโจมตีระยะไกล 30 85 ปี มีอายุ57.1 ปี (SD = 9.6) ประมาณ 40% ของผู้เข้าร่วมระหว่าง 61-70 ปีเกี่ยวกับสถานะทางการศึกษา 47.9%ผู้ตอบถูกไม่มีการศึกษา และ 17.7%หลัก ยัง 31.5% ของผู้เข้าร่วมรายงานที่มีประวัติของโรคเบาหวานใน first-degreeสมาชิกในครอบครัวตารางที่ 1 แสดงความสัมพันธ์ของ bivariate ระหว่างตัวแปร HBM ตามผลความรุนแรง ประสิทธิภาพในตนเอง และทำให้เกิดการดำเนินการด้วยมีความไวต่อการรับรู้เชิงบวกมีความสัมพันธ์และ มีการรับรู้อุปสรรคมีความสัมพันธ์ในเชิงลบ (P < 0.01) นอกจากนี้ความรุนแรงการรับรู้คือความสัมพันธ์เชิงบวกรับรู้ประโยชน์และประสิทธิภาพในตนเองและความสัมพันธ์ในเชิงลบกับการรับรู้อุปสรรค(P < 0.01) รับรู้ประโยชน์เป็นบวกมีความสัมพันธ์กับสาเหตุการดำเนินการ (P < 0.05) Selfefficacyแสดงให้เห็นความสัมพันธ์เชิงลบกับรับรู้อุปสรรค (P < 0.01) รับรู้อุปสรรคมีความสัมพันธ์ในเชิงลบกับประสิทธิภาพในตนเอง(P < 0.05) และทำให้เกิดการดำเนินการ นอกจากนี้ ทำให้การดำเนินการและประสิทธิภาพในตนเองในเชิงลบได้มีความสัมพันธ์ (P < 0.01) นอกจากนี้ในการศึกษานี้ การหมายถึง พฤติกรรมการดูแลตนเองได้จาก 10.5±2.4ซื้อมาจากศูนย์ที่ 16 ซึ่งระดับกลางถดถอยเชิงเส้นเพื่อทำนายความเป็นไปทำไม่ทำพฤติกรรมดูแลตนเอง (ตาราง2), ประสิทธิภาพในตนเอง การรับรู้ความรุนแรง การรับรู้อุปสรรคและความไวต่อการรับรู้ถือว่าเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการดูแลตนเองลักษณะการทำงาน รวม 29.6% ของความแปรปรวนของลักษณะการทำงานก็คาดว่า ปัจจัยเหล่านี้(P < 0.05)ตารางที่ 3 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรประชากรและโครงสร้างของ HBMโดยใช้ t-ทดสอบอิสระและ ANOVA ทดสอบผลการศึกษาพบว่าประชากรตัวแปรอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวข้องกับ HBM constructs(P < 0.01)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากผู้เข้าร่วม 390, 64.6% เป็นเพศหญิง
และ 79% กำลังจะแต่งงาน อายุของผู้ตอบแบบสอบถาม
อยู่ในช่วง 30-85 ปีที่ผ่านมาด้วยอายุเฉลี่ย
ของ 57.1 ปี (SD = 9.6) ประมาณ 40% ของ
. ผู้เข้าร่วมระหว่าง 61-70 ปีที่ผ่านมา
เกี่ยวกับสถานะการศึกษา 47.9% ของ
ผู้ตอบแบบสอบถามที่ไม่รู้หนังสือและ 17.7% เป็น
หลัก นอกจากนี้ 31.5% ของผู้เข้าร่วมได้รายงาน
ว่ามีประวัติของโรคเบาหวานในองศาแรก
สมาชิกในครอบครัว.
ตารางที่ 1 แสดงความสัมพันธ์ของสองตัวแปรระหว่าง
ตัวแปร HBM ตามผล,
ความรุนแรงด้วยตนเองประสิทธิภาพและก่อให้เกิดการดำเนินการกับ
การรับรู้ไวต่อการถูกบวก
มีความสัมพันธ์และมีการรับรู้อุปสรรคถูก
ความสัมพันธ์เชิงลบ (p <0.01) นอกจากนี้
การรับรู้ความรุนแรงมีความสัมพันธ์เชิงบวก
กับผลประโยชน์การรับรู้และการรับรู้ความสามารถตนเองและมี
ความสัมพันธ์เชิงลบกับการรับรู้อุปสรรค
(p <0.01) การรับรู้ประโยชน์เป็นบวก
มีความสัมพันธ์กับสาเหตุที่จะดำเนินการ (P <0.05) รู้ความสามารถ
มีความสัมพันธ์เชิงลบกับ
การรับรู้อุปสรรค (p <0.01) การรับรู้อุปสรรค
มีความสัมพันธ์เชิงลบกับตัวเองประสิทธิภาพ
(P <0.05) และก่อให้เกิดการกระทำ นอกจากสาเหตุ
ให้ดำเนินการและการรับรู้ความสามารถของตนเองที่ได้รับในเชิงลบ
มีลักษณะร่วมกัน (p <0.01) นอกจากนี้ในการศึกษานี้
พฤติกรรมการดูแลตนเองเฉลี่ย 10.5 ± 2.4 จาก
ช่วงที่ได้มาจากศูนย์ถึง 16 ซึ่งเป็น
ระดับกลาง.
ถดถอยเชิงเส้นที่จะคาดการณ์ความน่าจะเป็นของ
ทำในไม่ทำพฤติกรรมการดูแลตนเอง (ตาราง
ที่ 2) ด้วยตนเอง ประสิทธิภาพการรับรู้ความรุนแรง, การรับรู้
อุปสรรคและการรับรู้ไวต่อการถูก
ถือว่าเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการดูแลตนเอง
พฤติกรรม โดยรวมแล้ว 29.6% ของความแปรปรวนของ
พฤติกรรมตามคำทำนายของปัจจัยเหล่านี้
(P <0.05).
ตารางที่ 3 นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่าง
ตัวแปรประชากรและ HBM สร้าง,
ใช้ t- ทดสอบอิสระและการวิเคราะห์ความแปรปรวน การทดสอบ
ผลการศึกษาพบว่าลักษณะทางประชากร
มีความสัมพันธ์กับโครงสร้าง HBM
(p <0.01)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จาก 390 คน ร้อยละ 64.6 หญิง79 % และได้แต่งงานกัน อายุของผู้ตอบแบบสอบถามอยู่ระหว่าง 30 ถึง 85 ปี ที่มีอายุเฉลี่ยของจำนวนปี ( SD = 9.6 ) ประมาณ 40% ของ61-70 เข้าร่วมกิจกรรมระหว่างปีเกี่ยวกับสถานะทางการศึกษา , 47.9 % ของผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 17.7 และไม่รู้หนังสือหลัก นอกจากนี้ 31.5 % ของผู้เข้าร่วมรายงานที่มีประวัติของโรคเบาหวานในองศาสมาชิกในครอบครัวตารางที่ 1 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรห์ที่ตัวแปร ตามผลลัพธ์ความรุนแรง การรับรู้ความสามารถของตนเองและก่อให้เกิดการกระทำด้วยมีการรับรู้โอกาสเสี่ยงมีความสัมพันธ์กับการรับรู้อุปสรรคคือความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลาง ( p < 0.01 ) นอกจากนี้การรับรู้ความรุนแรงมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการรับรู้ประโยชน์และการรับรู้ความสามารถของตนเอง และมีความสัมพันธ์กับการรับรู้อุปสรรค( p < 0.01 ) การรับรู้ประโยชน์ของการแลกเปลี่ยนมีความสัมพันธ์กับสาเหตุการกระทำ ( P < 0.05 ) selfefficacyมีความสัมพันธ์เชิงลบ กับการรับรู้อุปสรรค ( P < 0.01 ) การรับรู้อุปสรรคมีความสัมพันธ์เชิงลบกับการรับรู้ความสามารถของตนเองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) และก่อให้เกิดการกระทำ นอกจากนี้ สาเหตุการกระทำ & การรับรู้ความสามารถของตนเองอยู่ในระดับสูงความสัมพันธ์ ( P < 0.01 ) นอกจากนี้ ในการศึกษานี้หมายถึง พฤติกรรมการดูแลตนเองเป็น 10.5 ± 2.4 จากซื้อช่วงของศูนย์ 16 ซึ่งเป็นระดับปานกลางการถดถอยเชิงเส้นเพื่อทำนายความเป็นไปได้ของทำไม่ทำ พฤติกรรมการดูแลตนเอง ( ตาราง2 ) การรับรู้ความสามารถของตนเอง การรับรู้ความรุนแรงอุปสรรคและการรับรู้โอกาสเสี่ยงคือถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการดูแลตนเองพฤติกรรม รวมราว % ของความแปรปรวนของพฤติกรรมที่ได้คาดการณ์ไว้ โดยปัจจัยเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 )ตารางที่ 3 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางประชากรศาสตร์ และห์โครงสร้างการใช้ผลต่างและ ANOVA ทดสอบผลการศึกษาพบว่า ลักษณะทางประชากรศาสตร์มีความสัมพันธ์กับโครงสร้างห์( p < 0.01 )