First the app checks that it can of

First the app checks that it can offer Apple Pay as a
payment method. In this example, the app needs the postal code from the selected shipping
address to calculate shipping cost and update the total amount due. When the user authorizes
payment, your app receives a payment token from the Secure Element, via PassKit. !
Finally the app calls appropriate APIs in the payment processor SDK to pass the payment
information to the payment processor, they process the transaction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

App ตรวจสอบก่อน ว่า มันสามารถให้แอปเปิ้ลจ่ายเป็นการวิธีการชำระเงิน ในตัวอย่างนี้ app ต้องการรหัสไปรษณีย์จากการจัดส่งที่เลือกที่อยู่เพื่อคำนวณค่าขนส่ง และปรับปรุงจำนวนเงินรวม เมื่อผู้อนุมัติการชำระเงิน app ของคุณรับโทเค็นการชำระเงินจากการจององค์ประกอบ ผ่าน PassKit !สุดท้าย app เรียก APIs ที่เหมาะสมในการประมวลผลการชำระเงิน SDK ผ่านการชำระเงินข้อมูลการประมวลผลการชำระเงิน พวกเขาดำเนินการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ครั้งแรกของการตรวจสอบจะตรวจสอบว่ามันสามารถนำเสนอแอปเปิ้ลจ่ายเป็น
วิธีการชำระเงิน ในตัวอย่างนี้การตรวจสอบความต้องการของรหัสไปรษณีย์จากการจัดส่งสินค้าที่เลือก
ที่อยู่ในการคำนวณค่าใช้จ่ายในการจัดส่งสินค้าและการปรับปรุงจำนวนเงินทั้งหมดเนื่องจาก เมื่อผู้อนุมัติ
การชำระเงินของคุณได้รับการตรวจสอบสัญลักษณ์การชำระเงินจากการรักษาความปลอดภัยธาตุผ่าน PassKit !
สุดท้าย app ที่เรียก APIs ที่เหมาะสมใน SDK ประมวลผลการชำระเงินที่จะผ่าน
ข้อมูลไปยังหน่วยประมวลผลการชำระเงินที่พวกเขาดำเนินการทำธุรกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ครั้งแรก app ตรวจสอบว่ามันสามารถให้แอปเปิลจ่ายเป็น
วิธีการชําระเงิน . ในตัวอย่างนี้ , app ต้องการรหัสไปรษณีย์จากที่เลือกการจัดส่ง
ที่อยู่คำนวณค่าขนส่ง และอัพเดตยอดเงินทั้งหมดเนื่องจาก เมื่อผู้ใช้อนุญาต
ชำระเงิน app ของคุณได้รับการชำระเงินจากการแสดงองค์ประกอบทาง passkit . !
สุดท้าย app โทรศัพท์ที่เหมาะสมในการชำระเงินโปรเซสเซอร์ SDK API เพื่อส่งข้อมูลการชำระเงินการชำระเงินโปรเซสเซอร์

ก็ประมวลผลธุรกรรม