Jerome was born in Caldmore, Walsal

Jerome was born in Caldmore, Walsall, England. He was the fourth child of Jerome Clapp (who later renamed himself Jerome Clapp Jerome), an ironmonger and lay preacher who dabbled in architecture, and Marguerite Jones. He had two sisters, Paulina and Blandina, and one brother, Milton, who died at an early age. Jerome was registered, like his father's amended name, as Jerome Clapp Jerome, and the Klapka appears to be a later variation (after the exiled Hungarian general György Klapka). Owing to bad investments in the local mining industry, the family fell into poverty and debt collectors visited often, an experience Jerome described vividly in his autobiography My Life and Times (1926).[1] The young Jerome attended St Marylebone Grammar School. He wished to go into politics or be a man of letters, but the death of his father when the younger Jerome was age 13 and of his mother when he was age 15 forced him to quit his studies and find work to support himself. He was employed at the London and North Western Railway, initially collecting coal that fell along the railway, and remained there for four years.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกิดบุญเจอโรมใน Caldmore, Walsall อังกฤษ เขามีลูกสี่ของแคลปป์บุญเจอโรม (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อตัวเองบุญเจอโรมแคลปป์บุญเจอโรม), ตั้งพระ ironmonger และวางผิดที่เปียกในสถาปัตยกรรม และ Marguerite โจนส์ เขามีน้องสาวสองคน Paulina และ Blandina และพี่ชายหนึ่ง มิลตัน ที่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก บุญเจอโรมจดทะเบียน เช่นบิดาชื่อแก้ไข เป็นบุญเจอโรมแคลปป์บุญเจอโรม และ Klapka ดูเหมือนจะ เป็นการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง (หลังจากถูกเนรเทศไปฮังการีทั่วไป György Klapka) เพราะการลงทุนที่ดีในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในท้องถิ่น ครอบครัวตกลงไปในความยากจน และหนี้สินสะสมชมบ่อย ประสบการณ์บุญเจอโรมอธิบายไว้น่าฟังในอัตชีวประวัติชีวิตของฉันและเวลา (1926) เขา[1] บุญเจอโรมหนุ่มสาวร่วมโรงเรียนเซนต์แมรี่เลโบนไวยากรณ์ เขาปรารถนาเป็นเมือง หรือเป็นคนตัว แต่การเสียชีวิต ของบิดาเมื่อบุญเจอโรมอายุ อายุ 13 และแม่ของเขาเมื่อเขาอายุ 15 ที่ถูกบังคับให้ออกจากการศึกษาของเขา และหางานทำส่งเสียตัวเอง เขาได้งานที่ลอนดอนและรถไฟตะวันตกเหนือ เก็บถ่านหินที่ลดลงไปตามทางรถไฟ และยังคงมีสำหรับ 4 ปี แรก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เจอโรมเกิดใน Caldmore, วอลซอล, อังกฤษ เขาเป็นลูกคนที่สี่ของเจอโรมแคลปป์ (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อตัวเองเจอโรมเจอโรมแคลปป์), พ่อค้าเครื่องเหล็กและวางนักเทศน์ที่ขลุกอยู่ในสถาปัตยกรรมและเกอริตโจนส์ เขามีพี่สาวสองคน, Paulina และ Blandina และหนึ่งพี่ชายของมิลตันผู้ที่เสียชีวิตในวัยเด็ก เจอโรมได้รับการจดทะเบียนเช่นเดียวกับพ่อของเขาชื่อแก้ไขเพิ่มเติมเป็นแคลปป์เจอโรมเจอโรมและการไปรษณีย์ที่ดูเหมือนจะเป็นรูปแบบต่อมา (หลังจากทั่วไปฮังการีถูกเนรเทศGyörgyการไปรษณีย์) เนื่องจากการลงทุนที่ไม่ดีในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในท้องถิ่นครอบครัวตกอยู่ในความยากจนและการสะสมหนี้มาเยือนมักจะมีประสบการณ์เจอโรมฟังบรรยายในอัตชีวประวัติของเขาชีวิตและเวลาของฉัน (1926). [1] หนุ่มเจอโรมเข้าร่วมเซนต์โบนโรงเรียนมัธยม เขาอยากที่จะไปสู่​​การเมืองหรือเป็นคนของตัวอักษร แต่การตายของพ่อของเขาเมื่อน้องเจอโรมอายุ 13 และแม่ของเขาเมื่อตอนที่เขาอายุ 15 บังคับให้เขาต้องลาออกจากการศึกษาของเขาและหางานที่จะสนับสนุนตัวเอง เขาเป็นคนที่ทำงานอยู่ที่กรุงลอนดอนและทิศตะวันตกเฉียงเหนือทางรถไฟสายแรกเก็บถ่านหินที่ลดลงไปตามทางรถไฟและยังคงอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสี่ปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขาเกิดใน caldmore Walsall , อังกฤษ เขาเป็นลูกที่สี่ของเจอโรม แคลปป์ ( ที่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเอง เจอโรม แคลปป์เจอโรม ) เป็นพ่อค้าขายเครื่องเหล็กที่ใช้ในบ้านและสวนนอนนักเทศน์ที่ dabbled ในสถาปัตยกรรมและมาร์กาเร็ตโจนส์ เขามีน้องสาวสองคนและน้องชายหนึ่งบลานดินาพอลลีน่า และ มิลตัน ที่ตายตั้งแต่อายุยังน้อย เจอโรม จดทะเบียน เหมือนพ่อเขาแก้ไขชื่อ เจอโรม แคลปป์เจอโรมและปรากฏเป็นรูปแบบแคล็ปค่าทีหลัง ( หลังจากถูกเนรเทศชาวฮังการีทั่วไป Gy ö rgy แคล็ปค่า ) เนื่องจากการลงทุนที่ไม่ดีในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ท้องถิ่น ครอบครัวตกอยู่ในความยากจนและหนี้ collectors มาเยี่ยมบ่อยๆ ประสบการณ์ เจอโรม อธิบายไว้อย่างชัดเจนในอัตชีวประวัติของเขา ชีวิตและเวลา ( 1926 ) [ 1 ] หนุ่มเจอโรมเข้าร่วมไวยากรณ์โรงเรียนเซนต์โบน .เขาปรารถนาที่จะเล่นการเมืองหรือเป็นคนของตัวอักษร แต่ความตายของบิดาของเขาเมื่อน้องอายุ 13 และเจอโรมถูกแม่ของเขาเมื่อเขาอายุ 15 บังคับให้เขาเลิกเรียนของเขา และค้นหางานที่สนับสนุนตัวเอง เขาใช้ที่ลอนดอนและสถานีรถไฟเริ่มเก็บถ่านหินที่ลดลงตามสถานีรถไฟ และอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสี่ปี