เศรษฐกิจ
ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) พ.ศ. 2552 มีมูลค่า 127,660 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคเกษตร 18,539 ล้านบาท (ร้อยละ 14.5) และนอกภาคเกษตร 109,121 ล้านบาท (ร้อยละ 85.5) ซึ่งสาขาการผลิตนอกภาคเกษตรที่สำคัญ มีบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ 20,603 ล้านบาท (ร้อยละ 16.1) ตามมาด้วยสาขาการศึกษา 15,916 ล้านบาท (ร้อยละ 12.5) มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยร้อยละ 2.3
มีรายได้ประชากรต่อหัวเฉลี่ย 79,971 บาท/คน/ปี อยู่ที่อันดับ 2 ของภาคเหนือรองจากจังหวัดลำพูน สำหรับรายได้ประชากรในเขตชนบท เฉลี่ยนั้น อยู่ที่ 59,092.45 บาท/คน/ปี อำเภอที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุด คือ อำเภออมก๋อย 29,198.01 บาท/คน/ปี และอำเภอที่มีรายได้สูงสุด คือ อำเภอฝาง 110,592.77 บาท/คน/ปี
การเกษตร
จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่การเกษตร 1,835,425 ไร่ (ร้อยละ 12.82 ของพื้นที่จังหวัด) ส่วนใหญ่ปลูกพืชสวน 515,385 ไร่ ปลูกข้าวรองลงมา 515,385 ไร่ พื้นที่การเกษตรนี้อยู่ในเขตชลประทาน 642,979 ไร่ (ร้อยละ 35 ของพื้นที่การเกษตร) มีครัวเรือนการเกษตร 1,192,446 ครัวเรือน
ผลผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญ พ.ศ. 2553-2554 สูงสุด 3 อันดับ คือ 1) ข้าว ผลผลิตเฉลี่ย 387,744 ตัน, 2) ลำไย ผลผลิตเฉลี่ย 195,195 ตัน และ 3) กระเทียม ผลผลิตเฉลี่ย 97,395 ตัน
การอุตสาหกรรม
จังหวัดเชียงใหม่มีโรงงาน 1,395 แห่ง เงินลงทุน 32,180 ล้านบาท แรงงาน 43,306 คน อุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร เกษตร ขนส่ง อโลหะ และเครื่องดื่ม ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พ.ศ. 2554 มี 34 โครงการ ประเทศที่มีการลงทุนในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี สิงคโปร์ มาเลเซีย เดนมาร์ก ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
การท่องเที่ยว
ในการสำรวจ World Best Award-Top 10 Cities จากผู้อ่าน Travel and Leisure นิตยสารท่องเที่ยวของสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2553 ผลปรากฏว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 2 ของโลก รองแต่เพียงกรุงเทพมหานครเท่านั้น ซึ่งใน พ.ศ. 2552 จังหวัดเชียงใหม่ถูกจัดเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 5 ของโลก โดยพิจารณาจากสถานที่ ทัศนียภาพ ความสวยงามและร่มรื่น ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี อาหารการกิน แหล่งช็อปปิ้ง ความเป็นมิตรของผู้คน ความคุ้มค่า ของเงิน เป็นต้น
ใน พ.ศ. 2553 จังหวัดมีจำนวนนักท่องเที่ยว 5,040,917 คน อยู่ในอันดับที่ 4 ของประเทศรองจากกรุงเทพมหานคร จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดชลบุรี เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 1,695,288 คน (ร้อยละ 33.63) สร้างรายได้รวม 39,507.03 ล้านบาท
แรงงาน
ใน พ.ศ. 2553 จังหวัดเชียงใหม่มีกำลังแรงงาน 985,349 คน (หรือร้อยละ 58.5 ของประชากร) มีอัตราว่างงานเฉลี่ย 1.2% อัตราจ้างแรงงาน 180 บาท/วัน นอกจากนี้ มีแรงงานต่างด้าว 67,663 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวพม่าถึง 67,453 คน แรงงานต่างด้าวประกอบอาชีพรับจ้างในกิจการก่อสร้างมากที่สุด 24,625 คน งานเกษตรและปศุสัตว์รองลงมา 22,655 คน
เศรษฐกิจผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (อย่าง) พ.ศ. 2552 มีมูลค่า 127,660 ล้านบาทแบ่งเป็นภาคเกษตร 18,539 ล้านบาท (ร้อยละ 14.5) และนอกภาคเกษตร 109,121 ล้านบาท (ร้อยละ 85.5) ซึ่งสาขาการผลิตนอกภาคเกษตรที่สำคัญมีบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ 20,603 ล้านบาท (ร้อยละ 16.1) ตามมาด้วยสาขาการศึกษา 15,916 ล้านบาท (ร้อยละ 12.5) มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยร้อยละ 2.3มีรายได้ประชากรต่อหัวเฉลี่ย 79,971 อยู่ที่อันดับบาท/คน/ปี 2 ของภาคเหนือรองจากจังหวัดลำพูนสำหรับรายได้ประชากรในเขตชนบทเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 59,092.45 อำเภอที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุดบาท/คน/ปีคืออำเภออมก๋อย 29,198.01 และอำเภอที่มีรายได้สูงสุดบาท/คน/ปีคืออำเภอฝาง 110,592.77 บาท/คน/ปีการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่การเกษตร 1,835,425 ไร่ (ร้อยละ 12.82 ของพื้นที่จังหวัด) ส่วนใหญ่ปลูกพืชสวน 515,385 ไร่ปลูกข้าวรองลงมา 515,385 ไร่พื้นที่การเกษตรนี้อยู่ในเขตชลประทาน 642,979 ไร่ (ร้อยละ 35 ของพื้นที่การเกษตร) มีครัวเรือนการเกษตร 1,192,446 ครัวเรือนผลผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญพ.ศ. 2553-2554 สูงสุด 3 อันดับคือ 1) ข้าวผลผลิตเฉลี่ย 387,744 ตัน 2) ลำไยผลผลิตเฉลี่ย 195,195 ตันและตันกระเทียม 3) ผลผลิตเฉลี่ย 97,395การอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่มีโรงงาน 1,395 แห่งเงินลงทุน 32,180 ล้านบาทแรงงาน 43,306 คนอุตสาหกรรมสำคัญได้แก่อุตสาหกรรมอาหารเกษตรขนส่งอโลหะและเครื่องดื่มซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พ.ศ. ๒๕๕๔ มี 34 โครงการประเทศที่มีการลงทุนในจังหวัดเชียงใหม่ได้แก่สหรัฐอเมริกาจีนเนเธอร์แลนด์เยอรมนีสิงคโปร์มาเลเซียเดนมาร์กออสเตรเลียสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์การท่องเที่ยวในการสำรวจโลกสุด 10 รางวัลอันดับเมืองจากผู้อ่านท่องเที่ยวและมาติดต่อนิตยสารท่องเที่ยวของสหรัฐอเมริกาในปีพ.ศ. 2553 ผลปรากฏว่าจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 2 ของโลกรองแต่เพียงกรุงเทพมหานครเท่านั้นซึ่งในพ.ศ. 2552 จังหวัดเชียงใหม่ถูกจัดเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 5 ของโลกโดยพิจารณาจากสถานที่ทัศนียภาพความสวยงามและร่มรื่นศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอาหารการกินแหล่งช็อปปิ้งความเป็นมิตรของผู้คนความคุ้มค่าของเงินเป็นต้นในพ.ศ. 2553 จังหวัดมีจำนวนนักท่องเที่ยว 5,040,917 คนอยู่ในอันดับที่ 4 ของประเทศรองจากกรุงเทพมหานครจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดชลบุรีเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 1,695,288 คน (ร้อยละ 33.63) สร้างรายได้รวม 39,507.03 ล้านบาทแรงงานในพ.ศ. 2553 จังหวัดเชียงใหม่มีกำลังแรงงาน 985,349 คน (ของประชากรหรือร้อยละ 58.5) มีอัตราว่างงานเฉลี่ย 1.2% อัตราจ้างแรงงาน 180 บาท/วันนอกจากนี้มีแรงงานต่างด้าว 67,663 คนส่วนใหญ่เป็นชาวพม่าถึง 67,453 คนแรงงานต่างด้าวประกอบอาชีพรับจ้างในกิจการก่อสร้างมากที่สุด 24,625 คนงานเกษตรและปศุสัตว์รองลงมา 22,655 คน
การแปล กรุณารอสักครู่..

เศรษฐกิจ
ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) พ.ศ. 2552 มีมูลค่า 127,660 ล้านบาทแบ่งเป็นภาคเกษตร 18,539 ล้านบาท (ร้อยละ 14.5) และนอกภาคเกษตร 109,121 ล้านบาท (ร้อยละ 85.5) มีบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ 20,603 ล้านบาท (ร้อยละ 16.1) ตามมาด้วยสาขาการศึกษา 15,916 ล้านบาท (ร้อยละ 12.5) 2.3 มีรายได้ประชากรต่อหัวเฉลี่ย 79,971 บาท / คน / ปีอยู่ที่อันดับ 2 ของภาคเหนือรองจากจังหวัดลำพูนสำหรับรายได้ประชากรในเขตชนบทเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 59,092.45 บาท / คน / ปีอำเภอที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุด คืออำเภออมก๋อย 29,198.01 บาท / คน / ปีและอำเภอที่มีรายได้สูงสุดคืออำเภอฝาง 110,592.77 1,835,425 ไร่ (ร้อยละ 12.82 ของพื้นที่จังหวัด) ส่วนใหญ่ปลูกพืชสวน 515,385 ไร่ปลูกข้าวรองลงมา 515,385 ไร่ 642,979 ไร่ (ร้อยละ 35 ของพื้นที่การเกษตร) มีครัวเรือนการเกษตร 1,192,446 ครัวเรือนผลผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญ พ.ศ. 2553-2554 สูงสุด 3 อันดับคือ 1) ข้าวผลผลิตเฉลี่ย 387,744 ตัน 2) ลำไยผลผลิตเฉลี่ย 195,195 ตันและ 3) กระเทียมผลผลิตเฉลี่ย 97,395 1,395 แห่งเงินลงทุน 32,180 ล้านบาทแรงงาน 43,306 คนอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารเกษตรขนส่งอโลหะและเครื่องดื่ม (BOI) พ.ศ. 2554 มี 34 โครงการ ได้แก่ สหรัฐอเมริกาจีนเนเธอร์แลนด์เยอรมนีสิงคโปร์มาเลเซียเดนมาร์กออสเตรเลีย โลกที่ดีที่สุดที่ได้รับรางวัลยอดนิยม 10 เมืองจากผู้อ่าน Travel and Leisure นิตยสารท่องเที่ยวของสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2553 ผลปรากฏว่า 2 ของโลกรอง แต่เพียงกรุงเทพมหานครเท่านั้นซึ่งใน พ.ศ. 2552 5 ของโลกโดยพิจารณาจากสถานที่ทัศนียภาพความสวยงามและร่มรื่นศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอาหารการกินแหล่งช็อปปิ้งความเป็นมิตรของผู้คนความคุ้มค่าของเงินเป็นต้นใน พ.ศ. 2553 จังหวัดมีจำนวนนักท่องเที่ยว 5,040,917 คนอยู่ในอันดับที่ 4 ของประเทศรองจากกรุงเทพมหานครจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดชลบุรีเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 1,695,288 คน (ร้อยละ 33.63) สร้างรายได้รวม 39,507.03 ล้านบาทแรงงานใน พ.ศ. 2553 จังหวัดเชียงใหม่มีกำลังแรงงาน 985,349 คน (หรือร้อยละ 58.5 ของประชากร) มีอัตราว่างงานเฉลี่ย 1.2% อัตราจ้างแรงงาน 180 บาท / วันนอกจากนี้มีแรงงานต่างด้าว 67,663 คนส่วนใหญ่เป็นชาวพม่าถึง 67,453 คน 24,625 คนงานเกษตรและปศุสัตว์รองลงมา 22,655 คน
การแปล กรุณารอสักครู่..
