The impact of natural hydrophilic a

The impact of natural hydrophilic antioxidants, metal chelators, and hydrophilic antioxidant/metal chelator mixture on the oxidative stability of base algae oil and water-in-algae oil emulsion was investigated. The results
showed that green tea extract and ascorbic acid had greatest protective effect against algae oil oxidation and generated four day lag phase, whereas rosmarinic acid, grape seed extract, grape seed extract polymer, deferoxamine
(DFO), and ethylenediaminetetraacetic acid (EDTA) had no significant protective effect. Besides, there was no
synergistic effect observed between natural antioxidants and ascorbic acid. The emulsifiers are critical to the
physicochemical stability of water-in-algae oil emulsions. Polyglycerol polyricinoleate (PGPR) promoted the oxidation of emulsion. Conversely, the protective effect on algae oil oxidation was appreciated when defatted soybean lecithin (PC 75) or defatted lyso-lecithin (Lyso-PC) was added. The role of hydrophilic antioxidants in
emulsion was similar to that in algae oil except EDTA which demonstrated strong antioxidative effect in emulsion. The results could provide information to build up stable food products containing polyunsaturated fatty
acids (PUFA).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รับการตรวจสอบผลกระทบของสารต้านอนุมูลอิสระน้ำธรรมชาติ chelators โลหะ และส่วนผสมน้ำต้านอนุมูลอิสระ/โลหะ chelator ออกซิเดชันเสถียรภาพของอิมัลชันน้ำมันน้ำมันและน้ำในสาหร่ายสาหร่ายฐาน ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า สารสกัดจากชาเขียวและวิตามินซีได้ผลดีสุดกับสาหร่ายน้ำมันออกซิเดชันและระยะหน่วงสร้างสี่วัน ในขณะที่กรด rosmarinic องุ่นสารสกัดจากเมล็ดองุ่น สารสกัดจากเมล็ดพอลิเมอร์ deferoxamine(DFO), และกรด ethylenediaminetetraacetic (EDTA) ก็ไม่มีผลป้องกันสำคัญ นอกจากนี้ ก็ไม่มีฤทธิ์ที่สังเกตระหว่างวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติ Emulsifiers ที่มีความสำคัญต่อการเสถียรภาพทางเคมีกายภาพของอิมัลชันน้ำในสาหร่ายน้ำมัน Polyglycerol polyricinoleate (PGPR) ส่งเสริมการเกิดออกซิเดชันของอิมัลชัน ในทางกลับกัน มีการชื่นชมผลป้องกันออกซิเดชันน้ำมันสาหร่ายเมื่อสกัดน้ำมันถั่วเหลืองเลซิติน (75 พีซี) หรือสกัดน้ำมัน lyso-เลซิติน (Lyso-PC) ถูกเพิ่ม บทบาทของสารต้านอนุมูลอิสระน้ำเหมือนสาหร่ายน้ำมันยกเว้น EDTA ซึ่งแสดงผลก่อนหน้านี้แข็งแกร่งในอิมัลชันอิมัลชันได้ ผลลัพธ์สามารถให้ข้อมูลเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์อาหารที่มั่นคงที่ประกอบด้วยไขมันไม่อิ่มตัวกรด (PUFA)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลกระทบของสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติ hydrophilic, chelators โลหะและส่วนผสม chelator hydrophilic สารต้านอนุมูลอิสระ / โลหะเสถียรภาพออกซิเดชันของน้ำมันฐานสาหร่ายและน้ำในสาหร่ายอิมัลชันน้ำมันถูกตรวจสอบ ผล
การทดลองพบว่าสารสกัดจากชาเขียวและวิตามินซีมีการป้องกันผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับการเกิดออกซิเดชันน้ำมันสาหร่ายและสร้างเฟสล่าช้าสี่วันในขณะที่กรด rosmarinic, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, เมล็ดองุ่นสารสกัดจากพอลิเมอ Deferoxamine
(DFO) และกรด Ethylenediaminetetraacetic (EDTA) มี ป้องกันผลกระทบอย่างไม่มีนัยสำคัญ นอกจากนี้ก็ไม่มี
ผลเสริมฤทธิ์กันสังเกตระหว่างสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติและวิตามินซี emulsifiers มีความสำคัญกับ
ความมั่นคงทางเคมีกายภาพของอิมัลชันน้ำมันน้ำในสาหร่าย Polyglycerol polyricinoleate (PGPR) การส่งเสริมการเกิดออกซิเดชันของอิมัลชัน ตรงกันข้ามการป้องกันผลกระทบในการเกิดออกซิเดชันน้ำมันสาหร่ายได้รับความชื่นชมเมื่อโปรตีนจากถั่วเหลืองเลซิติน (PC 75) หรือพร่องไขมัน lyso-เลซิติน (lyso-PC) ถูกเพิ่มเข้ามา บทบาทของสารต้านอนุมูลอิสระที่ชอบน้ำใน
อิมัลชันก็คล้ายคลึงกับในน้ำมันสาหร่ายยกเว้น EDTA ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่แข็งแกร่งในการต้านอนุมูลอิสระอิมัลชัน ผลสามารถให้ข้อมูลที่จะสร้างขึ้นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีเสถียรภาพที่มีไขมันไม่อิ่มตัว
กรด (PUFA)