HMF is recognized as an indicator o

HMF is recognized as an indicator of quality deterioration
resulting from excessive heating or storage, in a wide range of
foods containing carbohydrates (Aslanova et al., 2010; Zulueta,
Barba, Esteve, & Frigola, 2012). The HMF content of jam prior storage was 0.94 ± 0.03 mg/100 g. With respect to the evolution of
HMF content during storage, a slight increase was noted at 5 C
(15.96%) but a greater one was observed at 25 C and 37 C
(112.77% and 150%, respectively). This result confirms a large
dependence of the HMF formation on storage temperature
(Table 3). Statistical analysis revealed that interaction time–
temperature factor had a significant effect (p < 0.05) on HMF content.
These results were consistent with the findings of Duru,
Karadeniz, and Erge (2012) who also reported a significant increase
of HMF content for rosehip nectars after 8 months storage, which
achieved 77%, 182% and 273% at 25 C, 35 C and 45 C, respectively.
The formation of HMF might be attributed to sugar degradation
which occurs in acidic medium (Naknean, Meenune, &
Roudaut, 2009).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

HMF เป็นที่รู้จักเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพเสื่อมสภาพเกิดจากความร้อนมากเกินไปหรือเก็บ ความหลากหลายของอาหารที่ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต (Aslanova et al., 2010 ZuluetaBarba, Esteve, & Frigola, 2012) เนื้อหา HMF ของแจมเก็บก่อนหน้าถูก 0.94 ± 0.03 mg/100 g กับวิวัฒนาการของHMF เนื้อหาระหว่างการเก็บรักษา การเพิ่มขึ้นเล็กน้อยถูกบันทึกที่ 5 C(15.96%) แต่มากกว่าหนึ่งได้สังเกตที่ 25 C และ 37 C(112.77% และ 150% ตามลำดับ) ผลลัพธ์นี้ยืนยันขนาดใหญ่อาศัยของการก่อตัวของ HMF กับอุณหภูมิในการเก็บ(ตาราง 3) เปิดเผยเวลาโต้ตอบว่า – การวิเคราะห์ทางสถิติปัจจัยอุณหภูมิมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ (p < 0.05) HMF เนื้อหาผลลัพธ์เหล่านี้ได้สอดคล้องกับผลการวิจัยของ DuruKaradeniz และ Erge (2012) ที่ยัง รายงานการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของเนื้อหา HMF nectars โรหลังจาก 8 เดือนเก็บ ซึ่งได้ 77%, 182% และ % 273 25 C, 35 C และ 45 C ตามลำดับการก่อตัวของ HMF อาจเกิดจากการย่อยสลายน้ำตาลซึ่งเกิดขึ้นในกรด (Naknean, Meenune, &Roudaut, 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

HMF
ได้รับการยอมรับเป็นตัวบ่งชี้ของการเสื่อมสภาพที่มีคุณภาพที่เกิดจากความร้อนมากเกินไปหรือการจัดเก็บในช่วงกว้างของอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต
(Aslanova et al, 2010;. Zulueta,
Barba, Esteve และ Frigola 2012) เนื้อหา HMF ของการจัดเก็บก่อนที่การจราจรติดขัดเป็น 0.94 ± 0.03 มก. / 100 กรัม ส่วนที่เกี่ยวกับวิวัฒนาการของเนื้อหา HMF ระหว่างการเก็บรักษาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นข้อสังเกตที่ 5? C (15.96%) แต่หนึ่งเป็นใหญ่พบว่าอยู่ที่ 25 องศาเซลเซียสและ 37 องศาเซลเซียส(112.77% และ 150% ตามลำดับ) ผลที่ได้นี้ยืนยันขนาดใหญ่พึ่งพาอาศัยกันของการก่อ HMF ในอุณหภูมิการเก็บรักษา (ตารางที่ 3) การวิเคราะห์ทางสถิติแสดงให้เห็นว่าการทำงานร่วมกันเวลาปัจจัยที่อุณหภูมิมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ (p <0.05) กับเนื้อหา HMF. ผลลัพธ์เหล่านี้มีความสอดคล้องกับผลการวิจัยของ Duru, Karadeniz และ Erge (2012) ที่ยังรายงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของเนื้อหาHMF สำหรับโรสฮิป ทิพย์หลังการเก็บรักษา 8 เดือนซึ่งประสบความสำเร็จ77%, 182% และ 273% ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส 35 องศาเซลเซียสและ 45 องศาเซลเซียสตามลำดับ. การก่อตัวของ HMF อาจนำมาประกอบกับการย่อยสลายน้ำตาลที่เกิดขึ้นในสื่อที่เป็นกรด(Naknean, Meenune และRoudaut 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

hmf ได้รับการยอมรับเป็นตัวบ่งชี้ของเสื่อมคุณภาพ
ที่เกิดจากความร้อนมากเกินไปหรือกระเป๋าในช่วงกว้างของ
อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต ( aslanova et al . , 2010 ; zulueta
Barba esteve & , , , frigola , 2012 ) โดยเนื้อหาของแยมก่อนที่กระเป๋า hmf เท่ากับ 0.94 ± 0.03 มิลลิกรัม / 100 กรัม เทียบกับวิวัฒนาการของ
hmf เนื้อหาระหว่างกระเป๋า , เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นข้อสังเกตที่ 5  C
( 1596 ) แต่พบว่ามากกว่าหนึ่งที่ 25  องศาเซลเซียสและ 37  C
( 112.77 % และ 150 ตามลำดับ ) ผลที่ได้นี้เป็นการยืนยันการพึ่งพาขนาดใหญ่
ของ hmf ก่อตัวบน
อุณหภูมิ ( ตารางที่ 3 ) ผลการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่า ปฏิสัมพันธ์เวลา–
อุณหภูมิปัจจัยมีผลอย่างมีนัยสำคัญ ( p < 0.05 ) ปริมาณ hmf .
ผลลัพธ์เหล่านี้สอดคล้องกับผลการวิจัยของ ดูรู karadeniz
, ,และ erge ( 2012 ) ที่ยังมีรายงาน
เพิ่มขึ้นอย่างมากเนื้อหา hmf สำหรับโรสฮิปน้ำทิพย์หลังจาก 8 เดือนกระเป๋าซึ่ง
ได้ 77% , 182 ล้านบาท และตอนนี้ที่ 25  C , 35  องศาเซลเซียส และ 45  องศาเซลเซียส
การ hmf อาจเกิดจากการย่อยสลาย
น้ำตาล ซึ่งเกิดขึ้นใน เป็นกรดปานกลาง ( naknean meenune & , ,
roudaut , 2009 )