Engineering is the professional art

Engineering is the professional art of applying science to the optimum conversion of the resources of nature to benefit man. The words engineer and ingenious are derived from the same Latin root “ingenerare” meaning “to create”.

Associated with engineering is a great body of special knowledge; preparation for professional practice involves extensive training in the application of that knowledge.Engineering is an art requiring the judgment necessary to adapt knowledge to practical purposes, the imagination to conceive original solutions to problems, and the ability to predict performance and cost of new devices or processes.

The function of the scientist is to know, while that of the engineer is to do. The scientist adds to the store of verified, systematized knowledge of the physical world; the engineer brings this knowledge to bear on practical problems. Engineering is based principally on physics, chemistry & mathematics and their extensions into materials science, solid and fluid mechanics, thermodynamics, transfer and rate processes, system analysis, computer programming, electronics and optronics.

Unlike the scientists, the engineer is not free to select the problem that interests him; he must solve problems as they arise; his solution must satisfy conflicting requirements. Usually efficiency costs money; safety adds to complexity; improved performance increases weight. The engineering solution is the optimum solution, the end result that, taking many factors into account, is most desirable. It may be the cheapest for a specified level of performance, the most reliable within a given weight limit, the simplest that will satisfy certain safety requirements, or the most efficient for a given cost. In many engineering problems, the social costs are significant.

Engineers employ two types of natural resources – materials and energy. Since most resources are limited, the engineer must concern himself with the continual development of new resources as well as the efficient utilization of existing ones. The results of engineering activities contribute to the welfare of man by furnishing food, shelter, and comfort; by making work, transportation and communication easier and safer; and by making life pleasant and satisfying.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิศวกรรมเป็นศิลปะมืออาชีพการใช้วิทยาศาสตร์กับการเปลี่ยนแปลงทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นประโยชน์คนที่เหมาะสม คำวิศวกรและแยบยลจะมาจากรากเดียวกันละติน "ingenerare" หมายถึง "การสร้าง" เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมคือร่างกายดีความรู้พิเศษ การเตรียมการสำหรับปฏิบัติวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับอบรมในการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ วิศวกรรมเป็นงานศิลปะต้องคำพิพากษาจำเป็นต้องปรับความรู้ในการปฏิบัติวัตถุประสงค์ จินตนาการจะตั้งครรภ์เดิมแก้ไขปัญหา และความสามารถในการทำนายประสิทธิภาพและต้นทุนของอุปกรณ์ใหม่หรือกระบวนการ การทำงานของนักวิทยาศาสตร์จะรู้ ในขณะที่ของวิศวกรคือการทำ นักวิทยาศาสตร์เพิ่มเก็บของตาม จัดระบบได้ความรู้ของโลกทางกายภาพ วิศวกรนำความรู้นี้ต้องแบกปัญหาทางปฏิบัติ วิศวกรรมตามหลักฟิสิกส์ เคมี และคณิตศาสตร์ และส่วนขยายเป็นวัสดุศาสตร์ แข็ง และกลศาสตร์ของไหล อุณหพลศาสตร์ กระบวนการโอนย้ายและอัตรา วิเคราะห์ระบบ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และ optronics ซึ่งแตกต่างจากนักวิทยาศาสตร์ วิศวกรไม่อิสระในการเลือกปัญหาที่สนใจเขา เขาต้องแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โซลูชันของเขาต้องตอบสนองความต้องการขัดแย้งกัน โดยปกติประสิทธิภาพค่าใช้จ่าย ความปลอดภัยเพิ่มความซับซ้อน ปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มน้ำหนัก โซลูชันวิศวกรรมเป็นทางออกที่ดีที่สุด ผลลัพธ์สุดท้ายที่ คำนึงถึงหลายปัจจัย เป็นที่พึงปรารถนามากที่สุด มันอาจจะถูกที่สุดสำหรับระดับที่ระบุประสิทธิภาพ เชื่อถือได้มากที่สุดได้กำหนดน้ำหนักสูง ง่ายที่สุดที่จะตอบสนองกับความต้องการความปลอดภัย หรือมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับต้นทุนที่กำหนด ในปัญหาทางวิศวกรรมมากมาย ต้นทุนทางสังคมสำคัญ วิศวกรจ้างสองชนิดของทรัพยากรธรรมชาติวัตถุดิบและพลังงาน เนื่องจากทรัพยากรส่วนใหญ่ถูกจำกัด วิศวกรต้องกังวลตัวเอง ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของทรัพยากรใหม่รวมทั้งการใช้อยู่มีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ของกิจกรรมทางวิศวกรรมทำให้สวัสดิการของคนโดยการมอบอาหาร พักพิง สะดวก สบาย โดยการทำงาน ขนส่ง และการสื่อสารที่ง่าย และ ปลอดภัย และทำให้ชีวิตสะดวกสบาย และความพึงพอใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิศวกรรมศิลปะมืออาชีพของการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เพื่อการแปลงสูงสุดของทรัพยากรของธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของมนุษย์ คำว่าวิศวกรและความคิดสร้างสรรค์จะมาจากราก " ละตินเหมือนกัน ingenerare " ความหมาย " เพื่อสร้าง "ที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมร่างกายที่ดีของความรู้พิเศษ การเตรียมการฝึกปฏิบัติวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมที่กว้างขวางในการประยุกต์ใช้ความรู้นั้น วิศวกรรม เป็นศิลปะที่ต้องตัดสินที่จำเป็นเพื่อปรับความรู้เพื่อวัตถุประสงค์ในทางปฏิบัติ จินตนาการประดิษฐ์โซลูชั่นต้นฉบับ ปัญหา และความสามารถในการทำนายประสิทธิภาพและต้นทุนของอุปกรณ์ใหม่ หรือกระบวนการการทำงานของนักวิทยาศาสตร์รู้ ในขณะที่ของวิศวกร คือ การทำ นักวิทยาศาสตร์เพื่อเพิ่มการจัดเก็บของการตรวจสอบที่เป็นระบบความรู้ของโลกทางกายภาพ วิศวกรจะนำความรู้นี้ไปแบกปัญหาในทางปฏิบัติ วิศวกรรมพื้นฐานหลักในฟิสิกส์ เคมี และคณิตศาสตร์และนามสกุลของพวกเขาในวิทยาศาสตร์วัสดุกลศาสตร์ของแข็งของไหลอุณหพลศาสตร์ การโอนย้าย และคะแนนกระบวนการ การวิเคราะห์ระบบ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และ OPTRONICS .ซึ่งแตกต่างจากนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร ไม่ใช่ของฟรีเพื่อเลือกปัญหาที่เขาสนใจ เขาจะต้องแก้ไขปัญหาตามที่พวกเขาเกิดขึ้น ทางออกของเขาต้องตอบสนองความต้องการที่ขัดแย้งกัน โดยปกติประสิทธิภาพเงิน ต้นทุน ความปลอดภัย เพิ่มความซับซ้อน ; การปรับปรุงประสิทธิภาพการเพิ่มน้ำหนัก วิศวกรรมโซลูชั่น เป็นโซลูชั่นที่เหมาะสม ผลลัพธ์สุดท้ายที่ถ่ายหลายปัจจัยเข้าบัญชี เป็นที่พึงปรารถนามากที่สุด มันอาจจะถูกที่สุดเพื่อกำหนดระดับของประสิทธิภาพและเชื่อถือได้มากที่สุดภายในให้เครื่องชั่งน้ำหนัก , ที่ง่ายที่สุดที่จะตอบสนองความต้องการความปลอดภัยบางอย่าง หรือมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการใช้จ่าย ปัญหาทางวิศวกรรมมาก ต้นทุนทางสังคมเป็นสำคัญวิศวกรใช้สองประเภทของทรัพยากรธรรมชาติ - วัสดุและพลังงาน เนื่องจากทรัพยากรส่วนใหญ่จะ จำกัด วิศวกรต้องกังวลตัวเองกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของทรัพยากรใหม่ รวมทั้งประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ของวัตถุที่มีอยู่ ผลของกิจกรรมทางวิศวกรรมสนับสนุนสวัสดิการของมนุษย์โดยการตกแต่งอาหาร ที่พัก และความสะดวกสบาย โดยการทำ งาน ขนส่ง และการสื่อสารที่ง่ายและปลอดภัย และทำให้ชีวิตรื่นรมย์และเพลิดเพลินสูงขณะ