Abstract: Problem statement: The aim of this research was to study the causal factors influencing students’
adversity between twelfth grade and third-year vocational students in Sisaket province, Thailand. Six hundred
and seventy two of twelfth grade and 376 third-year vocational students were selected by multi-stage random
sampling techniques. Approach: The instruments used for collecting data were: A scale on self-esteem, a
scale on dominance, a scale on self-confidence, a scale on sense of personal freedom, a scale on achievement
motivation, a scale on ambition, a scale on enthusiasm, a scale on responsibility, a scale on future orientation,
and an adversity quotient scale. The data were analyzed by validity test of the causal relationship model.
Results: The results of the study were as follows: (1) variables influencing the adversity quotient of 12th
grade and third-year vocational students were dominance, sense of personal freedom, self-esteem,
enthusiasm, self-confidence, ambition and achievement motivation. (2) Variables are directly influencing the
adversity quotient of twelfth grade students was self-confidence while the variables both directly and
indirectly influencing the adversity quotient of students were dominance, sense of personal freedom, selfesteem,
and enthusiasm. (3) Variable are directly influencing adversity quotient of third-year vocational
students was achievement motivation, the variables are indirectly influencing the adversity quotient of these
students was dominance while the variables both directly and indirectly influencing the adversity quotient of
these students were sense of personal freedom, self-esteem, enthusiasm, self-confidence, and ambition.
Conclusion: In conclusion, the results of this study could be used as beneficial information for parents,
teachers and those involved in education for developing students to have adversity quotient as well as to be
used as guidelines for providing education in the future.
งบปัญหา: บทคัดย่อจุดมุ่งหมายของการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่เป็นสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อนักเรียน
ทุกข์ยากระหว่างเกรดสิบสองและสามปีนักเรียนอาชีวศึกษาในจังหวัดศรีสะเกษ, ประเทศไทย หกร้อย
เจ็ดสิบสองเกรดสิบสองและ 376 นักเรียนอาชีวศึกษาปีที่สามได้รับการคัดเลือกจากหลายขั้นตอนแบบสุ่ม
เทคนิคการสุ่มตัวอย่าง วิธีการ: เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ เครื่องชั่งในภาคภูมิใจในตนเองเป็น
จำนวนมากในการปกครองระดับบนความมั่นใจในตนเองขนาดในความรู้สึกของเสรีภาพส่วนบุคคลขนาดในความสำเร็จ
แรงจูงใจขนาดในความใฝ่ฝันที่ระดับ บนความกระตือรือร้น, เครื่องชั่งน้ำหนักในความรับผิดชอบขนาดกับทิศทางในอนาคต
และระดับความฉลาดทางความทุกข์ยาก วิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบความถูกต้องของรูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ.
ผล: ผลการศึกษามีดังนี้ (1) ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อความฉลาดทางความทุกข์ยากของ 12
คะแนนและสามปีนักเรียนอาชีวศึกษาถูกครอบงำความรู้สึกของเสรีภาพส่วนบุคคลของตนเอง -esteem,
กระตือรือร้น, ความมั่นใจในตนเองทะเยอทะยานและแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ (2) ตัวแปรโดยตรงที่มีอิทธิพลต่อ
ความฉลาดทางความทุกข์ยากของนักเรียนเกรดสิบสองได้รับความมั่นใจในตนเองในขณะที่ตัวแปรทั้งทางตรงและ
ทางอ้อมที่มีอิทธิพลต่อความฉลาดทางความทุกข์ยากของนักเรียนครอบงำความรู้สึกของเสรีภาพส่วนบุคคล selfesteem,
และความกระตือรือร้น (3) ตัวแปรที่มีอิทธิพลเชาวน์ความทุกข์ยากของอาชีวศึกษาปีที่สาม
นักเรียนเป็นแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ตัวแปรที่มีทางอ้อมที่มีอิทธิพลต่อความฉลาดทางความทุกข์ยากของเหล่า
นักเรียนคือการปกครองในขณะที่ตัวแปรทั้งทางตรงและทางอ้อมที่มีอิทธิพลต่อความฉลาดทางความทุกข์ยากของ
นักเรียนเหล่านี้เป็นความรู้สึกของบุคคล . เสรีภาพภาคภูมิใจในตนเอง, ความกระตือรือร้น, ความมั่นใจในตนเองและความทะเยอทะยาน
สรุป: สรุปผลการศึกษานี้สามารถใช้เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ปกครอง
ครูและผู้ที่เกี่ยวข้องในการศึกษาเพื่อการพัฒนานักเรียนให้มีความฉลาดทางความทุกข์ยากเช่นเดียวกับ จะถูก
นำมาใช้เป็นแนวทางในการให้การศึกษาในอนาคต
การแปล กรุณารอสักครู่..

บทคัดย่อ : แจ้งปัญหา : วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้เพื่อศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อนักเรียนความทุกข์ยากระหว่างสิบชั้นและนักศึกษาวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 ในจังหวัดศรีสะเกษ , ประเทศไทย หกร้อยเจ็ดสิบสองของเกรด 12 และพวกวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 คน เลือกโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอนเทคนิคการสุ่มตัวอย่าง วิธีการเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามการเห็นคุณค่าในตนเอง : มาตราส่วน ,ระดับการปกครอง ระดับความมั่นใจ และระดับความรู้สึกของเสรีภาพส่วนบุคคล ระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแรงจูงใจ , ระดับความทะเยอทะยาน ระดับความกระตือรือร้น , ระดับความรับผิดชอบ ระดับในการมุ่งอนาคตและฟันฝ่าอุปสรรคขนาด วิเคราะห์ข้อมูลโดยทดสอบความตรงของโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุผล : ผลการศึกษาดังนี้ ( 1 ) ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคของ 12ชั้นและปีที่สามนักเรียนอาชีวศึกษามีการปกครอง , ความรู้สึกของการเห็นคุณค่าในตนเอง , เสรีภาพส่วนบุคคลความกระตือรือร้น , ความเชื่อมั่นในตัวเอง ความทะเยอทะยานและแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ( 2 ) ตัวแปรโดยตรงจะมีผลต่อความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความมั่นใจในขณะที่ตัวแปรทั้งโดยตรงและทางอ้อมมีผลต่อฟันฝ่าอุปสรรคของนักเรียนการปกครองตนเอง ความรู้สึกของเสรีภาพส่วนบุคคลและความกระตือรือร้น ( 3 ) ตัวแปรโดยตรงจะมีผลต่อความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคของวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3นักศึกษามีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ , ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้โดยทางอ้อมนักเรียนการปกครองในขณะที่ตัวแปรทั้งโดยตรงและโดยอ้อมต่อความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคของความรู้สึกของเสรีภาพเหล่านี้นักเรียนส่วนบุคคล ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง ความกระตือรือร้น ความมั่นใจในตัวเอง และความทะเยอทะยานสรุป : สรุป ผลการศึกษาครั้งนี้สามารถใช้เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ปกครองครูและผู้ที่เกี่ยวข้องในการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรค ตลอดจนเป็นใช้เป็นแนวทางในการให้การศึกษาในอนาคต
การแปล กรุณารอสักครู่..
