การถามว่า “สิ่งซึ่งเป็นศาสนธรรม เป็นที่รักของเทพเจ้าเพราะว่าเป็น ศาสนธรรม หรือว่าสิ่งนั้นเป็นศาสนธรรมเพราะเป็นที่รักของเทพเจ้า?” [อธิบาย ประโยคที่ว่า “ศาสนธรรมเป็นที่รักของเทพเจ้าเพราะว่าเป็นศาสนธรรม” ก็คือ สิ่งหนึ่งที่เป็นศาสนธรรมสิ่งนั้นเทพเจ้าจะรัก (สิ่งหนึ่งที่เป็นศาสนธรรม เทพเจ้าเห็นแล้วก็รัก) ส่วนประโยคที่ว่า “สิ่งนั้นเป็นศาสนธรรมเพราะเป็นที่รักของเทพเจ้า” หมายถึง สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ถูกเทพเจ้ารักสิ่งนั้นคือศาสนธรรม] คำตอบก็คือประโยคแรกที่ว่า “ศาสนธรรมเป็นที่รักของเทพเจ้าเพราะว่าเป็นศาสนธรรม” ไม่ใช่ประโยคที่ว่า “สิ่งนั้นเป็นศาสนธรรมเพราะเป็นที่รักของเทพเจ้า” เพราะศาสนธรรมไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อถูกเทพเจ้ารัก แต่ว่ามีเทพเจ้าไปรักมันเข้าต่างหาก พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ศาสนธรรมเป็นที่รักเพราะว่าเป็นศาสนธรรม ไม่ใช่ว่าสิ่งหนึ่งเป็นศาสนธรรมเพราะสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกรัก (ตรงนี้โสเครตีสยกตัวอย่างเปรียบเทียบ คือ การแบก/ถูกแบก และการเห็น/การถูกเห็น นั่นก็คือ การที่คนแบกอะไรหรือเห็นอะไร ไม่ใช่เพราะว่าสิ่งนั้นถูกกำหนดให้เป็นสิ่งที่ถูกแบกหรือถูกเห็น แต่เพราะมีคนไปแบกหรือไปเห็นมันเข้าต่างหาก)