Main resultsEleven trials were incl

Main results

Eleven trials were included. Statistical analyses were conducted on data from eight trials (1553 women). Five studies (582 women) on low incomes in the USA with typically low breastfeeding rates showed breastfeeding education had a significant effect on increasing initiation rates compared to standard care (risk ratio (RR) 1.57, 95% confidence interval (CI) 1.15 to 2.15, P = 0.005). Subgroup analyses showed that one-to-one, needs-based, informal repeat education sessions and generic, formal antenatal education sessions are effective in terms of an increase in breastfeeding rates among women on low incomes regardless of ethnicity and feeding intention. Needs-based, informal peer support in the antenatal and postnatal periods was also shown to be effective in one study conducted among Latina women who were considering breastfeeding in the USA (RR 4.02, 95% CI 2.63 to 6.14, P < 0.00001).
Authors' conclusions

This review showed that health education and peer support interventions can result in some improvements in the number of women beginning to breastfeed. Findings from these studies suggest that larger increases are likely to result from needs-based, informal repeat education sessions than more generic, formal antenatal sessions. These findings are based only on studies conducted in the USA, among women on low incomes with varied ethnicity and feeding intention, and this raises some questions regarding generalisability to other settings.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์หลักการทดลองที่สิบเอ็ดมาพร้อม วิเคราะห์ทางสถิติถูกดำเนินการบนข้อมูลจากแปดทดลอง (1553 ผู้หญิง) การศึกษาห้า (582 ผู้หญิง) กับรายได้ต่ำในสหรัฐอเมริกาด้วยราคาต่ำโดยทั่วไปให้นมลูกแสดงให้เห็นการศึกษาเลี้ยงลูกด้วยนมมีผลกระทบเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการดูแลมาตรฐานราคาเริ่มต้น (อัตราส่วนความเสี่ยง (RR) 1.57 ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 1.15 2.15, P = 0.005) การวิเคราะห์กลุ่มย่อยพบว่า ตัวต่อตัว ตามความต้องการ ไม่เป็นทางการทำซ้ำการที่ครรภ์ทั่วไป ทางการศึกษาและการศึกษาที่มีประสิทธิภาพในแง่ของการเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมในหมู่ผู้หญิงในรายได้ต่ำโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติและความตั้งใจในการให้อาหาร นอกจากนี้ยังแสดงสนับสนุนเพียร์ ตามความต้องการ ไม่เป็นทางการในระยะครรภ์ และหลังคลอดจะมีประสิทธิภาพในการดำเนินการในหมู่ผู้หญิงลาที่กำลังพิจารณาเลือกนมในสหรัฐอเมริกาศึกษา (RR 4.02, 95% CI 2.63 6.14, P < 0.00001)ข้อสรุปของผู้เขียนรีวิวนี้แสดงให้เห็นว่า การศึกษาสุขภาพและเพียร์สนับสนุนการแทรกแซงอาจทำให้ปรับปรุงในจำนวนผู้หญิงที่เริ่มต้นให้นมลูก ผลจากการศึกษานี้แนะนำว่า เพิ่มขนาดใหญ่มักจะเป็นผลมาจากเซสชันการศึกษาซ้ำ ตามความต้องการ ไม่เป็นทางการกว่าเซสชันครรภ์ทั่ว เป็นทางการ ผลการวิจัยเหล่านี้มาจากการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้หญิงในรายได้ต่ำมีหลากหลายเชื้อชาติและความตั้งใจ การให้อาหาร และเกิดคำถามเกี่ยวกับ generalisability การตั้งค่าอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลหลักสิบเอ็ดทดลองถูกรวม การวิเคราะห์ทางสถิติได้ดำเนินการกับข้อมูลจากการทดลองแปด (1553 หญิง) ห้าการศึกษา (582 หญิง) ที่มีรายได้ต่ำในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมมักจะต่ำแสดงให้เห็นว่าการศึกษาเลี้ยงลูกด้วยนมมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในการเพิ่มอัตราการเริ่มต้นเมื่อเทียบกับการดูแลมาตรฐาน (อัตราส่วนความเสี่ยง (RR) 1.57, 95% confidence interval (CI) 1.15-2.15 , P = 0.005) กลุ่มย่อยการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าหนึ่งต่อหนึ่งตามความต้องการ, การประชุมการศึกษาซ้ำทางการและทั่วไปการประชุมการศึกษาฝากครรภ์อย่างเป็นทางการจะมีประสิทธิภาพในแง่ของการเพิ่มขึ้นของอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมในกลุ่มผู้หญิงที่มีรายได้ต่ำไม่คำนึงถึงเชื้อชาติและความตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยนม ตามความต้องการการสนับสนุนเพียร์อย่างไม่เป็นทางการในระยะเวลาตั้งครรภ์และหลังคลอดก็แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการศึกษาดำเนินการในหมู่ผู้หญิง Latina ที่ได้รับการพิจารณาให้นมแม่ในสหรัฐอเมริกา (RR 4.02, 95% CI 2.63-6.14, p <0.00001). ผู้เขียน 'ข้อสรุปรีวิวนี้แสดงให้เห็นว่าการศึกษาสุขภาพและการแทรกแซงการสนับสนุนเพียร์จะส่งผลในการปรับปรุงบางส่วนในจำนวนของผู้หญิงที่เริ่มให้นมลูก ผลการวิจัยจากการศึกษาเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะเป็นผลมาจากความต้องการที่ใช้การประชุมการศึกษานอกระบบกว่าซ้ำทั่วไปประชุมฝากครรภ์เป็นทางการมากขึ้น การค้นพบเหล่านี้จะขึ้นเฉพาะในการศึกษาดำเนินการในประเทศสหรัฐอเมริกาในกลุ่มผู้หญิงที่มีรายได้ต่ำที่มีกลุ่มคนที่แตกต่างกันและความตั้งใจให้อาหารและสิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามบางประการเกี่ยวกับ generalisability การตั้งค่าอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์หลักการทดลอง 11 มี . สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการทดลองจำนวน 8 ( ผู้หญิง 1553 ) ห้าการศึกษา ( หญิง 582 ) มีรายได้น้อย ในสหรัฐอเมริกา มีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นมลูกน้อยมักจะมีการศึกษามีผลต่อการเพิ่มอัตราการเปรียบเทียบกับการดูแลมาตรฐาน ( อัตราส่วนความเสี่ยง ( RR ) 1.57 , ช่วงความเชื่อมั่น 95% ( CI ) 1.15 2.15 , P = 0.005 ) การวิเคราะห์กลุ่มย่อย พบว่า คน ความต้องการใช้ เซสชั่นการศึกษาย้ำแบบทั่วไป ภาคการศึกษา ตั้งอย่างเป็นทางการที่มีประสิทธิภาพในแง่ของการเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของหญิง มีรายได้น้อย โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ และให้อาหาร ความตั้งใจ ความต้องการตามเพื่อนสนับสนุนการศึกษาตามอัธยาศัยในการตั้งครรภ์และหลังคลอด ระยะเวลาก็แสดงผล ในการศึกษาดำเนินการในลาติน่า ผู้หญิงที่พิจารณาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในสหรัฐอเมริกา ( RR 4.02 , 95% CI 2.63 6.14 , P < 0.00001 )ข้อสรุปของผู้เขียนรีวิวนี้ พบว่า การศึกษา สุขภาพและการแทรกแซงเพื่อนสนับสนุนสามารถส่งผลในการปรับปรุงจำนวนผู้หญิงเริ่ม breastfeed ผลจากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะเป็นผลจากความต้องการใช้อย่างไม่เป็นทางการ ย้ำการศึกษาครั้งกว่าทั่วไปมากขึ้นอย่างเป็นทางการ จำนวนครั้ง การค้นพบนี้จะอยู่เฉพาะในการศึกษาในสหรัฐอเมริกา ระหว่างผู้หญิงมีรายได้น้อยกับชาติพันธุ์ที่หลากหลายและการให้ความตั้งใจ และทำให้เกิดคำถามบางอย่างเกี่ยวกับ generalisability การตั้งค่าอื่น ๆ