Bromelain from pineapple stem has b

Bromelain from pineapple stem has been studied in unexplored model wine buffer (pH 3.2 tartaric acid
and ethanol) in order to evaluate its applicability for white wine protein stabilization.
Bromelain proteolytic activity was studied against several synthetic peptide substrates in McIlvaine
buffer covering a wide pH range. Among different synthetic substrates, Bz-Phe-Val-Arg-pNA turned
out to be the most suitable one to test bromelain activity at the average minimum pH value of wine
(3.2). The protease activity was significantly increased by the presence of 5 mM cysteine while no influence
was exerted by EDTA. The inhibiting effect of ethanol was investigated in the range 0–25% (v/v),
resulting in being rather limited at the average minimum concentration found in wine (10% v/v).
The kinetic parameters were estimated in both McIlvaine (as reference) and model wine buffers. This
study showed that stem bromelain worked well at the average minimum pH value of wine, and had a
significantly higher activity in model wine buffer (Ka increased of 42%). These results are the basis for suggesting
a future biotechnological application of this protease in winemaking.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บรอมีเลนจากสับปะรดก้านได้รับการศึกษาในการสังเกตรูปแบบไวน์บัฟเฟอร์ (pH 3.2 กรดฟอร์และเอทานอล) เพื่อประเมินความเกี่ยวข้องของการสั่นโปรตีนไวน์ขาวเป็นศึกษากิจกรรมย่อยโปรตีน Bromelain กับเปปไทด์สังเคราะห์พื้นผิวต่าง ๆ ใน McIlvaineบัฟเฟอร์ที่ครอบคลุมช่วง pH กว้าง ระหว่างพื้นผิวสังเคราะห์ต่าง ๆ Bz-เพ-Val-อาร์กิวเมนต์ของค่า-pNA เปิดออกมาเหมาะสมสุดในการทดสอบกิจกรรมบรอมีเลนที่ค่า pH ต่ำสุดเฉลี่ยของไวน์(3.2) เพิ่มกิจกรรมโปรติเอส โดยการปรากฏตัวของ cysteine 5 มม.ในขณะที่ไม่มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญแก้ไขนั่นเอง โดย EDTA ผลยับยั้งของเอทานอลถูกสอบสวนในช่วง 0 – 25% (v/v),เกิดขึ้นในค่อนข้างจำกัดที่ค่าเฉลี่ยความเข้มข้นต่ำสุดที่พบในไวน์ (10% v/v)พารามิเตอร์การเคลื่อนไหวที่ถูกประเมินใน McIlvaine (ตามที่อ้างอิง) และบัฟเฟอร์แบบไวน์ นี้การศึกษาพบว่า bromelain ต้นกำเนิดทำงานที่ค่า pH ต่ำสุดเฉลี่ยของไวน์ และมีการอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่ากิจกรรมในรูปแบบไวน์บัฟเฟอร์ (Ka ที่เพิ่มขึ้น 42%) ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นพื้นฐานสำหรับการแนะนำโปรแกรมประยุกต์ในอนาคตกับการประโปรติเอสนี้ในการทำไวน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Bromelain จากลำต้นสับปะรดได้รับการศึกษาในบัฟเฟอร์รุ่นไวน์สำรวจ (pH 3.2 กรดทาร์ทาริก
และเอทานอล) เพื่อประเมินการบังคับใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพโปรตีนไวน์ขาว.
กิจกรรมโปรตีน Bromelain ได้ศึกษากับหลายพื้นผิวเปปไทด์สังเคราะห์ใน McIlvaine
บัฟเฟอร์ครอบคลุมช่วงค่า pH กว้าง . ท่ามกลางพื้นผิวสังเคราะห์ที่แตกต่างกัน Bz เพ-Val-Arg-PNA เปิด
ออกมาเป็นหนึ่งที่เหมาะสมที่สุดในการทดสอบกิจกรรม Bromelain ที่ค่าพีเอชต่ำสุดเฉลี่ยไวน์
(3.2) กิจกรรมโปรติเอสเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการปรากฏตัวของ 5 มิลลิ cysteine ในขณะที่ไม่มีอิทธิพล
ได้รับการกระทำโดย EDTA ผลการยับยั้งของเอทานอลได้รับการตรวจสอบในช่วง 0-25% (v / v),
ผลในการถูกค่อนข้าง จำกัด ที่เข้มข้นต่ำสุดเฉลี่ยพบในไวน์ (10% v / v).
พารามิเตอร์การเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณทั้งใน McIlvaine ( เป็นข้อมูลอ้างอิง) และรูปแบบบัฟเฟอร์ไวน์ นี้
การศึกษาพบว่าต้นกำเนิด Bromelain ทำงานได้ดีที่ค่าพีเอชเฉลี่ยต่ำสุดของไวน์และมี
กิจกรรมที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในบัฟเฟอร์รุ่นไวน์ (Ka เพิ่มขึ้น 42%) ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นพื้นฐานสำหรับการแนะนำ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพในอนาคตของโปรติเอสในการผลิตไวน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Bromelain จากต้นสับปะรดได้รับการศึกษาในบัฟเฟอร์ pH 3.2 ไวน์รุ่น unexplored กรดทาร์ทาริกและเอทานอล ) เพื่อประเมินการใช้โปรตีนเสถียรภาพของไวน์ขาวกิจกรรมเอนไซม์จำเพาะต่อเปปไทด์สังเคราะห์ได้ศึกษาใน mcilvaine หลายพื้นผิวบัฟเฟอร์ pH ครอบคลุมกว้างช่วง ระหว่างพื้นผิวสังเคราะห์แตกต่างกัน BZ เพวอลตัน PNA เปิดออกเพื่อให้เหมาะสมที่สุด เพื่อทดสอบฤทธิ์เอนไซม์ที่เฉลี่ยต่ำสุด ค่า pH ของไวน์( 3.2 ) การสร้างกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยการแสดงตนของซีสเตอีน 5 มม. ในขณะที่ไม่มีอิทธิพลถูกกระทําโดย EDTA โดยยับยั้งผลของแอลกอฮอล์ถูกสอบสวนในช่วง 0 - 25 % ( v / v )ซึ่งเป็นค่อนข้าง จำกัด ในความเข้มข้นที่พบในไวน์ ( เฉลี่ยขั้นต่ำ 10 % v / v )ค่าพารามิเตอร์จลน์ประมาณได้ทั้งใน mcilvaine ( อ้างอิง ) และบัฟเฟอร์ของไวน์แบบ นี้การศึกษาพบว่า เอนไซม์ทำงานได้ดี ลำต้นที่ค่าเฉลี่ยต่ำสุดค่า pH ของไวน์ และมีกิจกรรมสำคัญในไวน์แบบบัฟเฟอร์ ( คา เพิ่มขึ้น 42 % ) ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นพื้นฐานสำหรับการแนะนำอนาคตเทคโนโลยีชีวภาพการประยุกต์ใช้โปรตีนนี้ในการผลิตไวน์ .