Hardware-based systems (da Vinci 2K

Hardware-based systems (da Vinci 2K, Pandora International MegaDEF, etc.) have historically offered better performance and a smaller feature set than software-based systems. Their real time performance was optimised to particular resolution and bit depths, as opposed to software platforms using standard computer industry hardware that often trade speed for resolution independence, e.g. Apple's Color (previously Silicon Color Final Touch), ASSIMILATE SCRATCH, Adobe SpeedGrade and SGO Mistika. While hardware-based systems always offer real-time performance, some software-based systems need to render as the complexity of the color grading increases. On the other hand, software-based systems tend to have more features such as spline-based windows/masks and advanced motion tracking.

The line between hardware and software is blurring as many software-based color correctors (e.g.Pablo [1], Mistika, SCRATCH [2], Autodesk Lustre, Nucoda Film Master and Filmlight Baselight) use multi processor workstations and a GPU (graphics processing unit) as a means of hardware acceleration. As well, some newer software-based systems use a cluster of multiple parallel GPUs on the one computer system to improve performance at the very high resolutions required for feature film grading. e.g. Blackmagic Designs DaVinci Resolve. Some color grading software like Synthetic Aperture's Color Finesse runs solely as software and will even run on low-end computer systems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบบฮาร์ดแวร์ (ดาวินชี 2K แพนโดร่าอินเตอร์เนชั่นแนล MegaDEF ฯลฯ) ได้นำเสนอประวัติคุณลักษณะมีขนาดเล็กกว่าระบบซอฟต์แวร์การตั้งค่าและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ผลเวลาจริงคือปรับให้เฉพาะความละเอียดและความลึกบิต ตรงข้ามกับแพลตฟอร์มโดยใช้ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มาตรฐานอุตสาหกรรมที่มักจะค้าความเร็วสำหรับความละเอียดเอกราช เช่นของ Apple (ก่อนหน้านี้ซิลิคอนสีสุดท้ายแตะ) สี ดูดซึมรอยขีดข่วน Adobe SpeedGrade และ SGO Mistika ระบบฮาร์ดแวร์จะ มีประสิทธิภาพการทำงานแบบเรียลไทม์ บางระบบซอฟต์แวร์ต้องแสดงเป็นความซับซ้อนของการปรับระดับเพิ่มสี บนมืออื่น ๆ ระบบซอฟต์แวร์มักจะ มีคุณสมบัติเพิ่มเติมเช่นสลัก windows/หน้ากาก และติดตามการเคลื่อนไหวขั้นสูงเบลอเส้นแบ่งระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เป็นจำนวนมากใช้ซอฟต์แวร์สี correctors (e.g.Pablo [1], Mistika รอยขีดข่วน [2], เงา Autodesk มาสเตอร์ฟิล์ม Nucoda และ Filmlight Baselight) ใช้หลายตัวประมวลผลเวิร์กสเตชัน และ GPU (หน่วยประมวลผลกราฟิก) เป็นวิธีการเร่งด้วยฮาร์ดแวร์ เป็นอย่างดี ระบบซอฟต์แวร์บางรุ่นใหม่ใช้คลัสเตอร์ของ Gpu หลายขนานบนระบบคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพความละเอียดสูงที่จำเป็นสำหรับการวัดผลคุณลักษณะฟิล์มที่ เช่น Blackmagic แบบดาวินชี่แก้ ปรับระดับซอฟต์แวร์เช่นกลเม็ดเด็ดพรายสีสังเคราะห์แสงบางสีเท่าซอฟต์แวร์ และแม้จะทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ต่ำการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระบบฮาร์ดแวร์ที่ใช้ (da Vinci 2K แพนดอร่านานาชาติ MegaDEF ฯลฯ ) ได้นำเสนอผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและชุดคุณลักษณะที่มีขนาดเล็กกว่าระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้ในอดีต เวลาการทำงานของพวกเขาจริงถูกปรับให้เหมาะสมที่จะมีมติและบิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งความลึกเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ใช้ฮาร์ดแวร์อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์มาตรฐานที่มักค้าความเร็วเพื่อความเป็นอิสระความละเอียดเช่นแอปเปิ้ลสี (ก่อนหน้านี้ซิลิโคนสีสุดท้ายสัมผัส), ดูดซึมรอยขีดข่วน Adobe SpeedGrade และ SGO ของ Sinrise . ในขณะที่ระบบฮาร์ดแวร์ที่ใช้มักจะนำเสนอผลการดำเนินงานแบบ real-time บางระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้ต้องทำให้เป็นความซับซ้อนของการจัดลำดับสีเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้ามระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้มักจะมีคุณสมบัติอื่น ๆ เช่นหน้าต่างโค้งตาม / หน้ากากและการติดตามการเคลื่อนไหวขั้นสูง.

เส้นแบ่งระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำให้เปรอะเปื้อนซอฟต์แวร์ที่ใช้ correctors สีเป็นจำนวนมาก (egPablo [1] ของ Sinrise, SCRATCH [2], Autodesk Lustre, Nucoda ฟิล์มมาสเตอร์และ Filmlight Baselight) ใช้หน่วยประมวลผลหลายเวิร์กสเตชันและหน่วย GPU (ประมวลผลกราฟิก) เป็นวิธีการเร่งฮาร์ดแวร์ เช่นเดียวกับบางระบบใหม่ซอฟต์แวร์ที่ใช้ใช้กลุ่มของ GPUs ขนานหลายในระบบคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานที่ความละเอียดสูงมากที่จำเป็นสำหรับการจัดลำดับภาพยนตร์สารคดี เช่น Blackmagic Designs DaVinci แก้ไข บางซอฟแวร์สีเกรดสังเคราะห์เช่นรูรับแสงสี Finesse ทำงาน แต่เพียงผู้เดียวเป็นซอฟแวร์และแม้จะทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ต่ำสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฮาร์ดแวร์ที่ใช้ระบบ ( ดา วินชี 2K , แพนโดร่าอินเตอร์เนชั่นแนล megadef ฯลฯ ) ในอดีตมีการเสนอประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและมีชุดคุณลักษณะกว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้ระบบนี้ แสดงเวลาจริงของพวกเขาที่ดีที่สุดเพื่อความละเอียดที่เฉพาะเจาะจงและบิตลึก เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์โดยใช้มาตรฐานอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ที่มักจะค้าความเร็วสำหรับความเป็นอิสระความละเอียดก็เช่นแอปเปิ้ลสี ( ก่อนหน้านี้ซิลิคอนสีสัมผัสสุดท้าย ) , assimilate รอยขีดข่วน , และ Adobe speedgrade SGO mistika . ในขณะที่ฮาร์ดแวร์ที่ใช้ระบบให้ประสิทธิภาพเรียลไทม์ซอฟต์แวร์บางระบบที่ใช้ต้องแสดงเป็น ความซับซ้อนของระดับสีเพิ่มขึ้น บนมืออื่น ๆ , ซอฟต์แวร์ที่ใช้ระบบนี้มักจะมีคุณลักษณะเพิ่มเติมเช่นสลักที่ใช้ Windows / หน้ากากและติดตามการเคลื่อนไหวขั้นสูงเส้นระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะเบลอเป็นซอฟต์แวร์ตามจํานวนมาก correctors สี ( e.g.pablo [ 1 ] , [ 2 ] mistika , รอยขีดข่วน , Autodesk ความมันวาว และปริญญาโทภาพยนตร์ nucoda filmlight baselight ) ใช้มัลติโปรเซสเซอร์และประสิทธิภาพ GPU ( หน่วยประมวลผลกราฟิก ) เป็นวิธีการของการเร่งฮาร์ดแวร์ เช่น ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่ใช้ระบบใช้คลัสเตอร์หลายขนาน GPUs ในหนึ่งระบบคอมพิวเตอร์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพที่จำเป็นสำหรับภาพยนตร์ความละเอียดสูงมาก คะแนน เช่น แบล็กเมจิกออกแบบพิเศษช่วยแก้ไข สีเกรดซอฟต์แวร์เช่นรูรับแสงสังเคราะห์สี Finesse วิ่งแต่เพียงผู้เดียวเป็นซอฟต์แวร์และจะทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ low-end