It’s the classic “either/or” propos

It’s the classic “either/or” proposition in manufacturing settings, where assembly practices generally follow one of two tracks: job or process. The difference between the two is the ability to trace input costs to finished goods. A manufacturing process that requires specific amounts of raw materials and labor to complete a unit is the job method. With job costing, the amount of raw materials and labor placed into production can be traced or specifically identified to the finished good.
A process method, on the other hand, involves the manufacture of large or mass quantities of identical units and is more complex because specific amounts of raw materials and labor can’t be traced to finished goods. In a process manufacturing environment, raw materials, labor, and overhead placed into production need to be allocated to inventory. Given the difference in the ability to trace input costs of these two methods, the valuations

The most significant use
for standards is as a strategic
cost management tool, an
approach that’s either ignored
or limited to a description in
most textbooks
of work-in-process and finished goods inventories differ significantly.
The topic of process costing as often presented in text- books is simplified and doesn’t reflect industry practice. The primary difference is the textbook assumption that actual costs incurred each month are reflected in valuing inventory and cost of goods sold. In practice, predetermined standard costs not actual one are used. Valuation and costing are important aspects when discussing standards. But potentially the most significant use for standards is as a strategic cost management tool, an approach that’s either ignored or limited to a description in most textbooks. Thus, many management accountants are untrained or

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันคลาสสิก "ทั้ง / หรือ" ข้อเสนอในการตั้งค่าการผลิตที่ประกอบการปฏิบัติทั่วไปตามหนึ่งในสองแทร็ค: งานหรือกระบวนการ ความแตกต่างระหว่างทั้งสองคือความสามารถในการติดตามค่าใช้จ่ายในการป้อนข้อมูลให้สินค้าสำเร็จรูป กระบวนการผลิตที่ต้องใช้จำนวนที่เฉพาะเจาะจงของวัตถุดิบและแรงงานเพื่อให้หน่วยงานที่เป็นวิธีการ กับงานต้นทุนปริมาณของวัตถุดิบและแรงงานที่อยู่ในการผลิตสามารถตรวจสอบหรือระบุเฉพาะที่เสร็จสมบูรณ์ดี.
วิธีการกระบวนการในมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตในปริมาณมากหรือมวลของหน่วยเหมือนกันและมีความซับซ้อนมากขึ้นเพราะจำนวนเงินที่เฉพาะเจาะจงของ วัตถุดิบและแรงงานไม่สามารถโยงไปถึงสินค้าสำเร็จรูป ในสภาพแวดล้อมที่กระบวนการผลิตวัตถุดิบแรงงานและค่าใช้จ่ายที่วางไว้ในการผลิตจะต้องมีการจัดสรรให้กับสินค้าคงคลัง ให้ความแตกต่างในความสามารถในการติดตามค่าใช้จ่ายในการป้อนข้อมูลของทั้งสองวิธีการประเมินมูลค่า

ใช้ที่สำคัญที่สุด
สำหรับมาตรฐานเป็นเครื่องมือ
การบริหารต้นทุนเชิงกลยุทธ์
วิธีการที่ทั้งละเว้น
หรือ จำกัด ให้คำอธิบายใน
มากที่สุด ตำรา
ของสินค้าที่การทำงานในขั้นตอนการดำเนินการเสร็จสิ้นและสินค้าคงเหลือที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
หัวข้อของกระบวนการต้นทุนมักจะนำเสนอในข้อความหนังสือจะง่ายและไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติอุตสาหกรรม ความแตกต่างหลักคือตำราสมมติฐานว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละเดือนจะมีผลต่อมูลค่าสินค้าคงคลังและค่าใช้จ่ายของสินค้าที่ขาย ในทางปฏิบัติค่าใช้จ่ายที่กำหนดไว้ไม่ได้มาตรฐานอย่างใดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจริงจะมีการใช้ การประเมินค่าและต้นทุนเป็นสำคัญเมื่อพูดถึงมาตรฐาน แต่อาจมีการใช้งานอย่างมีนัยสำคัญมากที่สุดสำหรับมาตรฐานเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายเชิงกลยุทธ์วิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งที่ละเลยหรือถูก จำกัด ให้คำอธิบายในตำรามากที่สุด ดังนั้นการจัดการบัญชีหลายได้รับการฝึกฝนหรือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นคลาสสิก "อย่างใดอย่างหนึ่ง / หรือ" ข้อเสนอในการผลิตการตั้งค่า การทำที่แอสเซมบลีที่ปฏิบัติโดยทั่วไปตามสองเพลง: งานหรือกระบวนการ ความแตกต่างระหว่างสองคือ ความสามารถในการติดตามต้นทุนนำเข้าสินค้าสำเร็จรูป กระบวนการผลิตที่ต้องยอดเฉพาะของวัตถุดิบและแรงงานการทำหน่วย เป็นวิธีการงาน ด้วยงานการคิดต้นทุน จำนวนวัตถุดิบและแรงงานที่อยู่ในการผลิตสามารถติดตาม หรือระบุโดยเฉพาะการเสร็จสมบูรณ์ดี
กระบวนการวิธีการ ในทางกลับกัน เกี่ยวข้องกับการผลิตขนาดใหญ่ หรือขนาดใหญ่ปริมาณของหน่วยที่เหมือนกัน และมีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากจำนวนวัตถุดิบและแรงงานเฉพาะไม่สามารถติดตามสินค้าสำเร็จรูปได้ ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบ แรงงาน และค่าโสหุ้ยที่วางเป็นต้องปันส่วนสินค้าคงคลัง กำหนดความแตกต่างของความสามารถในการติดตามต้นทุนเข้าสองวิธี การประเมินค่า

ใช้สำคัญที่สุด
สำหรับมาตรฐานเป็นกลยุทธ์
บริหารต้นทุน การ
วิธีที่จะละเว้น
หรือจำกัดคำอธิบายใน
ตำราส่วนใหญ่
งานการทำ และสำเร็จรูป สินค้า คงต่างอย่างมีนัยสำคัญ
ในหัวข้อของกระบวนการคิดต้นทุนที่มักจะนำเสนอในหนังสือข้อความถูก และไม่สะท้อนการปฏิบัติอุตสาหกรรม ข้อแตกต่างหลักคือ ตำราสมมติฐานว่า ต้นทุนจริงที่เกิดขึ้นแต่ละเดือนจะส่งผลในการกำหนดค่าสินค้าคงคลัง และต้นทุนสินค้าขาย ในทางปฏิบัติ กำหนดการทุนมาตรฐานไม่จริงหนึ่งใช้ ประเมินค่าและการคิดต้นทุนสำคัญเมื่อสนทนามาตรฐาน แต่อาจใช้มาตรฐานสำคัญที่สุดคือเป็นเครื่องต้นทุนเชิงกลยุทธ์บริหารมือ วิธีการที่มีละเว้น หรือจำกัดคำอธิบายในตำราส่วนใหญ่ จึง ในจัดการบัญชีจะฝึกฝน หรือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเป็นแบบคลาสสิคที่"/หรือ"ข้อเสนอในการผลิตการตั้งค่าสถานที่ซึ่งการปฏิบัติโดยทั่วไปแล้วชุดหนึ่งในสองเพลงงานหรือกระบวนการ ความแตกต่างระหว่างสองที่มีความสามารถที่จะแกะต้นทุนในการก่อสร้างเสร็จแล้ว ขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากเฉพาะของแรงงานและการที่ราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการทำชุดที่เป็นวิธีการทำงานให้ พร้อมด้วยคิดค่าใช้จ่ายสำหรับงานจำนวนของแรงงานและการที่ราคาวัตถุดิบที่ใช้เข้าไปในในการผลิตจะสามารถตรวจสอบได้หรือระบุไว้เป็นการเฉพาะเพื่อที่ดีแล้ว.
วิธีการกระบวนการในอีกด้านหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการผลิตในปริมาณมากหรือ Mass ของชุดเหมือนกันและมีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากจำนวนของแรงงานและการที่ราคาวัตถุดิบที่ใช้ไม่ได้ถูกตรวจสอบมายังก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใน สภาพแวดล้อม การผลิตกระบวนการที่วัตถุดิบค่าใช้จ่ายด้านแรงงานและเข้าสู่การผลิตจะต้องจัดสรรให้กับสินค้าคงคลัง ให้ความแตกต่างในความสามารถในการตรวจสอบต้นทุนราคาของทั้งสองวิธีใดวิธีหนึ่ง,ที่ดิน

ที่สำคัญที่สุดใช้
ซึ่งจะช่วยให้มีมาตรฐานเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์
ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการจัดการเครื่องมือ,
ซึ่งจะช่วยให้การว่าของไม่สนใจ
หรือจำกัด(มหาชน)ในการให้รายละเอียดมากที่สุดใน

ตำราในการทำงาน - ในกระบวนการและสินค้าสำเร็จรูปสินค้าคงคลังแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด หัวข้อ
อยู่ในกระบวนการจดทะเบียนในข้อความ - หนังสือมักจะได้ง่ายและไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติในอุตสาหกรรม ความแตกต่างหลักเป็นการสันนิษฐานหนังสือเรียนที่ต้นทุนที่แท้จริงเกิดขึ้นแต่ละเดือนจะมีผลในราคาต้นทุนสินค้าคงคลังและของสินค้าที่จำหน่าย ในการปฏิบัติมาตรฐานกำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งค่าใช้จ่ายไม่ใช่หนึ่งมีการใช้จริง และการประเมินมูลค่าเงินลงทุนมีแง่มุมที่สำคัญในการพิจารณามาตรฐาน แต่อาจทำให้เกิดความเสียหายส่วนใหญ่จะใช้อย่างมีนัยสำคัญที่เป็นมาตรฐานคือเป็นเครื่องมือการบริหารต้นทุนทางยุทธศาสตร์ที่วิธีการที่ของไม่สนใจหรือจำกัด(มหาชน)ในรายละเอียดในตำรามากที่สุด ดังนั้นนักบัญชีการจัดการจำนวนมากหรือมีผู้เคยได้รับ