ฉันไม่แน่ใจว่าที่ฉันสื่อสารกับคุณจะมีอะไรที่คุณกับฉันเข้าใจกันทุกอย่างตรงกันหรือเปล่า ฉันขอบอกเพื่อให้คุณได้เข้าใจทุกอย่างอีกครั้ง ฉันเคยแต่งงานมาแล้วใช้ชีวิตร่วมกันสองปีมีลูกสาวหนึ่งคน แต่ด้วยการที่เราแต่งงานกันมาจากความเห็นชอบของผู้ใหญ่ไม่ได้เกิดจากความรู้สึกว่าเรารักกันก็เลยอาจจะทำให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เราแยกกันอยู่มาหกปีกว่าแล้วแต่...ผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งก็ยังเข้าใจว่าเรารักกันดีที่แยกกันเพราะสาเหตุของการทำงาน ดังนั้นเขาก็ยังเป็นที่ยอมรับของคนในครอบครัวของฉัน เขาจะมาเยี่ยมฉันกับลูกประมาณปีละสองครั้งแต่ในเรื่องของความสัมพันธ์เราไม่ได้มีอะไรกัน แต่เขาก็ยังถือได้ว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ฉันไม่รู้จะบอกกับคุณยังไงสถานภาพของฉันมันไม่ชัดเจน พ่อกับแม่คาดหวังในชีวิตคู่ของฉันมากเพราะท่านเป็นคนกำหนดในเรื่องราวชีวิตแต่งงานของฉัน บางครั้งฉันก็ไม่ได้มีความสุขในทุกเรื่องที่ท่านเลือกให้แต่ฉันไม่อยากให้ท่านทั้งสองไม่สบายใจและท่านทั้งสองก็แก่มากแล้วมีโรคภัยรุมเร้ามากมาย ฉันก็เลยต้องทำในสิ่งที่คิดว่าท่านทั้งสองมีความสุข ฉันผิดมากไหมที่ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่มีพระคุณกับฉันได้มีความสุข ฉันบอกกับคุณขนาดนี้แล้วคุณยังคิดว่าฉันยังเหมาะและคู่ควรกับแหวน รองเท้า และน้ำหอม ที่คุณอยากมอบให้หรือเปล่า ฉันไม่โทษหากคุณจะรู้สึกโกรธฉันแต่...ฉันขอร้องอย่าเกลียดฉันที่ฉันพูดความจริงเลย วันนี้ฉันอาจจะคุยเยอะเพราะฉันเกรงว่าคุณอาจจะไม่ตอบรับข้อความฉันอีก อย่างน้อยฉันก็ขอบอกความรู้สึกกับคุณแม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้อยากรับรู้เลย ฉันรู้สึกดีมากที่ได้รู้จักกับคุณอาจเป็นเพราะว่าฉันไม่ค่อยได้รับความดูแลห่วงใยเอาใจใส่จากใครมาก่อนโดยมากก็จะเป็นฉันที่ต้องแคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่า ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเจอคุณแต่...ถ้าหากเราเจอกันมันจะมีประโยชน์อะไรที่ฉันไม่สามารถแนะนำกับทุกคนในครอบครัวของฉันว่าคุณคือคนที่ฉันรัก ฉันคงจะอดเป็นห่วงคุณไม่ได้ในทุกเรื่อง อาหาร ที่พัก การใช้ชีวิตประจำวัน ฉันไม่รู้ว่าคุณเคยมาที่เมืองไทยหรือเปล่าที่นี่ตอนนี้อากาศร้อนมาก เมืองที่ฉันอยู่ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากนักถ้าคุณมามันก็ไม่คุ้มค่ากับการเดินทางของคุณ คุณก็เที่ยวได้ไม่เต็มที่ฉันอยากให้คุณได้รับความประทับใจจากเมืองไทยกลับไปมากกว่า ส่วนฉันเองก็มีเวลาว่างแค่ในช่วงเที่ยงถึงช่วงค่ำและวันหยุดเสาร์อาทิตย์เท่านั้นเพราะฉันต้องรับผิดชอบงานประจำที่ทำอยู่ไม่รู้ว่าจะดูแลคุณได้ดีแค่ไหน ไม่รู้ว่าจะพาคุณไปเที่่ยวที่ไหนให้คุณพอใจ อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณจะไม่ตอบรับมิตรภาพของฉันแล้วแต่ฉันอยากจะบอกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาฉันมีความสุขมากแม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเหมือนมีใครมาคอยเข้าใจในความรู้สึกของฉัน...ฉันเข้าใจดีค่ะแต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป ฉันไม่อาจเป็นคนเห็นแก่ตัวที่อยากให้คุณอยู่ข้างๆทั้งๆที่สถานภาพของตัวเองไม่ชัดเจนแต่ถ้าหากว่าวันไหนที่คุณต้องการคนที่คุยด้วยอย่างเข้าใจฉันก็พร้อมเสมอไม่ว่าจะในสถานภาพใดก็ตาม ฉันจะคิดถึงคุณตลอดไปค่ะมาร์ติน แม้นว่าฉันอาจจะเคยถูกบังคับทางด้านร่างกายแต่ฉันรู้ว่าจิตใจของฉันไม่มีใครสามารถบังคับฉันได้ ฉันแน่ใจอย่างนั้นจริงๆImipramine was, in the late 1950s, the first tricyclic antidepressant to be developed (by Ciba). At the first international congress of neuro-pharmacology in Rome, September 1958 Dr Freyhan from the University of Pennsylvania, USA, discussed as one of the first clinicians the effects of imipramine in a group of 46 patients, most of them were diagnosed as 'depressive psychosis'. The patients were selected for this study based on symptoms such as depressive apathy, kinetic retardation and feelings of hopelessness and despair. In 30% of all patients he reported 'optimal results and in around 20% failure. The side effects noted were classified as ' atropine-like and most patients suffered from dizziness. Imipramine was first tried against psychotic disorders, such as schizophrenia, but proved insufficient. As an antidepressant, it did well in clinical studies and it is known to work well in even the most severe cases of depression.[3] It is not surprising, therefore, that Imipramine is also known to cause a high rate of manic and hypomanic reactions, especially in patients with preexisting bipolar disorder. It is estimated that up to 25% of such patients maintained on Imipramine will switch into mania or hypomania.[4] Such powerful antidepressant properties have made it favorable in the treatment of treatment-resistant depression.
At the advent of SSRIs, its sometimes intolerable side-effect profile became more tolerable. Therefore, it became extensively used as a standard antidepressant and later served as a prototypical drug for the development of the later-released tricyclics. It is not as commonly used today, but is sometimes used to treat major depression as a second-line treatment. It has also seen limited use in the treatment of migraines, ADHD, and post concussive syndrome. Imipramine has additional indications for the treatment of panic attacks, chronic pain, and Kleine-Levin syndrome. In pediatric patients, it is relatively frequently used to treat pavor nocturnus and nocturnal enuresis.
เราแยกกันอยู่มาหกปีกว่าแล้วแต่รองเท้าและน้ำหอมฉันไม่โทษหากคุณจะรู้สึกโกรธฉัน แต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเจอคุณ แต่อาหารที่พักการใช้ชีวิตประจำวันฉันจะคิดถึงคุณตลอดไปค่ะมาร์ติน ฉันแน่ใจอย่างนั้นจริงๆคือ imipramine,ในปลายปี 1950, tricyclic ยากล่อมประสาทก่อนที่จะพัฒนา (โดย CIBA) ครั้งแรกที่งานประชุมนานาชาติของระบบประสาทเภสัชวิทยาใน rome, กันยายน 1958 ดร. freyhan จาก University of Pennsylvania, USA กล่าวว่าเป็นหนึ่งในแพทย์แรกผลกระทบของ imipramine ในกลุ่มผู้ป่วยจาก 46 ส่วนใหญ่ของพวกเขาได้รับการวินิจฉัยว่า 'ซึมเศร้า โรคจิต 'ผู้ป่วยที่ได้รับการคัดเลือกในการศึกษานี้ขึ้นอยู่กับอาการต่าง ๆ เช่นความไม่แยแสซึมเศร้าชะลอการเคลื่อนไหวและความรู้สึกของความสิ้นหวังและสิ้นหวัง ใน 30% ของผู้ป่วยทั้งหมดที่เขารายงานผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและความล้มเหลวในรอบ 20% ผลข้างเคียงที่ระบุไว้ถูกจัดเป็น 'atropine เหมือนและผู้ป่วยส่วนใหญ่ทุกข์ทรมานจากอาการวิงเวียนศีรษะ imipramine ก็พยายามครั้งแรกกับความผิดปกติทางจิต,เช่นจิตเภท แต่พิสูจน์ไม่เพียงพอ เป็นยากล่อมประสาทมันได้เป็นอย่างดีในการศึกษาทางคลินิกและเป็นที่รู้จักกันทำงานได้ดีแม้ในกรณีที่รุนแรงที่สุดของภาวะซึมเศร้า. [3] มันไม่น่าแปลกใจดังนั้น imipramine ที่เป็นที่รู้จักกันที่จะทำให้เกิดอัตราที่สูงจากความคลั่งไคล้และ hypomanic ปฏิกิริยาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีโรคสองขั้วมาก่อนมันเป็นที่คาดว่าสูงถึง 25% ของผู้ป่วยเช่นการบำรุงรักษา imipramine จะเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่งหรือ hypomania. [4] เช่นคุณสมบัติของยากล่อมประสาทที่มีประสิทธิภาพได้ทำให้มันเป็นที่ชื่นชอบในการรักษาภาวะซึมเศร้าการรักษาที่ทน.
ที่แอดเวนต์ของ SSRIs ของมัน รายละเอียดผลข้างเคียงมากเกินไปบางครั้งก็กลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ดังนั้นมันก็กลายเป็นใช้อย่างกว้างขวางในฐานะที่เป็นมาตรฐานยากล่อมประสาทและต่อมาก็กลายเป็นยาแม่บทสำหรับการพัฒนาของ tricyclics ต่อมาได้รับการปล่อยตัว ยังไม่ได้นำมาใช้เป็นปกติในวันนี้ แต่บางครั้งก็ใช้ในการรักษาภาวะซึมเศร้าที่สำคัญเช่นการรักษาบรรทัดที่สอง มันยังได้เห็นการ จำกัด การใช้ในการรักษาไมเกรน, สมาธิสั้นและโพสต์ซินโดรมดังสนั่นหวั่นไหวimipramine มีข้อบ่งชี้ที่เพิ่มขึ้นสำหรับการรักษาของการโจมตีเสียขวัญ, อาการปวดเรื้อรังและโรค Kleine-Levin ในผู้ป่วยเด็กจะค่อนข้างใช้บ่อยในการรักษา nocturnus pavor และ enuresis ออกหากินเวลากลางคืน.
การแปล กรุณารอสักครู่..