The collodion baby is a descriptive

The collodion baby is a descriptive term for the infant who is born encased in a tight shiny membrane that resembles plastic wrap. The collodion baby is not a disease entity but is the first expression of some forms of ichthyosis.

The collodion membrane cracks and peels over the course of several weeks. The tightness of the membrane may cause the eyelids to turn out revealing the pink inner lid; a condition called ectropion. Eclabium, the turning out of the lips due to the tightness of the membrane, may accompany the ectropion, and may cause difficulties with nursing. When the membrane is completely shed the infant may display one of several ichthyosis skin types. Congenital ichthyosiform erythroderma (CIE) and lamellar ichthyosis are the most commonly seen forms of ichthyosis presenting with a collodion membrane. However, the membrane may also be present in Netherton syndrome and other very rare forms of ichthyosis, and is always present with harlequin ichthyosis. A small percentage of infants shed the membrane and never display any other skin involvement; a phenomenon called “self-healing collodion baby.”

Collodion babies are at high risk of some complications. The cracking and peeling of the membrane increases the risk of infection from microorganisms. These infants are also at risk for fluid loss, dehydration, electrolyte imbalance, body temperature instability, and pneumonia. Collodion babies should be placed in a high humidity chamber, and monitored closely for complications. A high humidity environment will allow slow, gradual sloughing off of the membrane. The membrane will come off on its own and should not be peeled off. Application of mild petroleum-based moisturizers may help the infant feel more comfortable while the membrane is peeling off.

A consult with a pediatric dermatologist will be necessary to determine which form of ichthyosis is present, if any. (Contact FIRST for a referral to a dermatologist familiar with ichthyosis.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เด็กกระจกเปียกเป็นคำอธิบายสำหรับทารกที่คลอด encased ในเมมเบรนเงาแน่นที่ห่อพลาสติก เด็กกระจกเปียกไม่เอนทิตีเป็นโรค แต่เป็นนิพจน์แรกของของ ichthyosisเยื่อกระจกเปียกรอยแตก และมักหลุดลอกในช่วงหลายสัปดาห์ ความรัดกุมของเมมเบรนอาจทำให้เปลือกตาเปิดออกเผยให้เห็นภายในฝาสีชมพู สภาพที่เรียกว่า ectropion Eclabium เปลี่ยนจากริมฝีปากจากความรัดกุมของเมมเบรน อาจพร้อม ectropion และอาจทำให้เกิดปัญหากับพยาบาล เมื่อทั้งหมดมีหลั่งเยื่อเด็กทารกอาจแสดงหลาย ichthyosis ผิวชนิดใดชนิดหนึ่ง Ichthyosiform ธา erythroderma (CIE) และ lamellar ichthyosis จะเห็นบ่อยที่สุดแบบ ichthyosis นำเสนอกับเยื่อกระจกเปียก อย่างไรก็ตาม เมมเบรนอาจอยู่ในกลุ่มอาการ Netherton และแบบฟอร์มอื่น ๆ หายากมากของ ichthyosis และเสมอปรากฏ ichthyosis ข้างขวานด้วย หลั่งเยื่อเล็กน้อยของทารก และไม่แสดงใด ๆ อื่น ๆ ผิวเกี่ยวข้อง ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "เด็กกระจกเปียกรักษาตนเอง"กระจกเปียกทารกมีภาวะแทรกซ้อนบางอย่างเสี่ยงสูง ถอดและปอกของเมมเบรนเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อจากจุลินทรีย์ ทารกเหล่านี้ยังมีความเสี่ยง การสูญเสียของเหลว คายน้ำ ความไม่สมดุลของอิเล็กโทร ความไม่เสถียรของอุณหภูมิร่างกาย โรค เด็กกระจกเปียกควรวางไว้ในห้องความชื้นสูง และตรวจสอบอย่างใกล้ชิดสำหรับภาวะแทรกซ้อน สภาพแวดล้อมความชื้นสูงจะทำให้ช้า ค่อย ๆ sloughing ออกเมมเบรน เมมเบรนจะมาปิดตัวเอง และไม่ควรปอกเปลือกออก แอพลิเคชันของ moisturizers ปิโตรเลียมตามอ่อนอาจช่วยความรู้สึกเด็กสะดวกสบายมากขึ้นในขณะเมมเบรนจะปอกเปลือกออกปรึกษากับแพทย์ที่เด็กจะต้องกำหนดที่ฟอร์ม ichthyosis อยู่ ถ้ามี (ติดต่อก่อนสำหรับจะแพทย์ที่คุ้นเคยกับ ichthyosis)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทารกคอโลเดียนเป็นคำอธิบายสำหรับทารกที่เกิด encased ในเมมเบรนแน่นเงาที่มีลักษณะห่อพลาสติก ทารกคอโลเดียนไม่ได้เป็นนิติบุคคลโรค แต่คือการแสดงออกครั้งแรกในรูปแบบบางส่วนของ ichthyosis. รอยแตกเยื่อคอโลเดียนและเปลือกในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ความหนาแน่นของเมมเบรนอาจจะทำให้เปลือกตาเปิดออกเผยให้เห็นฝาสีชมพู สภาพที่เรียกว่า ectropion Eclabium, หักเหออกจากริมฝีปากเนื่องจากความหนาแน่นของเมมเบรนที่อาจมาพร้อมกับ ectropion และอาจทำให้เกิดปัญหากับการพยาบาล เมื่อเมมเบรนที่มีการหลั่งสมบูรณ์ของทารกอาจแสดงหนึ่งของผิวหลายประเภท ichthyosis แต่กำเนิด ichthyosiform erythroderma (CIE) และ ichthyosis lamellar เป็นรูปแบบที่เห็นมากที่สุดของ ichthyosis นำเสนอด้วยเมมเบรนคอโลเดียน อย่างไรก็ตามเมมเบรนยังอาจจะอยู่ในกลุ่มอาการของโรค Netherton และรูปแบบอื่น ๆ ที่หายากมากของ ichthyosis และเป็นปัจจุบันเสมอกับ ichthyosis สีสรรค์ ร้อยละขนาดเล็กของทารกหลั่งเมมเบรนและไม่เคยแสดงการมีส่วนร่วมใด ๆ ที่ผิวอื่น ๆ ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "คอโลเดียนรักษาตัวเองทารก." ทารก Collodion มีความเสี่ยงสูงจากภาวะแทรกซ้อนบางอย่าง แตกและลอกของเยื่อหุ้มเซลล์เพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อจากจุลินทรีย์ ทารกเหล่านี้ยังมีความเสี่ยงในการสูญเสียน้ำแห้งความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลเสถียรภาพอุณหภูมิของร่างกายและโรคปอดบวม ทารก Collodion ควรอยู่ในห้องที่มีความชื้นสูงและติดตามอย่างใกล้ชิดสำหรับภาวะแทรกซ้อน สภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงจะช่วยให้ช้าค่อยๆลอกออกจากเมมเบรน เมมเบรนจะหลุดออกมาได้ด้วยตัวเองและไม่ควรปอกเปลือกออก แอพลิเคชันของ moisturizers ตามปิโตรเลียมอ่อนอาจช่วยให้ทารกรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นในขณะที่เมมเบรนที่มีการลอกออก. ปรึกษากับแพทย์ผิวหนังในเด็กจะมีความจำเป็นที่จะกำหนดรูปแบบของ ichthyosis เป็นปัจจุบันถ้ามี (การติดต่อครั้งแรกสำหรับการแนะนำแพทย์ผิวหนังคุ้นเคยกับ ichthyosis.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่เป็นคำที่บรรยายนอนตายทารกสำหรับทารกที่เกิดมาบรรจุในแน่นเงาที่คล้ายกับแผ่นพลาสติก มีเด็กนอนตาย ไม่ใช่โรค แต่เป็นนิติบุคคลนิพจน์แรกของบางรูปแบบของนกหนูแดง .

นอนตายเยื่อเปลือกแตก และผ่านหลักสูตรของหลายสัปดาห์ ความหนาแน่นของเยื่ออาจทำให้เปลือกตาจะเปิดออกเผยให้เห็นฝาด้านในสีชมพูสภาพที่เรียกว่าศิลปะพื้นบ้าน . eclabium , ออกมาจากริมฝีปาก เนื่องจากความหนาแน่นของเยื่อที่อาจมาพร้อมกับศิลปะพื้นบ้าน และอาจก่อให้เกิดปัญหากับพยาบาล เมื่อเยื่อบุจะหลั่งทารกอาจแสดงหนึ่งของหลายนกหนูแดงผิวประเภทichthyosiform แต่กำเนิด erythroderma ( CIE ) และการทนกหนูแดงเป็นส่วนใหญ่มักเห็นรูปแบบของนกหนูแดงเสนอกับนอนตายเมมเบรน อย่างไรก็ตาม เยื่ออาจจะอยู่ในกลุ่มอาการ Netherton และรูปแบบอื่น ๆที่หายากมากของนกหนูแดง และเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ด้วยสีสรรค์นกหนูแดง .ร้อยละขนาดเล็กของทารกหลั่งเยื่อเซลล์และไม่แสดงการมีส่วนร่วมผิวใด ๆอื่น ๆปรากฏการณ์ที่เรียกว่า " ด้วยตนเองนอนตาย เด็กน้อย

นอนตาย ทารกมีความเสี่ยงสูงของความซับซ้อน การลอกของเยื่อและเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อจากจุลินทรีย์ ทารกเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียของเหลวการคายน้ำความไม่สมดุลของอิเล็กโทร ,ความไม่แน่นอน , อุณหภูมิของร่างกาย และปอดอักเสบ นอนตายทารกควรอยู่ในห้องที่มีความชื้นสูง และดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับอาการแทรกซ้อน สภาพแวดล้อมความชื้นสูงจะช่วยให้ช้า ค่อยๆ ลอกคราบออกของเยื่อแผ่น เมมเบรนจะหลุดออกมาเอง และไม่ควรปอกเปลือกออกการประยุกต์ใช้อ่อนปิโตรเลียมที่ใช้ moisturizers อาจช่วยให้ทารกรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นในขณะที่เมมเบรนลอก

ปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเด็กจะต้องตรวจสอบ ซึ่งรูปแบบของนกหนูแดงอยู่ ถ้าใด ๆ ( ติดต่อก่อน เพื่อส่งต่อไปยังแพทย์ผิวหนังที่คุ้นเคยกับนกหนูแดง )