At the time I subbed the video, I t

At the time I subbed the video, I thought they cried because they were very touched by the support of fans who filled up Budokan theatre, the dream stage of any Japanese artists - that's why I called it "tears of joy" in my vid. Later on, when I watched their interview in "Star Show", I understood more that they had an incredibly hard time in Japan, that they even thought of giving up, that's why when performing on Budokan stage and receiving such enthusiasm from fans, all of memories about hard times in Japan went through their heads and they were also overwhelmed by the love of everyone. So I guess my interpretation of them crying "tears of joy" still makes sense.
P.S October 21, 2008: Just finished watching my/our boys in a radio show with MC Mong, then I went back to watch this vid. Can't believe I cried again after so many times watching this. Be it 6, 10 or 20 years, I pray that they would never change and so does my love for them.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในเวลาฉัน subbed วิดีโอ ฉันคิดว่า ร้องเพราะมากสัมผัส โดยการสนับสนุนของแฟน ๆ ที่เต็มโรงละครบุโดกัง ขั้นฝันของศิลปินญี่ปุ่น - ที่ว่าทำไม ผมเรียกว่า "น้ำตาของความสุข" ใน vid ของฉัน ในภายหลัง เมื่อเฝ้าดูสัมภาษณ์ของพวกเขาใน "ดาวแสดง" ฉันเข้าใจมากขึ้นว่า พวกเขามีเวลาที่ยากอย่างไม่น่าเชื่อในญี่ปุ่น ที่พวกเขาได้คิดท้อถอย ว่า มีทำไมเมื่อทำบนเวทีบุโดกัง และความกระตือรือร้นเช่นได้รับจากแฟน ๆ ความทรงจำเกี่ยวกับเวลายากในญี่ปุ่นทั้งหมดไปผ่านหัวของพวกเขา และพวกเขายังถูกจม โดยความรักของทุกคน ดังนั้นฉันเดาฉันตีความของพวกเขา ร้องไห้ "น้ำตาของความสุข" ยังทำให้รู้สึกP.S 21 ตุลาคม 2008: เพียงเสร็จดูชายข้าพเจ้าในรายการวิทยุกับ MC โมง แล้วไปดูปนี้ ไม่เชื่อข้าอีกครั้งหลังจากดูหลาย ๆ ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น 6, 10 หรือ 20 ปี สวดมนต์ที่พวกเขาจะไม่เปลี่ยน และไม่รักพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตอนนั้นผมซับวิดีโอ ฉันคิดว่าพวกเขาร้องไห้เพราะพวกเขาได้สัมผัสมาก โดยการสนับสนุนของแฟนๆ ที่เต็มไปด้วย บูโดกันโรงละคร , เวทีในฝันของศิลปินชาวญี่ปุ่น - นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเรียกมันว่า " น้ำตาแห่งความสุข " ใน vid ของฉัน ในภายหลังเมื่อฉันดูการสัมภาษณ์ของพวกเขาใน " ดาราแสดง " ผมเข้าใจมากขึ้นว่า พวกเขามีช่วงเวลาที่ยากเหลือเชื่อในญี่ปุ่นนั้น เขาเคยคิดท้อถอยนั่นคือเหตุผลที่เมื่อแสดงบนเวทีบูโดกันและได้รับความกระตือรือร้นดังกล่าวจากแฟนๆ ความทรงจำทั้งหมด เกี่ยวกับเวลาที่ยากในญี่ปุ่นผ่านศีรษะของพวกเขาและพวกเขายังตื้นตันในความรักของทุกคน ดังนั้นฉันคิดว่าการตีความของฉันของพวกเขาร้องไห้ " น้ำตาแห่งความสุข " ยังมีความหมาย .
ปล . 21 ตุลาคม 2008 : เพิ่งดูเสร็จฉัน / เราเด็กผู้ชายในรายการวิทยุกับพิธีกร หม่องแล้วผมก็กลับไปดูคลิปนี้ . ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันร้องไห้อีกครั้งหลังจากหลายครั้งที่ดูอยู่ เป็น 6 , 10 หรือ 20 ปี ผมอธิษฐานว่าพวกเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และดังนั้น ฉันรักพวกเขา