The use, environmental fate and eco

The use, environmental fate and ecological risks of antibiotics applied in tilapia cage farming were investigated in the Tha Chin and Mun rivers in Thailand. Information on antibiotic use was collected through interviewing 29 farmers, and the concentrations of the most commonly used antibiotics, oxytetracycline (OTC) and enrofloxacin (ENR), were monitored in river water and sediment samples. Moreover, we assessed the toxicity of OTC and ENR on tropical freshwater invertebrates and performed a risk assessment for aquatic ecosystems. All interviewed tilapia farmers reported to routinely use antibiotics. Peak water concentrations for OTC and ENR were 49 and 1.6 μg/L, respectively. Antibiotics were most frequently detected in sediments with concentrations up to 6908 μg/kg d.w. for OTC, and 2339 μg/kg d.w. for ENR. The results of this study indicate insignificant short-term risks for primary producers and invertebrates, but suggest that the studied aquaculture farms constitute an important source of antibiotic pollution.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้ ชะตากรรมสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศความเสี่ยงของยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการเลี้ยงปลานิลกรงถูกสอบสวนในแม่น้ำท่าจีนและมูลในประเทศไทย มีการรวบรวมข้อมูลในการใช้ยาปฏิชีวนะผ่านสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวเกษตรกร 29 และความเข้มข้นของยาที่ใช้บ่อยที่สุด ออกซิเตตราไซคลีน (ชเข้ากับกลุ่ม) และ enrofloxacin (ENR), มีการตรวจสอบในตัวอย่างน้ำและตะกอนแม่น้ำ นอกจากนี้ เราประเมินความเป็นพิษของชเข้ากับกลุ่มและ ENR ใน invertebrates ปลาเขตร้อน และดำเนินการประเมินความเสี่ยงสำหรับระบบนิเวศน้ำ ทั้งหมดสัมภาษณ์เกษตรกรนิลรายงานการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นประจำ ความเข้มข้นของน้ำสูงสุดชเข้ากับกลุ่มและ ENR ได้ 49 และ 1.6 μg/L ตามลำดับ ยาปฏิชีวนะตรวจพบบ่อยในตะกอนมีความเข้มข้นสูงสุด μg กิโลกรัม d.w. 6908 ชเข้ากับกลุ่ม และ d.w. 2339 μg/kg สำหรับ ENR ผลการศึกษานี้บ่งชี้ความเสี่ยงระยะสั้นไม่สำคัญสำหรับผู้ผลิตหลักและ invertebrates แต่แนะนำว่า ฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำศึกษาถือเป็นแหล่งที่สำคัญของมลพิษยาปฏิชีวนะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใช้ชะตากรรมด้านสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงต่อระบบนิเวศของยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการเลี้ยงปลานิลในกรงถูกสอบสวนในท่าจีนและแม่น้ำมูลในประเทศไทย ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะถูกเก็บรวบรวมผ่านการสัมภาษณ์เกษตรกร 29 และความเข้มข้นของยาปฏิชีวนะที่ใช้กันมากที่สุด OXYTETRACYCLINE (​​OTC) และ ENROFLOXACIN (ENR) ถูกตรวจสอบในน้ำและตะกอนแม่น้ำตัวอย่าง นอกจากนี้เราประเมินความเป็นพิษของ OTC และ ENR แบคทีเรียน้ำจืดเขตร้อนและดำเนินการประเมินความเสี่ยงสำหรับระบบนิเวศน้ำ ทั้งหมดสัมภาษณ์เกษตรกรปลานิลรายงานประจำใช้ยาปฏิชีวนะ ความเข้มข้นของน้ำที่จุดสูงสุดสำหรับ OTC และ ENR มี 49 และ 1.6 g / L ตามลำดับ ยาปฏิชีวนะที่ถูกตรวจพบบ่อยที่สุดในตะกอนที่มีความเข้มข้นถึง 6908 g / กิโลกรัม DW เพื่อ OTC และ 2,339 ไมโครกรัม / กิโลกรัม DW เพื่อ ENR ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นความเสี่ยงระยะสั้นที่ไม่มีนัยสำคัญสำหรับผู้ผลิตหลักและแบคทีเรีย แต่แนะนำว่าฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำการศึกษาเป็นแหล่งสำคัญของมลพิษทางยาปฏิชีวนะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้สิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงต่อระบบนิเวศ ชะตากรรมของยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการเลี้ยงปลานิล ในกรง คือ ท่าจีน และแม่น้ำมูน ในไทย ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะ รวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เกษตรกร 29 , และความเข้มข้นของยาปฏิชีวนะที่ใช้บ่อยที่สุดซัยคลิน ( OTC ) และนโรฟล๊ ซาซิน ( ENR ) ได้ตรวจสอบในน้ำและดินตะกอน .นอกจากนี้ เราประเมินความเป็นพิษของปลาในเขตร้อน ENR OTC และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และทำการประเมินความเสี่ยงสำหรับสัตว์น้ำระบบนิเวศวิทยา ทั้งหมดสัมภาษณ์ปลานิลเกษตรกรรายงานประจำใช้ยาปฏิชีวนะ ปริมาณน้ำสูงสุดสำหรับ OTC และ ENR คือ 49 และ 1.6 μกรัมต่อลิตร ตามลำดับ ยาปฏิชีวนะเป็นบ่อยที่สุดที่พบในตะกอนที่มีความเข้มข้นถึง 6908 μกรัม / กิโลกรัม d.w.สำหรับ บริษัท และ 2339 μ g / kg สำหรับ d.w. ENR . ผลการศึกษานี้บ่งชี้ถึงความเสี่ยงระยะสั้นมากสำหรับผู้ผลิตหลักและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง แต่ขอแนะนำให้ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ฟาร์มเป็นแหล่งสำคัญของมลพิษ ยาปฏิชีวนะ