the highest-risk groups, the preval

the highest-risk groups, the prevalence of stone disease
approached one in five persons. These findings represent a
marked increase in the prevalence of stone disease over the
intervening 15 years: In 1994, the reported prevalence of
stone disease in the NHANES sample was only 5.2% (ie, 1 in
20 persons) [1]. This dramatic increase in the prevalence of
stone disease persisted even after adjusting for the changes
in the US population since NHANES III.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กลุ่มความเสี่ยงสูงสุด ความชุกของโรคหินทาบทามบุคคลหนึ่งในห้า ค้นพบเหล่านี้แสดงถึงการทำเครื่องหมายเพิ่มความชุกของการเกิดโรคหินมากกว่าการแทรกแซง 15 ปี: 1994 ชุกรายงานของโรคหินในตัวอย่างของ nhanes แสดงให้เห็นได้เพียง 5.2% (ie, 1 นิ้ว20 คน) [1] ความชุกของการเพิ่มขึ้นอย่างมากโรคหินที่ยังคงอยู่แม้หลังจากการปรับปรุงสำหรับการเปลี่ยนแปลงในประชากรสหรัฐตั้งแต่ III nhanes แสดงให้เห็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่ความชุกของโรคหิน
เข้าหาหนึ่งในห้าคน การค้นพบนี้เป็นตัวแทนของความ
ชัดเจนมากขึ้นในความชุกของโรคหินที่ผ่าน
การแทรกแซง 15 ปีในปี 1994 รายงานความชุกของ
โรคหินในตัวอย่าง NHANES เป็นเพียง 5.2% (คือ 1 ใน
20 คน) [1] นี้เพิ่มขึ้นอย่างมากในความชุกของ
โรคหินยังคงอยู่แม้หลังจากปรับสำหรับการเปลี่ยนแปลง
ในประชากรสหรัฐตั้งแต่ NHANES III

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด ความชุกของโรคนิ่วเข้าหาหนึ่งในห้าคน การค้นพบเหล่านี้แทนการปรับตัวเพิ่มขึ้นในความชุกของโรคนิ่วมากกว่าแทรกแซงใน 15 ปี : 1994 รายงานความชุกของหินหรือโรคในตัวอย่างเป็นเพียง 5.2% ( เช่น 120 คน ) [ 1 ] นี้เพิ่มขึ้นในความชุกของนาฏศิลป์โรคนิ่วหายแม้หลังจากปรับสำหรับการเปลี่ยนแปลงในประชากรเราตั้งแต่หรือ III